MSN on January 29, 2018, 03:43:20 PM
ข่าวประชาสัมพันธ์ แสนสิริเผยแผนธุรกิจปี 61 ก้าวแกร่งครั้งใหญ่สู่ “Tomorrow is Unfolded” ทุบทุกสถิติ New High ทั้งเป้ายอดขายและมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ เปิดตัว 31 โครงการ มูลค่าถึง 63,200 ลบ. ตั้งเป้ายอดขาย 45,000 ลบ.








แสนสิริ เผยแผนรุกธุรกิจครั้งสำคัญปี 2561 ก้าวแกร่งสู่โรดแมพการดำเนินธุรกิจ “Tomorrow is Unfolded”  ภายใต้ 7 กุญแจสำคัญ ได้แก่ รุกกว้างตลาดต่างชาติ – ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและระดับโลก – ลุยตลาดทาวน์เฮาส์ – เปิดตัว Condo รูปแบบใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์ฉีกจากกฎเกณฑ์เดิมๆ - รุกพัฒนา Digital Transformation ในทุกด้านต่อยอดความสำเร็จ – เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิธีการทำงานแบบ Agile เพื่อการเติบโตแบบก้าวกระโดด และมุ่งผลักดันวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงในทุกมิติ พร้อมแผนเปิดโครงการใหม่รวม 31 โครงการ มูลค่ารวม 63,200 ล้านบาท รุกตั้งเป้าพรีเซลล์ 45,000 ล้านบาททุบทุกสถิติ New High นอกจากนี้ยังเผยผลประกอบการปี 2560 ที่แข็งแกร่งน่าพอใจ จากยอดพรีเซลล์ 38,600 ล้านบาท เติบโต 24% จากปี 2559

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า “จากการดำเนินงานตามแนวคิด Journey for Tomorrow ที่มุ่งเน้นการปฏิวัติองค์กรอย่างรอบด้านในปีที่ผ่านมา ทำให้ก้าวแรกของ Journey ของเราประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและรายได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง และมีความพร้อมความแข็งแกร่งที่จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2561”

ความสำเร็จที่สำคัญในปีที่ผ่านมา ได้แก่ การเปิดตัวโครงการทั้งสิ้น 14 โครงการรวมมูลค่า 37,200 ล้านบาท และทำยอดพรีเซลล์สูงถึง 38,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24% จากปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากการทำการตลาดครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ รวมทั้งยังประสบความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมทั้งในกลุ่มลูกค้าไทยและกลุ่มลูกค้าต่างชาติ นอกจากนี้ การทยอยเปิดโครงการใหม่ตลอดทั้งปียังทำให้ แสนสิริมีรายได้กระจายต่อเนื่องตลอดทั้งปี สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินเป็นอย่างมากอีกด้วย

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้แสนสิริมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งประกอบด้วย 6 ประการ คือ

1)   ตอกย้ำความสำเร็จจากตลาดต่างชาติและครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของอสังหาฯ ไทย ในกลุ่มลูกค้าต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง จากการรุกการทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยแสนสิริสามารถทำยอดขายตลาดต่างชาติในปี 2560 ได้ถึง 9,300 ล้านบาท เกินจากเป้ายอดขายที่วางไว้ 7,500 ล้านบาท และเติบโตขึ้นถึง 72% เมื่อเทียบจากปี 2559

2)   การสานต่อการร่วมทุนกับพันธมิตร ทั้งกลุ่มบีทีเอส และโตคิวกรุ๊ป โดยในปี 2560 มีโครงการที่เปิดใหม่ทั้งหมด 4 โครงการรวมมูลค่า 14,100 ล้านบาท ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร ที่สามารถปิดการขายได้ทันที หลังเปิดขาย online booking ในวันแรก

3)   ความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งสามารถปิดการขายได้ 100% ในทั้ง 13 โครงการที่เปิดตัว รวมมูลค่าโครงการ 18,330 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36% จากปี 2559

4)   ประสบความสำเร็จในการขายโครงการที่อยู่อาศัยทุกแบรนด์ ตั้งแต่โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ เศรษฐสิริ บุราสิริ และ คณาสิริ โครงการคอนโดมิเนียมทุกโครงการ ได้แก่ แฟลกชิพคอนโดมิเนียม 98 Wireless, เดอะไลน์, เดอะ เบส คอนโดมิเนียมแบรนด์ เฮ้าส์  และ ดี คอนโด

5)   การเปิดประตูสู่การลงทุนในต่างประเทศรวมมูลค่า 80 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 2,650 ล้านบาท ใน 6 บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ The Standard, One Night, JustCo, Hostmaker, Monocle และ Farmshelf

