FANCLUBENJOYJAM on July 06, 2016, 03:55:28 PM
“หน่อย-บุษกร” ถือฤกษ์ดีลั่นฆ้องบวงสรวง “ระเริงไฟ” จับ2ซุปตาร์ “เคน-ธีรเดช” และ “นุ่น-วรนุช” ประชันฝีมือ









          "หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์" ในนาม บริษัท ซิติเซ่น เคน จำกัด ถือฤกษ์ดี เช้าวันศุกร์ที่1 กรกฎาคม 2559 ลั่นฆ้องบวงสรวงละครสุดแซ่บแห่งปี "ระเริงไฟ" ณ ช่อง3หนองแขม งานนี้นำทีมโดย 2นักแสดงมากฝีมือแห่งวงการมายา "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" และ "นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี" ร่วมด้วยนักแสดงเจ้าบทบาทอีกคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นอั๋น-วิทยา วสุไกรไพศาล, ไอซ์-อามีนา กูล, แชมป์-ชนาธิป โพธิ์ทองคำ, ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์, ฝน-สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ, แมทธิว ดีน, พาย-รินรดา แก้วบัวสาย และ มุก-สิรินรัตน์ วิทยพูม เรียกได้ว่าบรรยากาศในพิธีบวงสรวงเต็มไปด้วยความคับคั่ง มีแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม อีกทั้งกองทัพสื่อมวลชนต่างก็ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

          "ระเริงไฟ" เรื่องราวของชาคริต (รับบทโดย เคน-ธีรเดช) นักธุรกิจหนุ่มรูปงามผู้มาพร้อมกับไฟแค้น ภารกิจของเขาคือทำลายพวกเมธาสิทธิ์!! ญาดา (รับบทโดย นุ่น-วรนุช) บุตรสาวคนโตของบ้านเมธาสิทธิ์ กระโจนลงเล่นไฟเพื่อปกป้องน้องสาวจนตัวเธอเองเกือบจะต้องมอดไหม้ ไฟอุ่นบริสุทธิ์ในจิตใจเบื้องลึกของญาดาจะเปลี่ยนไฟแค้นที่สุมรุมใจของชาคริตได้หรือไม่? หรือทั้งสองจะต้องมอดไหม้เป็นจุลไปพร้อมกัน...

          งานนี้เห็นทีแฟนๆคงจะพลาดไม่ได้ซะแล้วกับละครสุดเข้มข้นแห่งปี "ระเริงไฟ" เพราะนอกจากจะยกทัพนักแสดงมากฝีมือมาประชันบทบาทกันแล้ว เนื้อเรื่องของละครก็ยังมีความสนุก ครุกรุ่นแห่งเพลิงไฟ ให้แฟนๆได้รอลุ้นและติดตามชมไปพร้อมๆกัน ทางไทยทีวีสีช่อง3 หรือช่อง33 HD เร็วๆนี้

FANCLUBENJOYJAM on November 22, 2017, 08:51:56 AM
“เคน-นุ่น”จับคู่เชือดเฉือน ปะทะฝีมือใน “ระเริงไฟ”









          ได้คิวออกอากาศแล้วสำหรับละครดราม่าเข้มข้นเรื่อง "ระเริงไฟ" ของผู้จัด หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์ บริษัทซิติเซ่น เคน จำกัด สร้างจากบทประพันธ์ของ โสภี พรรณราย บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา กำกับโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล ซึ่งเป็นการจับคู่ประชันฝีมือกันเป็นครั้งแรกของพระนางเจ้าบทบาท เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี ร่วมด้วยดาราเจ้าบทบาทอีกคับคั่ง

