ครม.เศรษฐกิจ ห่วงคนไทยใช้เครือข่ายเน็ตยุคไดโนเสาร์ สั่งไอซีทีเร่งขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงโครงข่าย Internet Broadband ของคนไทย หลังพบไทยอยู่ในอันดับสุดท้ายเมื่อเทียบกับกลุ่มภูมิภาค พร้อมไฟเขียว "ทีโอที-กสท" ใช้เครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง ร่วมกับการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง เนื่องจาก "กฟผ- กฟน-กฟภ" มีการลงทุนวางโครงข่ายหลักเอาไว้แล้ว แต่การใช้ทรัพยากรร่วมกัน ควรต้องพิจารณาความเหมาะสมของการเช่าใช้โครงข่าย มาตรฐานทางเทคนิค ความจุที่เหลืออยู่ และการบริหารจัดการโครงข่ายสื่อสาร
การประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กลับไปพิจารณาข้อเท็จจริง สภาพปัญหา และแนวทางการสร้างการเข้าถึง Internet Broadband ของประชาชนให้มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้อัตราการเข้าถึงโครงข่ายดังกล่าวยังอยู่ในระดับต่ำ
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายรัฐมนตรีไอซีทีกลับไปพิจารณาปัญหาและเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการเข้าถึงโครงข่าย Internet Broadband เนื่องจากพบว่า ขณะนี้ ประเทศไทยมีความล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก โดยให้กลับมารายงานในการประชุมครั้งหน้าว่า ติดขัดในเรื่องใดบ้าง เพื่อจะได้วางแนวนโยบายการพัฒนา Internet Broadband ในอนาคตต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำในระหว่างการประชุมวันนี้ โดยระบุว่า การเข้าถึงโคงข่าย Internet Broadband ของประเทศไทยอยู่ในอันดับเกือบสุดท้าย เมื่อเทียบกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน มาเลเซีย และเกาหลี
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังได้มอบหมายให้ทางกระทรวงไอซีที กลับไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมการแก้ไขสัญญาสัมปทานในส่วนของธุรกิจสื่อสาร เพื่อให้ผู้ประกอบการแข่งขันกันอย่างเสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง รวมถึงการวางแผนในอนาคตที่จะมีการออกใบอนุญาตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ครม.เศรษฐกิจ ยังได้พิจารณาแนวทางการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจกลุ่มการไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร ภายใต้การวางกรอบการลงทุนโครงข่ายสื่อสารในอนาคตของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) รวมทั้งกลุ่มรัฐวิสาหกิจสาขาไฟฟ้าให้ชัดเจน และไม่ดำเนินการที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรที่ลงทุนไปแล้วร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่กระทรวงการคลัง เห็นว่า การพัฒนาระบบ Internet Broadband ในอนาคต เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เข้าถึง Internet ความเร็วสูง ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าและสื่อสาร เพื่อป้องกันการลงทุนที่ซ้ำซ้อนในโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจากในปัจจุบันโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ของด้านไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ดำเนินการวางโครงข่ายหลักไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ครม.เศรษฐกิจมีความเห็นว่า ในการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจกลุ่มไฟฟ้าและกลุ่มสื่อสาร ควรต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมของการเช่าใช้โครงข่ายดังกล่าวทั้งในด้าน มาตรฐานทางเทคนิค ความจุที่เหลืออยู่ และการบริหารจัดการโครงข่ายสื่อสาร
ASTV