6)   การพัฒนาด้าน Digital Transformation ใน 2 ด้าน คือ

•    การเปิดตัว “สิริ เวนเจอร์ส” (SIRI VENTURES) บริษัทร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อผลักดัน Property Technology อย่างเต็มรูปแบบ

•   Siri LifeTech ที่มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ครบครันและสะดวกสบายในทุกมิติ ได้แก่ Sansiri Home Service Application, AI Box, SAN:DEE Delivery Robot, Sansiri AI Box, Smart Move, Farmshelf และ Samitivej@Home 

“ในปี 2561 เราเห็นเทรนด์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยจะส่งสัญญาณที่ดีให้กับตลาดอสังหาฯ  ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับประสบการณ์แปลกใหม่ sharing economy trend มีผลต่อการใช้ชีวิตต่างจากรูปแบบเดิมๆ และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดทั้งโอกาสใหม่ๆและการ disruption ต่อหลายธุรกิจ ใครที่สามารถปรับตัว นำเสนอสิ่งที่โดนใจลูกค้าได้ก่อน และเป็นผู้กำหนด trend จะเป็นผู้ชนะในการทำธุรกิจ เราเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นการขยายตัวของตลาดและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นในปีนี้เราจึงมุ่งนำเสนอโครงการรวมถึงการบริการที่หลากหลาย สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ที่สำคัญคือการสานต่อการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศทั้งรายใหม่และเก่า” นายอุทัย กล่าว

สำหรับแนวทางสำคัญในการดำเนินธุรกิจของแสนสิริในปี 2561 แสนสิริจะก้าวแกร่งครั้งใหญ่สู่ “Tomorrow is Unfolded” ประกอบด้วย

1)   รุกเพิ่มตลาดต่างชาติเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและรักษาความเป็นที่หนึ่งในตลาดต่างประเทศ โดยมีการตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นถึง 40% จากปี 2560 เป็น 13,000 ล้านบาท เพื่อรองรับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเอเชีย โดยล่าสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดออฟฟิศในต่างประเทศเพิ่มขึ้นแห่งที่ 6 ที่ฮ่องกง รวมทั้งกำลังมองความเป็นไปได้ที่จะขยายสู่ตลาดอื่นๆ เช่น เกาหลี ไต้หวัน และสร้างฐานที่แข็งแกร่งมากขึ้นในญี่ปุ่น

2)   สานต่อกลยุทธ์การเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ สำหรับกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย จะมีโครงการใหม่จากการลงทุนร่วมกับบีทีเอสและโตคิว กรุ๊ป อีกประมาณ 4-6 โครงการ มีมูลค่ารวมประมาณ 12,000-19,000 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแผนเปิดโครงการที่พักอาศัย The Standard Residence และ Monocle Residenceเป็นครั้งแรกของโลก ส่วนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ JustCo บริษัทได้เตรียมเปิด 4 สาขา โดยจะเปิด 2 สาขาแรกที่อาคาร AIA Sathorn ในเดือนพฤษภาคม และอาคาร All Seasons Place ในเดือนสิงหาคม โดยเล็งมอบสิทธิพิเศษให้ลูกบ้านแสนสิริเข้าใช้บริการ  ส่วน Hostmaker จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ลูกบ้านและสร้างเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ

3)   เดินหน้าลุยตลาดทาวน์เฮ้าส์ สอดรับกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มซื้อโครงการทาวน์เฮ้าส์มากขึ้นประกอบกับความต้องการของทาวน์เฮ้าส์ในตลาดนั้นสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปีนี้แสนสิริจะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮ้าส์ใหม่ทั้งหมด 11 โครงการ รวมมูลค่า 9,600 ล้านบาท

4)   สร้างความแตกต่างด้วยดีไซน์ที่รังสรรค์เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตรอบด้าน ด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเซ็กเม้นต์ใหม่จำนวน 4 โครงการ ที่มีดีไซน์เฉพาะตัวออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง Lab Room และ Lab House ที่เราเรียกเป็นการภายในว่า Haus 2025 สำหรับการทดสอบห้องและบ้านเพื่ออนาคต โดยรวมถึงการทดสอบนวัตกรรมและเทคโนโลยี

