YAHOO on April 20, 2018, 04:30:49 AM
ครั้งแรกของเมืองไทย! การแข่งขันกีฬาเพื่อวินมอเตอร์ไซค์ครั้งยิ่งใหญ่ น้ำมันอพอลโล (ไทย) จับมือ บช.น., บก.จร. และ ส.ชักกะเย่อไทย ผงาด การแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ โครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU”
น้ำมันเครื่อง “อิเดมิตสึ” โดยบริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องตัวจริงจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการตำรวจจราจร, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้รูปแบบการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ ในโครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU” เพื่อร่วมรณรงค์ให้วินมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคแก่ผู้โดยสาร พร้อมลุยจัดการแข่งขันชักกะเย่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่า 1,000 คน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนบาท เป็นครั้งแรกของเมืองไทย ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ ณ อาคารนิมิบุตร
พล.ต.ต. ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ ในโครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU” เป็นโครงการจัดการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาชักกะเย่อให้เป็นที่รู้จักในฐานะกีฬาแห่งพลังความสามัคคี ที่มีความคุ้นเคยกับวิถีชีวิตของคนไทยเรามาเป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ถือเป็นโอกาสอันดี ในการร่วมกันรณรงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ให้เกิดความปลอดภัย ด้วยการสวมหมวกกันน็อคทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนผู้ร่วมใช้เส้นทางอีกด้วย ซึ่งโครงการฯ ครั้งนี้ เกิดจากจากการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อันประกอบไปด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการตำรวจจราจร, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย, และหน่วยงานผู้สนับสนุนหลักจากภาคเอกชน คือ บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด
ด้าน คุณสุชาติ แจสุรภาพ อุปนายกสมาคมชักกะเย่อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในนามของสมาคมชักกะเย่อแห่งประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันผลักดันให้กีฬาชักกะเย่อสากลให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะหน่วยงานภาคเอกชน บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ที่สนับสนุนและสร้างโอกาสอันดีให้แก่เยาวชนไทย จนสามารถไปสร้างผลงานและก่อให้เกิดชื่อเสียงอันดีแก่ประเทศไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้ในเวทีระดับโลกได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของสมาคมฯ ที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับกติกาที่ใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นไปตามกติกาการแข่งขันของสหพันธ์กีฬาชักกะเย่อโลก (TWIF) โดยนำมาปรับแก้กติกาบางประการให้เหมาะสมกับผู้แข่งขันที่เป็นทีมมอเตอร์ไซค์รับจ้างมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย (1) จำนวนผู้เล่นในสนามจำนวน 8 คน/ทีม สำรองอีก 2 คน (2) น้ำหนักรวม 8 คน ต้องไม่เกิน 640 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยคนละ 80 กิโลกรัม (3) ระยะการดึงตามกติกาแพ้ชนะที่ระยะ 4 เมตร (4) การแบ่งสายการแข่งขันจะเหมือนกีฬาฟุตบอล มีการนับคะแนนเข้ารอบ แบ่งเป็นสายละ 4 ทีม พบกันในแต่ละสายจนครบ (5) ในการแข่งขันรอบที่ 2 จนถึงรอบชิงชนะเลิศ จะเป็นการแข่งขันแบบ ชนะ 2 ใน 3 ด้านอุปกรณ์ที่ใช้การแข่งขัน เราจะใช้ลู่ยางที่ใช้ในการแข่งขันจริงๆ และอนุญาตให้ผู้ที่เข้าแข่งขันใช้รองเท้าผ้าใบพื้นเรียบ ตลอดจนอนุญาตให้ใช้ถุงมือแบบปลายนิ้วโผล่แบบที่ใช้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดจากการแข่งขันได้