          เรื่องเริ่มที่ชาคริต(ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์)นักธุรกิจหนุ่มผู้มีไฟแค้นสุมใจ ต้องการแก้แค้นครอบครัวเมธาสิทธิ์ เพราะในอดีต ดิลก เมธาสิทธิ์(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์)ได้เปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ฉ้อโกง ต้มตุ๋น แล้วโยนความผิดให้กาจ(ทนงศักดิ์ ศุภการ)พ่อของชาคริต จนต้องติดคุกนานกว่า 20 ปี ชีวิตของชาคริตก็ซัดเซพเนจร ชาคริตจึงกลับมาเพื่อต้องการแก้แค้น โดยเริ่มจากการหลอกให้เขมิกา(อามีนา กูล)ลูกสาวคนที่สองของดิลกรักและแต่งงานด้วย แต่ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หายตัวไป ทำให้เขมิกาเสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย ดีที่ทัศนะ(วิทยา วสุไกรไพศาล) เพื่อนสนิทของชาคริตช่วยเอาไว้ได้ทัน ดิลกรู้สึกเสียหน้าและโมโหมากจนทรุดต้องเข้าโรงพยาบาล ขณะที่ ญาดา(วรนุช ภิรมย์ภักดี)พี่สาวของเขมิกา ซึ่งเพิ่งกลับจากต่างประเทศ รู้เรื่องความทุกข์ของน้องสาวก็โมโหเช่นกัน ไตรทศ(ชนาทิป โพธิ์ทองคำ) ลูกชายคนเล็กของดิลก ตามหาชาคริตไม่เจอ ขณะเดียวกันเมื่อชาคริต เจอกับญาดา ก็เปลี่ยนเป้าหมายใหม่มาที่ญาดาโดยพยายามทุกวิถีทางที่จะกดดันให้ญาดาแต่งงานกับเขา โดยอ้างว่ามีหลักฐานสำคัญที่จะทำให้ดิลกติดคุก ถ้าญาดาไม่ทำตามความต้องการของเขา พ่อของเธอไม่พ้นคุกแน่นอน

          ชาคริตไม่สนใจว่าญาดาจะมีคู่รักแล้วชื่อกสิณ(แมททิว ดีน) ทั้งยังร่วมวางแผนกับปาริฉัตร(อริสรา ทองบริสุทธิ์) ลูกเลี้ยงของดิลก แย่งกสิณไปจากญาดาจนได้ ญาดาพยายามต่อสู้กับความต้องการของชาคริตเต็มที่ ส่วนไตรทศแค้นแทนพี่สาว คิดจะทำให้ชญานี(รินลดา แก้วบัวสาย)น้องบุญธรรมของชาคริตต้องเสียใจและเสียชื่อเสียงบ้าง แต่ไม่สำเร็จ ชาคริตไปช่วยได้ทัน ญาดาด่าว่าน้องชายที่ทำตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ คิดจะรังแกผู้หญิง ไตรทศคิดได้ ตามขอโทษชญานี แต่ชาคริตเห็นว่ามาตามก่อกวน ก็จัดการให้ลูกน้องซ้อมไตรทศจนน่วม

          ชาคริตวางแผนการต่างๆนานาทำให้เขมิกากับญาดาแตกคอกัน ทั้งเรื่องงานและเรื่อง

          ของชาคริต สุดท้ายญาดาต้องตัดสินใจยอมแต่งงานกับชาคริตจนได้ การแต่งงานเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับไฟแค้นในใจของทั้งสองฝ่าย เรื่องราวความรักความแค้นของชาคริตและญาดาจะดำเนินไปอย่างไร ก็ต้องติดตามชมดู...
เคน-ธีรเดช กล่าวถึงบทบาทในเรื่องนี้ว่า

          "เรื่องนี้รับบทเป็น "ชาคริต" ผู้ชายที่จมอยู่ในอดีต ลืมอดีตที่เจ็บแค้นไม่ได้ จมอยู่กับความแค้นที่พ่อตัวเองต้องกลายเป็นคนล้มละลาย โดนใส่ความจนติดคุกนานกว่า 20 ปี ก็เลยกลับมาแก้แค้นครอบครัวนางเอก เริ่มจากหลอกให้ไอซ์-อามีนา น้องสาวนุ่น-วรนุช แต่งงาน แต่เจ้าบ่าวไม่ปรากฏตัว ทำให้หัวหน้าครอบครัวอย่างพี่ปู-อนุวัฒน์ เสียใจและเสียหน้า แต่ชาคริตไม่ยอมหยุดแค่นั้น ต้องการทำให้ธุรกิจของศัตรูล้มละลายด้วย และก็ต้องการทำลายความรักในครอบครัวเมธาสิทธิ์ โดยนางเอกนุ่น-วรนุช ก็เป็นเหยื่ออีกคนในการแก้แค้น เจอกันก็เลยมีเกมการต่อสู้ เชือดเฉือนกัน ไม่มีใครยอมใคร กลายเป็นความรักความแค้นที่วุ่นวาย เรื่องนี้ผมกับคุณนุ่นได้มาร่วมงานด้วยกันเป็นครั้งแรก ก็สนุกดีครับ เพราะต่างคนต่างแสดงแบบจัดเต็มทั้งดราม่า ทั้งหวานกุ๊กกิ๊ก มีหมดเลย แต่ละฉากก็จะลุ้นกันว่าพระเอกวางแผนอะไร แล้วนางเอกจะรับมือยังไง ไหวมั้ย ก็อยากให้ลองติดตามชมละครตั้งแต่ต้นจนจบนะครับ"