5)   ก้าวสำคัญในการสานต่อ Digital Transformation Chapter 2 โดยมุ่งเน้น 3 ด้านได้แก่

o   มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและมองหานวัตกรรมที่นำมาต่อยอดได้สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม

o   มุ่งลงทุนต่อยอดโดยมีสิริ เวนเจอร์สเป็นหน่วยงานหลัก ด้วยแผนลงทุนระยะยาว 3 ปี งบประมาณทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท โดยจะเน้นงาน 3 ด้าน คือ การลงทุนในสตาร์ทอัพ ความร่วมมือในการผลักดันการสร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพ ร่วมกับเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก อาทิ SOSA และ Plug and Play รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมเพื่อพัฒนา Home Service Application ช่วยยกระดับความสะดวกสบายและการใช้ชีวิตของลูกค้า 

o   ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อให้การทำงานนั้นมีความคล่องตัวและก้าวเท่าทันยุคดิจิทัล

โดยการมุ่งเน้นทั้ง 3 ด้านนี้ จะทำให้เกิดผลงานเป็นรูปธรรมได้แก่

o   Product – นำเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง AI, IoT, Wearable และ Robot มาใช้สร้างนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกบ้านแสนสิริ

o   บริการ – ยกระดับการบริการลูกค้าเพื่อให้สะดวกสบาย รวดเร็วมากขึ้น ผ่าน Home Service Application 2.0 พร้อมฟังก์ชัน Thai Voice Command ที่พร้อมเปิดตัวให้ลูกบ้านทุกคนใช้ในไตรมาส 1 ปีนี้

o   เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร – โดยการนำระบบ Salesforce เข้ามาใช้ เพื่อพัฒนาระบบการทำการตลาด รวมถึงระบบการบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ Primavera ที่ช่วยควบคุมขั้นตอนการก่อสร้าง มาใช้ในองค์กรเป็นครั้งแรก

6)   การเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต ผ่าน 3 แนวคิด ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการและบริการในอนาคต 2) การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบใหม่ที่สร้างแรงจูงใจให้บุคลากรพร้อมดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มาร่วมงานกับแสนสิริ หนึ่งในแนวคิดที่แสนสิริใช้ตอนนี้คือ Every Day is Friday ทำให้บุคลากรมีความสุขและมีความกระตือรือร้นในการทำงานในทุกๆ วัน นอกจากนี้ยังมีการนำวิธีการทำงานแบบ Agile way of working มาใช้ โดยเป็นรูปแบบการทำงานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก มีอิสระทุกการทำงาน และเปิดรับทุกความคิดสร้างสรรค์โดยเอาความต้องการลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ  และ 3) การสร้างความมั่นคงในการทำงาน (Life-long Employability) มุ่งสร้างเสริมพัฒนาบุคลากรของแสนสิริให้มีคุณค่า มีความสามารถเติบโตไปสู่ความสำเร็จพร้อมกับองค์กรอีกด้วย นอกจากนี้แสนสิริมีแผนเปิดตัวโครงการ “New Generation of Young Designer” เพื่อเปิดรับเด็กรุ่นใหม่ที่พกพาไอเดียที่น่าสนใจมาผนวกกับความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ เพื่อพัฒนาโครงการและบริการที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

7)   เดินหน้าวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน (Sustainability) แสนสิริมุ่งสร้างความยั่งยืนภายในองค์กรผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่

o   Environment - อาทิ ลดการใช้กระดาษ (Paperless) ลดคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ผ่านการลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น เป็นต้น

o   Social – ที่ผ่านมาแสนสิริได้ร่วมกับยูนิเซฟเพื่อพัฒนาสิทธิเด็กในประเทศไทยมานานกว่า 7 ปีแล้ว และยังจัดกิจกรรมสำหรับเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กในไซต์งานก่อสร้าง นอกจากนี้ยังเน้นการออกแบบโครงการต่างๆ ให้ทุกคนสามารถใช้งานได้เท่าเทียมกัน หรือที่เรียกว่า Universal Design

o   Good Governance – ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงานอย่างโปร่งใส ถูกต้อง

“นับว่าปี 2561 นี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายสำหรับแสนสิริ ด้วยทิศทางการรุกตลาดเต็มสปีดด้วยเป้าพรีเซลล์ 45,000 ล้านบาท นับเป็นเป้าหมายที่สูงที่สุดจากทุกปี รวมถึงแผนเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 31 โครงการ รวมมูลค่า 63,200 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นมูลค่าโครงการที่สูงที่สุด แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 12 โครงการรวมมูลค่า 33,500 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 53%  บ้านเดี่ยว 8 โครงการมูลค่ารวม 20,100 ล้านบาทคิดเป็น 32% และทาวน์เฮ้าส์รวม 11 โครงการรวมมูลค่า 9,600 ล้านบาทคิดเป็น 15%  ซึ่งจากเทรนด์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปัจจัยเกื้อหนุนในทางบวก รวมทั้งทิศทางที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2561 เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายพรีเซลที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน นอกจากนี้แสนสิริยังพร้อมเดินหน้าสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ ให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ผ่านโครงการแนวใหม่ หรือ นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการสร้างชื่อให้แบรนด์แสนสิริกลายเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองในตลาดต่างประเทศอีกด้วย” นายอุทัยกล่าวปิดท้าย

