news on April 03, 2018, 03:14:36 PM
กลุ่มทรู ประกาศร่วมลงทุนโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำสายใหม่ SJC2 เสริมศักยภาพประเทศไทยให้เชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น![](http://image.free.in.th/v/2013/iv/180403082228.jpg)
![](http://image.free.in.th/v/2013/if/180403082307.jpg)
สุพจน์ มหพันธ์ (ซ้าย) วิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ (ขวา)กรุงเทพฯ 3 เมษายน 2561 – กลุ่มทรูและสมาชิกร่วมโครงการ Southeast Asia – Japan 2 consortium (SJC2) ได้ลงนามข้อตกลงกับ NEC Corporation ร่วมสร้างเครือข่ายสายเคเบิ้ลใต้น้ำประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการเชื่อมโยงระบบสื่อสารระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียเหนืออันได้แก่ สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยโครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำดังกล่าวมีความยาวกว่า 10,500 กิโลเมตร มีจุดการเชื่อมต่อทั้งหมด 11 จุดในภูมิภาค คาดจะสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020
ระบบเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงนี้จะมีความจุได้สูงสุดถึง 8 คู่ใยแก้วนำแสง (fiber pair) รองรับความจุ 144 เทราไบต์ต่อวินาทีเมื่อเริ่มต้น ซึ่งเทียบเท่ากับการทำสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูง ถึง 5.76 ล้านวิดีโอต่อวินาที ทำให้สามารถรองรับการใช้งาน วิดีโอสตรีมมิ่ง, วิดีโอระดับความคมชัดสูง, แอปพลิเคชั่นเสมือนจริง,การสื่อสารในระบบ 5G, ปัญญาประดิษฐ์, ระบบคลาวด์, การวิเคราะห์ข้อมูล, หุ่นยนต์ และ Internet of Things
![](http://image.free.in.th/v/2013/io/180403081724.JPG)
![](http://image.free.in.th/v/2013/id/180403082250.jpg)
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “โครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ SJC2 เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกลุ่มทรูในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีความสำคัญยิ่งต่อทั้งกลุ่มทรูและประเทศไทย ในฐานะบริษัทเอกชนของไทย เรามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำ SJC2 นี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการสื่อสารของชาติและสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล โดยเคเบิ้ลใต้น้ำดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะทำให้กลุ่มทรูสามารถเพิ่มศักยภาพและคงความเป็นผู้นำทางธุรกิจทั้งในด้านโมบายล์และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์”
![](http://image.free.in.th/v/2013/ig/180403081732.JPG)
![](http://image.free.in.th/v/2013/iq/180403082408.jpg)
นายสุพจน์ มหพันธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “โครงการ SJC2 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการสื่อสารทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค และยังแสดงถึงความตั้งใจที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายเกตเวย์ของกลุ่มทรูอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสะท้อนวิสัยทัศน์ของกลุ่มทรูในการเป็นผู้นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มุ่งตอบสนองความต้องการใช้งานบรอดแบนด์ที่เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ตลอดจนลูกค้ากลุ่มองค์กรที่กำลังปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ซึ่งความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำในอุตสาหกรรมเคเบิ้ลใต้น้ำระดับโลกในโครงการ SJC2 นี้ จะตอบโจทย์กลุ่มทรูในการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และยังเปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของอุตสาหกรรม รวมทั้งได้เรียนรู้ประสบการณ์และความชำนาญจากเหล่าพันธมิตรธุรกิจที่จะร่วมผลักดันโครงการจนสู่ความสำเร็จ”
“โครงการ SJC2 ตอบโจทย์แผนการขยายเกตเวย์ของกลุ่มทรู เพราะสามารถทำให้เพิ่มขนาดแบนด์วิดท์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และทำให้เครือข่ายเกตเวย์มีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งจะทำให้กลุ่มทรูมีโอกาสที่จะรุกขยายและสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ สามารถรองรับความต้องการใช้งานด้านสื่อสารโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค รวมทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ และยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเออีซี”
พันธมิตรธุรกิจที่เข้าร่วมสร้างและดำเนินการลงทุนในโครงการ SJC2 ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยี อาทิ China Mobile International, Chunghwa Telecom, Chuan Wei, Facebook, KDDI, Singtel, SK Broadband, กลุ่มทรู และ VNPT.
การเข้าร่วมในโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ SJC2 ของกลุ่มทรู จะเพิ่มความแข็งแกร่งและความหลากหลายของเครือข่ายเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศทั้งของบริษัทและของประเทศ อันเป็นความตั้งใจของกลุ่มทรู ที่จะนำเสนอเครือข่ายที่ดีที่สุด รองรับความต้องการใช้บริการด้านดิจิทัลและคอนเวอร์เจนซ์ที่หลากหลายตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนที่ต้องการใช้ดาต้าและสตรีมมิ่งอย่างรวดเร็วทันใจ ตลอดจนการใช้งานในดิจิทัลแพล็ตฟอร์มอื่นๆ รวมทั้ง IoT โซลูชั่นส์ ซึ่งจะตอกย้ำความเป็นผู้นำของประเทศทั้งในฐานะเป็นผู้ให้บริการบรอดแบนด์อันดับ 1 และผู้นำตลาดบรอดแบนด์ดาต้าไร้สาย ที่จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมด้านการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศของไทย
เกี่ยวกับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (ทรู)
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยเป็นบริษัทหลักของกลุ่มทรู ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมครบวงจรหนึ่งเดียวในประเทศไทย และเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ กลุ่มทรูแข็งแกร่งและโดดเด่นด้วยยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ที่สามารถนำเสนอบริการที่ผสมผสานเครือข่าย สินค้า และบริการภายในกลุ่มทรู โดยมีธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ คือ กลุ่มทรูโมบายล์ “ทรูมูฟ เอช” ผู้ให้บริการ 4G, 3G และ 2G ด้วยเครือข่ายที่ดีที่สุด ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสามารถให้บริการได้จริง ครบทุกย่านความถี่ ทั้ง 900/1800/2100 เมกะเฮิร์ตซ์ และบนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์ของ บมจ. กสท โทรคมนาคม ด้วยขนาดของแบนด์วิดท์ที่กว้างที่สุดในไทยจำนวน 55 MHz, ทรูออนไลน์ ผู้ให้บริการ “ทรู ซูเปอร์สปีด ไฟเบอร์” บรอดแบนด์และไวไฟบนเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้ง DOCSIS 3.0, ADSL และ FTTH, และทรูวิชั่นส์ ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกรายใหญ่ที่สุด ให้บริการทั่วประเทศ และเป็นรายแรกที่เปิดบริการคอนเท้นต์ในระบบ HD คุณภาพสูง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกอบด้วย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจครบวงจรชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มไชน่าโมบายล์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมูลค่าหุ้นรวม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มทรู สามารถค้นหาได้ที่ www.truecorp.co.th![](http://image.free.in.th/v/2013/id/180403082135.png)
« Last Edit: April 03, 2018, 03:20:58 PM by news »
Logged