           ด้านนางเอก นุ่น-วรนุช พูดถึงบท "ญาดา" ลูกสาวคนโตของตระกูลเมธาสิทธิ์ว่า

          "คาแรกเตอร์ในเรื่องจะเป็นแบบสาวแบกโลก เหมือนแบบต้องคอยรับปัญหาทุกอย่างในบ้านที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธุรกิจ ครอบครัว ของพ่อ ของน้อง เพราะเป็นพี่คนโต ก็จะมีความผูกพันกับน้องๆค่อนข้างเยอะมาก เพราะฉะนั้นตัวละครตัวนี้ จะเป็นตัวละครที่จะคอยเจอปัญหาอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยสู้กับพระเอก เรื่องนี้ก็จะมีฉากดราม่าร้องไห้เยอะเหมือนกัน เพราะแบบพระเอกร้าย แผนการเยอะมาก สู้เค้าไม่ไหว กดดันเราตลอดเวลา เป็นเรื่องของอารมณ์ จิตใจ ความรัก ความแค้น ความถูกผิด หลากหลายมาก ได้ร่วมงานกับพี่เคน ก็ดีมากเลยค่ะ เพราะพี่เคนส่งอารมณ์มาดีมาก ทั้งฉากดราม่า ฉากหวาน มีหมด ทำให้ละครค่อนข้างครบรส ดูไปลุ้นไป ว่าจะไปต่อยังไงค่ะกับเรื่องราวต่างๆ อยากให้ลองตามชมดูค่ะ"

          ติดตามชมละคร "ระเริงไฟ" ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น.ช่อง 3 เริ่มจันทร์ที่ 4 ธันวาคมนี้ตอนแรก...