ติดตามรายละเอียดข้อเสนอสุดพิเศษและข่าวสารที่น่าสนใจได้ที่
Sansiri PLC         @sansiriplc
« Last Edit: January 30, 2018, 02:36:33 PM by MSN »

MSN on January 29, 2018, 03:47:42 PM
Press Release Sansiri unveils 2018 business direction guided by “Tomorrow is Unfolded” strategy New high presale and project value set 31 new projects worth Bt63.2bn to be launched, presale target set at Bt45bn








Sansiri today announces a major 2018 business plan on the “Tomorrow is Unfolded” roadmap, outlining seven key strategies: growing presence in foreign customer segment; strengthening partnerships with Thai and foreign partners; expanding townhouse segment, introducing new condominium concept with unique experience to attract young generation; continuing on digital transformation to extend the success in every dimension; creating organization of the future through “Agile way of working” concept to accelerate the rapid growth; and driving sustainability in all business aspect. Under this roadmap, the company has set laid out an aggressive plan to introduce new projects, totalling 31 projects worth 63,200 million baht, and to achieve its new high target sales of 45,000 million baht this year. The company also announced overwhelming success in 2017 with a project presale growth of 24% from 2016 amounting to 38,600 million baht

Mr. Uthai Uthaisangsuk, Chief Operating Officer of Sansiri Public Company Limited,
said, “Last year, we launched a holistic corporate transformation project under the ‘Journey for Tomorrow’ concept. Today, our first journey to success has yielded good results in terms of sales and revenues, as well as our serious expansion in the overseas market, and prepared us for a constant strong growth in 2018.”

Key achievements last year included the launch of 14 projects with a combined value of 37,200 million baht and presale volumes of 38,600 million baht – a 24% increase over 2016, reflecting high market responses in all segments. We are also very successful in expanding customer base provincial areas and international markets.  More importantly, the fact that Sansiri launched new projects from time to time throughout the year enabled the company to record a constant revenue stream throughout the year and secured strong financial position.
 
The six key drivers for such strong performance are, as follows:
1)   Significant achievements in the overseas markets while maintaining leadership position as Thailand’s No. 1 property developer in the foreign customer segment. In 2017 the company saw the sales in its overseas markets increasing to 9,300 million baht against the 7,500 million baht target – a 72% increase over 2016.
2)   Strong partnerships with the BTS and Tokyu Group, under which four projects totalling 14,100 million baht were introduced. These projects were very much welcomed by Thai and foreign customers living in Thailand, as seen from the success of The Line Sathorn project of which all units were sold out in a few days after launch on online booking platform.
3)   Success in provincial market expansion where all the 13 property projects nationwide worth 18,330 million baht were fully sold out, representing a growth of 36% or 8,000 million baht from 2016.
4)   The sales success of all property brands, including single house brands like Setthasiri, Burasiri and Kanasiri, and all condominium projects, especially the flagship 98 Wireless, THE LINE, THE BASE, HAUS and dcondo.
5)   The success of global partnerships under which Sansiri invested US$80 million (2,650 million baht) in six of the world’s leading technology and lifestyle companies: The Standard, One Night, JustCo, Hostmaker, Monocole and Farmshelf.
6)   The launch of Digital Transformation in two areas:
•   The establishment of Siri Ventures, a joint venture between Sansiri and the Siam Commercial Bank to drive property technology development.
•   The launch of Siri Life Tech to provide its customers with superior living experience. Such technologies include Sansiri Home Service Application, Sansiri AI Box, SAN:DEE delivery robot, Smart Move, Farmshelf and Samitivej@Home.

“In 2018 we foresaw three significant trends – domestic and global economic recovery; the sharing economy is changing consumer behaviour and introducing a new way of living; and technology disruption that represents new opportunities for many businesses. We believe that the adaptive ability along with this technology disruption will be winning weapon in becoming the trendsetter of each industry.  All these factors contribute to a positive outlook of the property market expansion and spur consumers’ purchasing power. This year, we will, therefore, focus on offering a wide range of property projects with various impressive services that best address different needs of all customer groups and expanding customer base in Bangkok, provinces and foreign countries. Another important direction for this year is to continue and strengthen partnership with existing and new local and international companies.” said Uthai.

