happy on February 06, 2018, 10:02:03 PM
ดีแทคประกาศจ่ายเงินปันผล 0.24 บาทต่อหุ้น

30 มกราคม 2561 – ดีแทคประกาศรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายมีอัตราเติบโต 0.2% ในปี 2560 ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโทรคมนาคมสื่อสารไร้สาย รายได้จากบริการระบบจ่ายรายเดือนเติบโตแซงหน้ารายได้จากบริการระบบเติมเงิน เนื่องจากลูกค้าระบบเติมเงินได้ทยอยย้ายเข้าสู่ระบบรายเดือนอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากนี้ ความต้องการและอัตราการใช้งานบริการข้อมูลยังเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง EBITDA margin ของปี 2560 เพิ่มขึ้น 5% เป็น 38.9% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.4% ทั้งนี้ ดีแทคประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 0.24 บาทต่อหุ้น ซึ่งรอการอนุมัติจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560
 
ณ สิ้นปี 2560 ดีแทคมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 22.7 ล้านราย โดย 98% ลงทะเบียนอยู่ภายใต้บริษัทดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดีแทค และถือใบอนุญาตใช้คลื่น 2100 MHz จาก กสทช. จำนวนผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ล้านราย ส่วนอัตราการใช้งานอุปกรณ์โทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยี 4G เพิ่มขึ้นเป็น 51% ดีแทคยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในการขยายโครงข่าย โดยเพิ่มจำนวนสถานีฐานภายใต้ระบบใบอนุญาตขึ้น 32% ในปี 2560 ครอบคลุม 94% ของจำนวนประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ ดีแทคกำลังรอการอนุมัติเพื่อเปิดให้บริการไร้สายความเร็วสูงบนคลื่นความถี่ 2300 MHz ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อเพิ่มจำนวนแบนด์วิดท์สำหรับบริการ 4G
 
รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในปี 2560 อยู่ที่ 64,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากบริการข้อมูล ส่วน EBITDA อยู่ที่ 30,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากการขยายตัวของรายได้จากการให้บริการ ในขณะที่ค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ลดลง แต่ก็มีผลกระทบเล็กน้อยจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่ายภายใต้ระบบใบอนุญาต
 
แม้ว่าค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปี 2560 แต่กำไรสุทธิก็ยังเพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอันแข็งแกร่งของ EBITDA และผลประโยชน์ทางด้านภาษีจากการตัดค่าเสื่อมราคาพิเศษของเงินลงทุนในปี 2560 นอกจากนี้ กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (คำนวณจาก EBITDA หักด้วยเงินลงทุน) ก็ขยายตัวเกือบเท่าตัวจากปีก่อนเป็น 13,900 ล้านบาทในปี 2560
 
อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไร้สายของไทยยังคงขยายตัวและมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูง ดีแทคยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้และก้าวขึ้นเป็นดิจิทัลแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศภายในปี 2563 เราจะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของเราให้เข้าสู่รูปแบบดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับช่วยลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการให้บริการผ่านหน้าร้านแบบเดิม เราคาดหวังว่าลูกค้าจะเพิ่มการยอมรับในรูปแบบและช่องทางการให้บริการดิจิทัลของเรามากยิ่งขึ้น
 
สำหรับปี 2561 ดีแทคคาดการณ์ว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย และ EBITDA (ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงการให้บริการ 2300 MHz ที่มีกับทางทีโอที) จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทจะใช้เงินลงทุนในปี 2561 จะอยู่ที่ระดับ 15,000 -18,000 ล้านบาท


นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีแทค กล่าวว่า "ผลประกอบการของเราในปี 2650 ค่อนข้างใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของเรา ซึ่งมองว่า EBITDA มีโอกาสเติบโตสูง โดยปี 2561 จะเป็นปีที่สำคัญมากสำหรับดีแทค เนื่องจากสัญญาสัมปทานคลื่นความถี่จะสิ้นสุดลง โดยเรามุ่งมั่นที่จะจัดหาคลื่นความถี่เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายในการให้บริการดิจิทัลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ดีแทคได้มีส่วนร่วมสำคัญในการร่วมปรึกษาหารือและให้คำแนะนำแก่ กสทช. และภาครัฐในการจัดการประมูลคลื่นความถี่จากสัญญาสัมปทานที่หมดลง ในขณะเดียวกัน เราจะลงทุนในโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริการข้อมูล และสร้างคุณค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งมุ่งเดินหน้าเพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลของประเทศไทย"



dtac announces dividend of THB0.24 per share

January 30, 2018 – dtac reports service revenue excluding IC growth of 0.2% in 2017 amid intense competition in the wireless service market. Annual service revenue from postpaid segment has overtaken prepaid as prepaid customers continue migrating to postpaid plans. In addition, demand for data service remained strong, sustaining data consumption and revenue growth. EBITDA margin increased 5 percentage points in 2017 to 38.9%, and net profit grew 1.4%. dtac announces a dividend of THB0.24 per share, which is subject to an approval of shareholders at the AGM 2018.
 
At the end of 2017, total subscriber base stood at 22.7 million, approximately 98% of which registered under DTN, a subsidiary holding the 2.1GHz license from NBTC. Number of 4G subscribers and 4G-enabled device penetration continue to grow to 7.2 million and 51%, respectively. dtac continued to invest heavily in the network, with number of base stations under licensed network rose by 32% during 2017. Overall network coverage stood at 94% of total population. In addition, partnership with TOT on 2300MHz wireless business is awaiting approvals in order to increase 4G spectrum bandwidth.
 
Total service revenue excluding IC in 2017 amounted to THB64.8 billion, increasing 0.2% from a year earlier, mainly driven by revenue from data service. Moreover, EBITDA amounted to THB30.4 billion, rising 9%YoY from service revenue growth, and lower regulatory costs and SG&A expenses, which was partly offset by higher network OPEX from the densification of the licensed network.
 
Despite a huge increase in depreciation and amortization expenses, net profit in 2017 increased to THB2.1 billion as a result of strong EBITDA growth and tax benefit from extra depreciation of qualified capital investment in 2017. Furthermore, operating cash flow (EBITDA – CAPEX) in 2017 nearly doubled from last year level to THB13.9 billion.
 
Thai wireless industry continues to grow and be competitive. dtac will continue strengthening its perception and aiming to be the no. 1 digital brand in Thailand by 2020. We will digitize our operation, which would allow us to be more efficient and provide more customized and relevant offers to our customers, while realizing cost savings from reduced physical channels. We expect customers to increase the adoption of digital services and channels.

For 2018, dtac expects its service revenue (excluding IC) and EBITDA (excluding payment related to 2.3GHz deal to TOT) to be around the same level as the previous year. In addition, CAPEX of THB15 – 18 billion is expected to be spent during 2018.


Lars Norling, dtac's Chief Executive Officer, said "Our 2017 results were pretty much in line with our guidance, with huge upside on EBITDA. 2018 is going to be a critical year for dtac as we are entering the final year of the concession. We have a strong intention to secure more spectrums to strengthen our network capacity in order to offer the best digital services to our customers. We have been actively participating in the industry consultation process for the upcoming auction of the spectrums under concession. In the meantime, we'll continue to invest heavily in the network to accommodate the robust data growth, offer the best value to customers, and work our way to become digital leader in the market."