FANCLUBENJOYJAM on November 22, 2017, 08:53:11 AM
เรื่องย่อ: ระเริงไฟ





          บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย บทโทรทัศน์โดย : พิมพ์ธนา

          กำกับการแสดงโดย : กฤษฎา เตชะนิโลบล

          ดำเนินงานสร้างโดย บุษกร วงศ์พัวพันธ์ บริษัทซิติเซ่น เคน จำกัด

          ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น.ช่อง 3 เริ่ม 4 ธันวาคมนี้

          ชาคริตนักธุรกิจหนุ่มรูปงามผู้มาพร้อมกับไฟแค้น ภารกิจของเขาคือทำลายพวกเมธาสิทธิ์! ญาดา บุตรสาวคนโตของบ้าน กระโจนลงเล่นไฟเพื่อปกป้องน้องสาวจนตัวเธอเองเกือบจะต้องมอดไหม้!! ไฟอุ่นบริสุทธิ์ในจิตใจเบื้องลึกของญาดาจะเปลี่ยนไฟแค้นที่สุมรุมใจของชาคริตได้หรือไม่? ฤาทั้งสองจะต้องมอดไหม้เป็นจุลไปพร้อมกัน!
          เรื่องเริ่มที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งกำลังมีงานฉลองคืนวิวาห์ของเขมิกา เมธาสิทธิ์ (อามีนา กูล)บุตรสาวตระกูลดังที่มากไปด้วยผู้นับหน้าถือตา กับ ชาคริต(ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์)หนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ แต่เจ้าสาวก็ต้องยืนน้ำตานองหน้าเพราะเจ้าบ่าวหายตัวไป ญาดา(วรนุช ภิรมย์ภักดี) พี่สาวของเขมิกา เดินทางกลับจากอังกฤษอย่างเร่งด่วนเพื่อมาให้ทันงานแต่งงานของน้องสาว เมื่อญาดามาถึงงานแต่งงาน กลับได้พบกับเขมิกาในสภาพที่ดวงใจแหลกสลาย คนอ่อนไหวอย่างเขมิกาไม่อาจรับสภาพเจ้าสาวถูกทิ้งได้!! เธอจึงแอบหนีไป ทำให้ดิลก(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์)พ่อของเขมิกา ที่มีโรคประจำตัวอยู่ถึงกับทรุด! ญาดา และ ไตรทศ(ชนาธิป โพธิ์ทองคำ) น้องชายคนเล็กรีบเร่งกันออกตามหาตัวเขมิกา ขณะที่กมลพรรณ(สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) ภรรยาใหม่ของดิลกต้องแสร้งว่าทุกข์ร้อนเพื่อเอาใจดิลก ส่วนปาริฉัตร(อริสรา ทองบริสุทธิ์) ลูกสาวของเธอ ซึ่งดิลกได้รับมาเป็นลูกบุญธรรมถึงกับแอบสะใจ ปาริฉัตรรู้สึกว่าตัวเองนั้นด้อยกว่า จึงแอบอิจฉาเขมิกา และญาดามาโดยตลอด และเธอยังแอบต้องใจชาคริตอีกด้วย เมื่อชาคริตทิ้งเขมิกาไป ปาริฉัตรจึงพอใจมาก ขณะที่ชญานี(รินรดา แก้วบัวสาย) น้องสาวบุญธรรมที่ชาคริตดูแลมาแต่เล็กกลับโล่งใจที่เธอไม่ต้องเสียพี่ชาคริตที่เธอแอบหลงรักมานานไปให้กับหญิงอื่น ทัศนะ(วิทยา วสุไกรไพศาล)เพื่อนสนิทของชาคริตที่เป็นคนจิตใจดี หนักแน่นและรักเพื่อน ก็รู้สึกไม่พอใจที่ชาคริตทำเช่นนี้ ขณะที่เขมิกาเสียใจ คิดจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ดีทีทัศนะไปเจอ ช่วยไว้และพากลับบ้าน เขมิกายอมไปพักใจที่บ้านทัศนะ มีเพ็ญขวัญ(สิรินรัตน์ วิทยพูม)น้องสาวทัศนะช่วยดูแล ไตรทศพยายามหาตัวชาคริต แต่ก็ไม่เจอ ที่สุดชาคริตไปหาดิลกที่โรงพยาบาล ทะเลาะกันจนดิลกอาการทรุด ญาดาได้รู้จักชาคริตตัวจริงเสียที การประกาศความเป็นศัตรูคู่แค้นกำลังเริ่มต้นขึ้น
