happy on March 25, 2018, 06:35:44 PM
มาสเตอร์การ์ดชู สมาร์ท ซิตี้ ในงานฟินเทคแฟร์ 2018
ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกในไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

มุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่ทุกระบบและทุกคนเชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพ


บุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา)- นางสาวณัชสิชา วรพฤกษ์พิสุทธิ์ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการพัฒนาตลาด มาสเตอร์การ์ด
นายโดนัล ออง ผู้จัดการประจำประเทศไทยแลเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด นายเบนจามิน กิลบี รองประธานอาวุโส ด้านการชำระเงินดิจิทัลและห้องแล็บทางการเงิน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด

มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) ผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงินระดับโลก ร่วมจัดแสดงบูธภายในงาน บางกอก ฟินเทค แฟร์ 2018 (Bangkok Fin Tech Fair 2018) งานแสดงเทคโนโลยีด้านการเงินที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ภายในบูธมาสเตอร์การ์ด “มาสเตอร์การ์ด สมาร์ท ซิตี้” นำเสนอคอนเซปของเมืองที่มีระบบเชื่อมต่อถึงกันอย่างมีประสิทธิภาพและทุกคนได้รับประโยชน์จากระบบต่างๆ เหล่านั้น โดยสมาร์ท ซิตี้ ถือเป็นการจัดการเมืองในยุคที่กำลังจะมาถึง

ทั้งนี้ มาสเตอร์การ์ดคาดว่า เมืองส่วนใหญ่ทั่วโลกจะขยายตัวเป็นมหานคร จากการที่ผู้คนย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยในเขตเมืองมากยิ่งขึ้นจากปัจจุบันร้อยละ 54 จะเพิ่มเป็นร้อยละ 70 ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและความเป็นอยู่ของประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในประเทศไทย มาสเตอร์การ์ดเห็นว่า สมาร์ท ซิตี้ สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ของรัฐบาลซึ่งมุ่งขับเคลื่อนประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล และสังคมไร้เงินสด


มร. เบนจามิน กิลบี รองประธานอาวุโส ด้านการชำระเงินดิจิทัลและห้องแล็บทางการเงิน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด ซึ่งเข้าร่วมการสัมนากับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารต่างๆและผู้บริหารด้านเทคโนโลยีทางการเงินอื่นๆ ในงานบางกอก ฟินเทค แฟร์ 2018 ในหัวข้อ The Importance of Common Standard and Interoperability to make cities connected กล่าวว่า “การวางมาตรฐานกลางร่วมกันจะเป็นกุญแจสำคัญของการเป็นสมาร์ท ซิตี้ เช่น กรุงเทพมหานคร เพื่อทำให้มีการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทยสู่การเป็นระบบเศรษฐกิจยุคดิจิทัล”

มร. โดนัลด์ ออง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด ให้ความเห็นว่า “ขณะที่ประเทศไทยกำลังพัฒนาตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้เป็นระบบเศรษฐกิจที่ใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน จึงจำเป็นจะต้องมีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เกิดระบบการเงินที่พัฒนายิ่งขึ้น สมาร์ท ซิตี้ จึงเป็นก้าวต่อไปในความร่วมมือที่มาสเตอร์การ์ดพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุน โดยที่ผ่านมา มาสเตอร์การ์ดได้ร่วมมือกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนในเมือง ช่วยให้เมืองสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการและมีข้อมูลที่ช่วยให้เข้าใจความต้องการและความจำเป็นของผู้อยู่อาศัยในเมืองและผู้ที่มาเยือนได้ดีขึ้น”

“ที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงความสำเร็จของนโยบายต่างๆ ของรัฐ ในความพยายามวางโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัล อาทิ การเปิดตัว “พร้อมเพย์” (PromptPay) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้แล้วถึง 39.3 ล้านราย1 โดยผ่านบัตรประจำตัวประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์มือถือ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมองหาเทคโนโลยีและความร่วมมือใหม่ๆ เพื่อให้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเงิน เศรษฐกิจดิจิทัลรวมทั้งสังคมไร้เงินสดครอบคลุมคนในวงกว้างขึ้น ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย” มร.โดนัลด์ กล่าว

มาสเตอร์การ์ดทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งพันธมิตรทางธุรกิจในเมืองต่างๆ กว่า 100 เมือง ทั่วโลกเพื่อพัฒนาเป็น “สมาร์ทซิตี้” โดยความร่วมมือที่มีขึ้นในเมืองต่างๆ อาทิ สิงคโปร์ ซิดนีย์ ลอนดอน นิวยอร์ก ได้นำนวัตกรรมแบบ contactless และการชำระเงินผ่านมือถือ (Mobile Payment) เข้าไปมีส่วนช่วยระบบคมนาคมขนส่งของเมืองต่างๆ เหล่านั้น มาสเตอร์การ์ดยังทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ ในการสร้างอัตลักษณ์ดิจิทัลทางการเงิน (digital financial identity) โดยเปิดโอกาสให้ประชากรจำนวนมากของประเทศที่ไม่มีสมุดบัญชีธนาคาร สามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินได้ รวมถึง สมาร์ท ไอดี การ์ด (Smart ID Card) ที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นหลากหลายเช่น การจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรเอนกประสงค์ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งการจ่ายเงินและไม่ใช่การจ่ายเงิน รวมถึง การรับสวัสดิการทางสังคมและค่าขนส่งมวลชนสาธารณะ

มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเปิดตัวมาตรฐาน QR Code ซึ่งสามารถรองรับการทำงานร่วมกันระดับโลกเพื่อให้ร้านค้าและผู้บริโภคชาวไทยสามารถซื้อขายและจับจ่ายใช้สอยในระบบอีเปย์เมนท์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังเปิดตัว “พร้อมการ์ด เดบิต มาสเตอร์การ์ด” (PromptCard Debit Mastercard) ซึ่งเป็นบัตรเดบิตเพื่อการทำธุรกรรมและซื้อสินค้าร่วมกับ National ITMX เพื่อสนับสนุนนโยบายการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาลในปีเดียวกันอีกด้วย


ในงาน Bangkok Fin Tech Fair 2018 มาสเตอร์การ์ดนำเสนอรูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่างมาสเตอร์การ์ดกับเมืองต่างๆ ในแนวทางหลักๆ ได้แก่

   ระบบขนส่งสาธารณะ (Transit) – มาสเตอร์การ์ดทำให้ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะสามารถชำระเงินด้วยการแตะบัตรเพียงครั้งเดียวทำให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวกและยังลดต้นทุนในการให้บริการขนส่งสำหรับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

   การจับจ่ายใช้สอยประจำวัน (Everyday Life) – มาสเตอร์การ์ดได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการนำเทคโนโลยี เช่น มาตรฐาน QR code ที่ทำให้ผู้ค้าและผู้ซื้อสามารถทำการค้าระหว่างกันผ่านช่องทางที่สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีแพลทฟอร์มการใช้งานบัตรที่แตกต่างกันก็ตาม

   การดำเนินธุรกิจแบบ B2B – มาสเตอร์การ์ดช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ใช้ประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลที่มี ควบคู่ไปกับนวัตกรรมการชำระเงิน เพื่อสร้างผลกำไรให้สูงขึ้น ชี้ให้เห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเพิ่มการเติบโตในธุรกิจออนไลน์


ข้อมูลจำเพาะ “มาสเตอร์การ์ดร่วมสร้างสมาร์ท ซิตี้ ทั่วโลก”

เมืองต่างๆ ในโลกกำลังจะกลายเป็นมหานครขนาดใหญ่มากขึ้น จากการที่ผู้คนย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยในเขตเมืองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมร้อยละ 54 เป็นเกือบร้อยละ 701

ด้วยข้อจำกัดทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาแต่เดิม ประกอบกับงบประมาณที่มีจำกัด รัฐบาลของแต่ละประเทศจึงต้องเผชิญความท้าทายในการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชากร ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่อาศัย การคมนาคม การจัดหาแหล่งพลังงานที่มีความเสถียร น้ำดื่มที่สะอาด และการเข้าถึงบริการด้านการเงินตามความเหมาะสม จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้อยู่อาศัยในมหานครจะต้องเข้าบริการต่างๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจที่เติบโตและเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กเติบโตได้ด้วย

สำหรับมาสเตอร์การ์ดแล้ว แนวความคิดเกี่ยวกับ “สมาร์ท ซิตี้” หมายถึงการทำให้เมืองต่างๆ มีระบบเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่นและเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์ ‘สมาร์ท ซิตี้’ ยังหมายถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและการนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคม รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนอีกด้วย

มาสเตอร์การ์ด ได้มีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร (NGOs) ในหลายประเทศทั่วโลก โดยวิสัยทัศน์ของมาสเตอร์การ์ดมุ่งที่จะสร้างเมืองคุณภาพสำหรับอนาคตใน 4 ด้านหลัก ได้แก่


1.   ระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ

   ความท้าทาย ร้อยละ 65 ของรูปแบบการชำระค่าบริการขนส่งมวลชนสาธารณะในมหานครเป็นการชำระด้วยเงินสด ซึ่งทำให้ผู้เดินทางไม่ได้รับความสะดวก เกิดความคับคั่งและเสียเวลา ในส่วนของผู้ให้บริการขนส่งก็มีต้นทุนสูง

   การแก้ไขปัญหา มาสเตอร์การ์ดร่วมมือกับเมืองต่างๆ กว่า 100 เมือง เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก สิงคโปร์ ซิดนีย์ เม็กซิโกซิตี้ และอีกหลายๆ เมือง เพื่อนำระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless) และชำระเงินด้วยการแตะบัตรเพียงครั้งเดียวมาใช้

   กรณีศึกษา มาสเตอร์การ์ดร่วมมือกับองค์การขนส่งทางบก (LTA) ของสิงคโปร์ เพื่อเปิดตัวระบบ ABT หรือ Account Based Ticketing เพื่อใช้ในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในสิงคโปร์ ผู้โดยสารสามารถใช้ระบบไร้สัมผัสของบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดในการชำระค่าบริการ หลังจากเปิดตัวบัตร ABT ปัจจุบัน

ผู้ใช้บริการขนส่งมวลชนกว่า 1 แสนคนในสิงคโปร์ที่ใช้มาสเตอร์การ์ดคอนแทคเลสเพื่อเดินทางกว่า 60,000 เที่ยวต่อวัน โดยไม่ต้องเข้าคิวยาวเพื่อซื้อบัตรหรือเพื่อเติมเงินบัตรอีกต่อไป


2.   การสร้างอัตลักษณ์ดิจิทัล

   ความท้าทาย ประชากรในวัยผู้ใหญ่มากกว่าสองพันล้านคนทั่วโลกไม่มีบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงินใดๆ ทำให้ขาดโอกาสในการลงทุนสำหรับอนาคต

   การแก้ไขปัญหา ทำให้ระบบการจ่ายค่าแรง หรือการรับสวัสดิการจากหน่วยงานของรัฐผ่านระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิคส์ ประชากรของเมืองนั้นๆ จะสามารถสร้างอัตลักษณ์ด้านการเงินของตนเองได้ ไม่ว่าจะโดยการใช้บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรเอนกประสงค์อื่นๆ ทำให้ประชาชนที่ไม่มีบัญชีธนาคารสามารถรับเงินที่โอนมาหรือจ่ายเงินได้

   กรณีศึกษา สาธารณรัฐทาทัสถาน (Tatarstan) ในสหพันธรัฐรัสเซียได้เปิดการใช้งานบัตรเอนกประสงค์ซึ่งสามารถทำบริการได้มากถึง 16 รายการ ทั้งด้านธุรกรรมการชำระเงิน และไม่ใช่การชำระเงิน รวมถึงการรับเงินสวัสดิการช่วยเหลือและการเดินทางโดยขนส่งมวลชนภายในเมือง

3.   การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

   ความท้าทาย ในหลายภูมิภาคทั่วโลก พบว่าธุรกิจขนาดเล็กมีจำนวนมากถึงร้อยละ 90 ของธุรกิจโดยรวมของประเทศ อย่างไรก็ตามธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้ ยังไม่สามารถรับการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น เงินสดหมุนเวียนสูญหาย

   การแก้ไขปัญหา มาสเตอร์การ์ดช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กสามารถรับการชำระเงินด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ได้ โดยตั้งเป้าหมายให้ร้านค้าขนาดย่อมและผู้ประกอบการจำนวน 40 ล้านคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ภายในปี พ.ศ. 2563 

   กรณีศึกษา มาสเตอร์การ์ดได้เปิดตัว QR Code มาตรฐานไปแล้วในประเทศอินเดียและประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเล็กของทั้งสองประเทศสามารถซื้อขายและจับจ่ายใช้สอยในระบบอีเปย์เมนท์ได้อย่างรวดเร็ว สะดวกและปลอดภัย

4.   การวางแผนเมืองโดยนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนา

   ความท้าทาย ในหลายๆ เมืองทั่วโลกยังมีข้อจำกัดในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในลักษณะเรียลไทม์ (Real-time)

   การแก้ไขปัญหา ระบบการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลในแต่ละเมือง สามารถให้ข้อมูลที่ทำให้รัฐบาลเข้าใจความต้องการของพลเมืองและปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้แก่พลเมือง

   กรณีศึกษา ในชิคาโก มาสเตอร์การ์ด ได้ทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์ และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อพัฒนาโปรแกรมที่ช่วยคาดการณ์ปริมาณความต้องการจำนวนเที่ยวเดินทางและจำนวนบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวโดยครอบคลุมทั่วทั้งเมือง ซึ่งช่วยผู้ให้บริการสามารถปรับการให้บริการและจำนวนเที่ยวบริการให้สอดคล้องในแบบเรียลไทม์

###

เกี่ยวกับมาสเตอร์การ์ด
MasterCard (NYSE: MA เว็บไซต์ www.Mastercard.com ) เป็นบริษัทเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการชำระเงินระดับสากล บริษัทฯ ดำเนินงานผ่านเครือข่ายกระบวนการชำระเงินที่รวดเร็วที่สุดในโลก เชื่อมต่อผู้บริโภค สถาบันการเงิน ผู้ค้า หน่วยงานรัฐบาล และ ธุรกิจในกว่า 210 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นของมาสเตอร์การ์ดช่วยให้ธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การจับจ่ายซื้อสินค้า การท่องเที่ยว การดำเนินธุรกิจ และการจัดการทางการเงิน เป็นเรื่องง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง ติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทฯ ได้ทาง ทวิตเตอร์ที่ @MastercardNews ร่วมสนทนากับบริษัทฯ ผ่านทาง Beyond the Transaction Blog และ สมัครที่นี่  เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดผ่าน Engagement Bureau
« Last Edit: March 25, 2018, 06:53:32 PM by happy »