ดร.ภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น “IDEMITSU” (อิเดมิตสึ) “DAPHNE” (ดาฟเน่) ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องตัวจริงจากประเทศญี่ปุ่น และผู้สนับสนุนหลักในการจัดการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ โครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU” ในครั้งนี้ กล่าวว่า “บริษัทน้ำมันอพอลโล (ไทย) อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานร่วม 5 ทศวรรษ เราอยู่เคียงข้างทุกการเดินทางของคนไทยมาโดยตลอด ดังนั้น เราจึงมีความยินดีที่จะนำร่องให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อเพื่อวิน มอเตอร์ไซค์อย่างเป็นทางการขึ้นเป็นปีแรกในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม และต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ขับขี่บนท้องถนนหลักกลุ่มใหญ่ในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนผู้โดยสารของทุกวินได้สวมหมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังได้ร่วมส่งเสริมการเล่นกีฬาชักกะเย่อที่ถูกวิธี อันเป็นการสร้างความรักความสามัคคีต่อกันในกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นจำนวนกว่า 1,000 คนด้วย เราจึงรู้สึกเป็นเกียรติให้เกิดการจัดการแข่งขันรายการนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
“สำหรับเหตุผลที่เลือกเอากีฬาชักกะเย่อมาจัดการแข่งขันครั้งนี้ เพราะเราเล็งเห็นว่าสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทยเป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจพัฒนาให้กีฬาชักกะเย่อในประเทศไทยมีระบบการจัดการและพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่ รวมถึงก้าวขึ้นสู่ระดับทีมชาติอย่างมีคุณภาพ ประกอบกับกีฬาชักกะเย่อเป็นประเภทกีฬาที่มีโอกาสในการพัฒนาและยกระดับไปสู่แถวหน้าของทวีปเอเชียได้ เราจึงต้องการเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้วงการกีฬาชักกะเย่อไทยก้าวไปสู่จุดนั้น โดยก่อนหน้านี้ ทางอิเดมิตสึได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยของสมาคมชักกะเย่อในการเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศจีนในโครงการอิเดมิตสึ ส่งแรงใจ เชียร์ชักกะเย่อไทย สู่แชมป์โลก ตลอดจนร่วมสนับสนุนชุดการแข่งขันอย่างเป็นทางการของทางสมาคมฯ ด้วย นอกจากนี้ กีฬาชักกะเย่อยังเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะและความร่วมมือของคนในทีม จึงเหมาะสมที่จะใช้กีฬาประเภทนี้ในการสร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ของสังคม อย่างกลุ่มผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เราเลือกมาเป็นพระเอกหลักของงานนี้ ให้เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยได้อย่างต่อเนื่องผ่านเกมกีฬาอีกด้วย”
สำหรับการแข่งขันชักกะเย่อมอเตอร์ไซค์ โครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By IDEMITSU” จะเป็นการแข่งขันระหว่างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากทั่วกรุงเทพมหานคร รวมกว่า 100 ทีม มีตัวแทนมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากวินต่างๆ มาร่วมกิจกรรมรวมทั้งหมดกว่า 1,000 คน ซึ่งการแข่งขัน ฯ มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ณ อาคารนิมิบุตร เพื่อร่วมชิงรางวัลกว่า 100,000 บาท ได้แก่ ทีมชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมถ้วยและเหรียญรางวัล ทีมชนะเลิศรองอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมถ้วยและเหรียญรางวัล และทีมชนะเลิศรองอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยและเหรียญรางวัล นอกจากนี้ ยังมีรางวัล Lucky draw สำหรับจับรางวัลแจกผู้ที่เข้าร่วมงานอีกมากมาย อาทิ รางวัลที่ 1 รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110i จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำ 1 สลึง จำนวน 4 รางวัล รางวัลที่ 3 LCD TV 32 นิ้ว จำนวน 2 รางวัล รางวัลที่ 4 โทรศัพท์ Samsung Galaxy J7 core จำนวน 2 รางวัล และของรางวัลอภินันทนาการอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท
« Last Edit: April 20, 2018, 08:31:55 AM by YAHOO »
Logged