          ไตรทศตามคุกคาม ชญาณีเพื่อล่าตัว ชาคริต แต่ก็ไม่เจอ ชาคริตนัดเขมิกา และญาดาไปเจอกันในผับ แต่คลาดกัน ญาดาเห็นเขมิกาขึ้นรถแท็กซี่ออกไปอย่างเมามาย ก็เป็นห่วง ชาคริตคอยกั้นขวางไม่ให้ญาดาเจอกับเขมิกา ชาคริตเดินเกมต่อด้วยการซื้อหุ้นบริษัทบีสตาร์ของดิลกเอาไว้ 60 เปอร์เซ็นต์ ดิลกเหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ไตรทศกับญาดาโมโหมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ ญาดาบุกไปบริษัททีมาร์ทของชาคริต พร้อมเอารองเท้าที่ชาคริตเคยให้ไปคืน ชาคริตรู้สึกสนุกที่จะเล่นเกมต่อกรกับญาดา ทะเลาะกันในลิฟท์ คู่นี้ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ เขมิกานัดชาคริตไปหาที่ผับ ชาคริตบอกให้ทัศนะไปรับกลับบ้าน ชาคริตไปเยี่ยมกาจ(ทนงค์ศักดิ์ ศุภการ)ผู้เป็นพ่อในคุก ชาคริตยังแค้นที่กาจต้องติดคุกนานกว่ายี่สิบปี เพราะโดนดิลกหักหลัง ดิลกป่วยอยู่โรงพยาบาลก็ยังอาละวาดวุ่นวาย เขมิกาลืมแหวนสำคัญที่ญาดาให้ไว้ที่ผับ ชาคริตเก็บได้ พอดีญาดาตามมาหาเขมิกาอีก ชาคริตก็เลยโชว์แหวน พร้อมพูดจาข่มขู่ญาดา ทำให้เธอยิ่งเจ็บใจ
          ไตรทศจำใจต้องฝึกงานที่บริษัททีมาร์ทของชาคริต เพื่อรักษาบริษัทเอาไว้ ชญานีให้ฝึกงานตั้งแต่พนักงานขนของระดับล่าง ญาดาไปหาชาคริตที่บริษัทเพื่อถามหาที่อยู่ของเขมิกา เกือบโดนชาคริตรังแก แค้นใจที่ทำอะไรไม่ได้ กสิณ(แมททิว ดีน) แฟนของญาดากลับมาจากเมืองนอก รู้เรื่องชาคริต ก็เลยเสนอแผนจัดการชาคริต แฮ็กข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบริษัทชาคริตจนป่วน ชาคริตแค้น ยอมรับว่าประมาทญาดาไม่ได้สำหรับเกมนี้ เขมิกาไปเยี่ยมดิลกและยอมกลับบ้าน ทุกคนดีใจ ญาดาไปทานข้าวกับกสิณ โดนชาคริตตามราวี ชาคริตวางแผนกักญาดาในห้องสูทที่พัก คุกคามเอาเปรียบญาดา และทำให้ต้องค้างคืนในห้องสูทที่พัก ยิ่งไปกว่านั้นชาคริตยังเจรจากับญาดาขอให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา แต่งงานกับเขา ไม่อย่างนั้นจะเอาดิลกเข้าคุกเพราะทำบัญชีปลอมโกงภาษี ญาดาโมโหมากตบชาคริต ก็เลยโดนปล้ำจูบ ญาดากลับไปถึงบ้าน เจอกสินหาเรื่องทะเลาะอีกที่ไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน เขมิกาไปหาชาคริตต่อว่าที่ไปยุ่งกับญาดา แต่กลับโดนชาคริตกล่อมให้ลุกขึ้นมาบริหารบริษัทแข่งกับทุกคนในครอบครัว ชาคริตบุกไปห้องทำงานญาดา เจอกสิณเกือบจะชกต่อยกัน แต่กสิณไม่กล้า ไตรทศวางแผนปล้ำชญานีแก้แค้นชาคริต แต่ชาคริตไปช่วยได้ทัน ไตรทศโดนซ้อม ญาดาไปช่วยห้าม ชาคริตยอมรามือพาชญานีกลับบ้าน
          ชาคริตพาชญานีกลับบ้าน ญาดาโมโหน้องชายไตรทศที่รังแกผู้หญิง ตบสั่งสอน ไตรทศสำนักผิด ขอโทษญาดา ส่วนชาคริตดูแลชญานีอย่างดี จากนั้นชาคริตปฏิบัติการแก้แค้นครอบครัวเมธาสิทธิ์ต่อ ยุให้เขมิกา ทะเลาะกับพ่อดิลก และพี่สาวญาดา แย่งชิงตำแหน่งบริหารกัน ชาคริตแต่งตั้งเขมิกาเป็นผู้บริหารบริษัท ทั้งที่รู้ว่าเขมิกาทำอะไรไม่เป็น ชาคริตใช้แผนให้พี่น้องทะเลาะกันเอง ไตรทศไปดักขอโทษชญานี แต่ชญานีไม่คุยด้วย ไตรทศเซ้าซี้ ชาคริตมาเห็นให้คนซ้อม ชญานีห้าม ไม่อยากให้มีเรื่องกันอีก ไตรทศโดนซ้อมจนน่วมทำให้ญาดากับดิลกโกรธมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ ญาดาไปหาชาคริต ขอร้องให้เลิกยุ่งกับเขมิกา ชาคริตมีข้อแม้ให้ญาดาแต่งงานด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำร้ายทุกคนในครอบครัว ญาดาคิดหนัก แต่ชาคริตยังปั่นหัวเขมิกาให้แตกแยกกับครอบครัวอีก ญาดาได้แต่กล้ำกลืนเสียใจ ทำอะไรชาคริตไม่ได้ เขมิกายังมีความหวังว่าชาคริตจะหวนกลับมารักเธอ แต่ชาคริตกลับเซอร์ไพรส์ขอญาดาแต่งงานอย่างไม่ทันตั้งตัว โดยสัญญาว่าจะคืนบริษัทให้ดิลก และไม่ยุ่งเกี่ยวกับน้องๆของเธออีก ญาดาไม่เคยเชื่อใจชาคริต แต่เขาไม่สน ปาริฉัตรกับกสิณอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขมิกาเสียใจที่โดนหลอกอีกครั้ง ชาคริตตั้งใจบังคับให้ญาดาแต่งงานให้ได้ แต่เธอไม่ยอม ขณะเดียวกันญาดาก็ห่วงว่าพ่อและน้องๆจะเดือดร้อน ญาดายังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ปาริฉัตรวางแผนจับกสิณ ดื่มเหล้าจนเมาแล้วพากสินมานอนที่ห้องนอน ให้ทุกคนเข้าไปเห็น ญาดาเสียใจและผิดหวังมาก
          เขมิกาผิดหวังจากชาคริต โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตัดสินใจไปพักใจที่บ้านทัศนะอีกครั้ง ยอมให้ทัศนะช่วยดูแลหัวใจ ทัศนะโกรธชาคริต ตัดสินใจลาออกจากงานที่บริษัท แต่ชาคริตไม่ยอม ส่วนญาดาเคลียร์เรื่องกสิณและปาริฉัตร ให้ทั้งคู่รับผิดชอบกันไป โดยเธอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ดิลกยอมยกบริษัทบีสตาร์คืนชาคริต หวังจะจบเรื่องราว เพื่อไปเปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่หลอกเงินคนต่อ ชาคริตยอมเลิกราเรื่องบริษัท แต่ไม่ยอมหยุดงานแต่งงาน ยืนยันจะให้ญาดาแต่งงานกับเขา ไม่อย่างนั้นดิลกไม่รอดคุกแน่ ญาดาเป็นห่วงพ่อ สุดท้ายญาดาตัดสินใจยอมแต่งงานเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว ญาดาตกลงกับชาคริตให้จัดงานแต่งงาเงียบๆ แต่ชาคริตกลับบุกไปบ้านเมธาสิทธิ์ ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเขาและญาดาจะแต่งงานกัน ทั้งดิลก ไตรทศ เขมิกา ผิดหวังมาก ญาดาน้ำท่วมปาก ไม่สามารถพูดอะไรได้ ญาดาปรึกษาทัศนะที่รู้ความเป็นไป เกี่ยวกับเหตุผลในการแต่งงาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ชาคริตเตรียมจัดงานแต่งงาน ให้บริษัทของนิกกี้(ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล)มาดูแล ญาดาต้องขอร้องดิลกทั้งน้ำตาให้มางานแต่งด้วย
          งานแต่งงานของชาคริตกับญาดามาถึง แต่ก็วุ่นวายมาก เพราะอยู่ๆญาดาหายตัวไป ญาดาถูกลักพาตัวโดยชญานี ซึ่งแอบหลงรักชาคริตพี่ชายตัวเองมานานแล้ว ไม่อยากให้มีงานแต่งงานเกิดขึ้น ชาคริตและลูกน้องออกตามหาญาดาและชญานีทั่วโบสถ์แต่งงาน และเจอทั้งคู่จนได้ ชญานีสารภาพว่ารักชาคริตมานานแล้ว ทำให้ชาคริตตกใจมา เพราะเห็นชญานีเป็นน้องสาวมาตลอด สุดท้ายชญานีก็ยอมส่งตัวญาดาคืน ชาคริตโกรธน้องสาวมาก รีบพาตัวญาดาไปเข้าพิธีแต่งงาน โดยไม่สนใจชญานีที่ยืนร้องไห้ พิธีแต่งงานผ่านไปอย่างเรียบร้อย ท่ามกลางความไม่พอใจของครอบครัวเมธาสิทธิ์ และความไม่เต็มใจของญาดา
          ชาคริตพาตัวญาดาไปที่คอนโดที่พัก ญาดาหวาดๆกับการเข้าหอ แต่ชาคริตก็ไม่ได้หักหาญน้ำใจญาดา ให้เวลากับญาดาได้พักผ่อน เพียงแค่ขอนอนกอดเท่านั้น ขณะที่ไตรทศห่วงชญานีและคอยอยู่เป็นเพื่อน และชวนไปทำกิจกรรมด้วยกัน ส่วนเขมิกาก็ไปอยู่บ้านทัศนะต่อ ทั้งคู่เริ่มสานสัมพันธ์เข้าใจกันยิ่งขึ้น รุ่งเช้าชาคริตเหมือนข้าวใหม่ปลามัน รู้สึกมีความสุข เย้าแหย่ญาดา ได้เธอมาอยู่ด้วยกัน
          แต่ไฟแค้นในใจของชาคริตไม่เคยมอด ความรักความแค้นของชาคริตและญาดา กำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ก็ต้องติดตามชมในละครระเริงไฟ...
 