In 2018, Sansiri’s key business directions guided by “Tomorrow is Unfolded” strategy are:

1)   Expanding its business in the overseas market and maintaining its No. 1 position among Thai property companies by investing in the overseas market with a plan to invest 13,000 million baht (an increase of 40% from last year) to take advantage of the economic expansion in the global and Asian markets. Sansiri recently opened its sixth overseas office in Hong Kong and is looking for an opportunity to expand into other markets, such as South Korea and Taiwan, and strengthening its market positioning in Japan.

2)   Growing partnerships with local and international companies. For the residential market, the company has a secured plan to launch 4-6 projects worth 12,00-19,000 million baht in partnership with BTS and Tokyu Group; the launch of the world’s first Standard Residence and Monocle Residence.  For new business, Sansiri will launch JustCo co-working space in four locations, with the first two at AIA Sathorn in May 2018 and another at All Seasons Place in August 2018 and offer Sansiri’s customers with the privilege of using their services. Hostmaker will also start its property management services for Sansiri customers which will strengthen Sansiri’s competitive advantage in overseas markets.

3)   Aggressively expanding townhouse segment in response to the rising demand among young generation and rapid segment expansion. This year, Sansiri has 11 townhouse projects worth 9,600 million baht in the pipeline.

4)   Differentiating with unique design for enhanced living. New condominium segment will be opened with four projects with unique design for young generation. Internally, Sansiri has created out internal Lab Room and Lab House unit, called under the code name ‘Haus 2025’, to conduct the test for our future rooms and future projects, as well as to experiment our technologies and innovations.

5)   Continuing with Digital Transformation Chapter 2 with three areas of focus as follows:
•   Developing and seeking new technology and innovation with potential to be further developed to enhance Sansiri’s customers’ experience
•   Introducing 1,500-million-baht 3-year investment plan in high potential startups through Siri Ventures. Investment will be focused in three areas: investment in startups, cooperation with global network, such as SOSA and Plug and Play, in building eco-system for startups; and further developing innovations to enrich Home Service Application.
•   Restructuring to increase operational efficiency and flexibility to strengthen competitiveness in the digital era.

The three areas of focus are expected to generate following results:
•   Products: innovative service for the living experience enhancement and products will be enabled by advanced technology like AI, IoT, Wearable, and Robot
•   Service enriched by innovative Home Service Application 2.0 with Thai Voice Command to be launched in the 1st quarter this year
•   Internal operational efficiency enhanced through the “Salesforce” system for improved marketing and customer service efficiency. Primavera system will also be implemented for the first time in managing and controlling construction related works.

6)   Building an organization of the future within the frame work of three concepts: 1) Data Analytics; 2) A new work culture that will attract younger generation to work with Sansiri. Called “Every Day is Friday”, the new culture creates a dynamic work environment that makes its employees more energetic and happy in their daily routine. The “Agile Way of Working” also empowers Sansiri’s employees with more freedom to work, reduces complicated process, opens for new ideas that will meet customers’ need and directly addresses young generation’s need; and 3) Life-long Employability.  In addition, Sansiri plans to introduce the “New Generation of Young Designer” project which recruits young generation into the company. By combining their creative ideas with Sansiri’s expertise and experience, the company will be able to unlock any limitation and create property projects, as well as provide the services that meet young generation demand. At the same time, the company is strongly committed to improving its employees’ capability and giving them the opportunity to grow with the company.

7)   Driving the organization vision towards sustainability through 3 internal key areas:
•   Environment: becoming a paperless organization, low carbon foot print
•   Social contribution:  cooperating with UNICEF in creating activities to promote better quality of life for young children living in construction sites, which has continued for seven years; and the implementation of Universal Design concept in all projects
•   Good Governance: operating with transparency and fairness
 
“For Sansiri, 2018 will be another challenging year with our new high presale target of 45,000 million baht and 31 new project launch worth 63,200 million baht. Of all these new projects, we will launch 12 condominium projects worth 33,500 baht projects (53% of the total annual project value); eight single house projects worth 20,100 million baht (32% of the total annual project value); and 11 townhouse projects worth 9,600 million baht (15% of the total annual project value).  When considering the economic recovery, other positive factors and our solid business direction, we are confident in achieving the presale target as planned. We are also confident of creating a new phenomenon in the Thai property market and putting Sansiri on the world’s property market map more prominently as a most-watched property developer in the international arena,” said Uthai.

For more information on Sansiri, click
Sansiri PLC       @sansiriplc
« Last Edit: January 30, 2018, 02:37:07 PM by MSN »