นักแสดงในละครระเริงไฟ

1.ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ แสดงเป็น ชาคริต
2.วรนุช ภิรมย์ภักดี ญาดา
3.วิทยา วสุไกรไพศาล ทัศนะ
4.อามีนา กูล เขมิกา
5.ชนาธิป โพธิ์ทองคำ ไตรทศ
6.รินรดา แก้วบัวสาย ชญานี
7.แมททิว ดีน ฉันทวานิช กสิณ
8.อริสรา ทองบริสุทธิ์ ปาริฉัตร
9.อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ ดิลก
10.สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ กมลพรรณ
11.ทนงศักดิ์ ศุภการ กาจ
12.สิรินรัตน์ วิทยพูม เพ็ญขวัญ
13.ณินท์ พัฒนกูลกิจ ปิง
ร่วมด้วยนักแสดงรับเชิญ
14.เวนย์ ฟอลโคเนอร์ โจว
15.สหัสชัย ชุมรุม หว่อง
16.ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล นิกกี้
17.เบญจวรรณ เทิดทูนกุล ครูสอนโยคะ
18.ปาจรีย์ ณ นคร หัวหน้าศูนย์สุขภาพ
19.วัชรเกียรติ บุญภักดี เพื่อนร่วมหุ้นดิลก
20.หนูเล็ก ก่อนบ่าย คนงานไร่
21.ไหล เป็นต่อ คนงานไร่
22.คุณากร เกิดพันธุ์ ฝ่ายกฏหมายบริษัท
23.กรภัทร์ เกิดพันธุ์ ชาคริตตอนเด็ก

FANCLUBENJOYJAM on November 30, 2017, 08:30:41 AM
เปิดใจผู้จัด “หน่อย-บุษกร” แห่ง “ซิติเซ่น เคน” ทุ่มสุดตัวในละครรีเมคสุดดราม่า “ระเริงไฟ”









          หลังจากตะลุยถ่ายละครมายาวนานตั้งแต่ปี 2016 ล่าสุดแฟนๆ ละครช่อง 3 ได้เฮกันดังๆส่งท้ายปีสักที เพราะละครดราม่าฟอร์มเด่น "ระเริงไฟ" ได้ฤกษ์เตรียมฉายทุกวันจันทร์-อังคาร ประเดิมออนแอร์วันแรกในวันที่ 4 ธ.ค. นี้แน่นอนแล้ว งานนี้ต้องบอกว่าผู้จัดละครอย่าง "หน่อย" บุษกร วงษ์พัวพันธ์ แห่งบริษัท ซิติเซ่น เคน จำกัด ตั้งใจเสิร์ฟความสนุกแบบเกินร้อย ดีกรีความแซ่บเชือดเฉือนกันแบบทะลุจอให้แฟนๆได้กรี๊ดและลุ้นกันทุกตอนแบบจัดเต็ม ด้วยการส่งพระเอกในชีวิตจริง"เคน" ธีรเดช มาประชันบทบาทกับนางเอกฝีมือเมพ "นุ่น" วรนุช กันได้ถูกคู่สุดๆ
          ระเริงไฟเวอร์ชั่น 2017 จะอรรถรสแซ่บเฟ่อร์ขนาดไหน !?! วันนี้เราขอเปิดใจผู้จัดคนสวย
          "หน่อย- บุษกร" อดีตนางเอกละครระเริงไฟเวอร์ชั่นเก่าที่เคยฝากฝีไม้ลายมือจนละครฮอตฮิตติดลมบน มาให้แฟนๆได้อ่านกันจุใจว่า ผลงานละครคุณภาพจากค่าย "ซิติเซ่น เคน" ที่ถ่ายทำกันยาวนานข้ามปีเรื่องนี้นั้น คุ้มค่าแก่การรอคอยของแฟนๆ ขนาดไหน…
          จากกระแสเรียกร้อง สู่ละครรีเมคดราม่าเรื่องแรกแห่ง "ซิติเซ่น เคน"
          ก่อนจะมาเป็นผลงานละครสุดเข้มข้นที่ใครๆ ต่างเฝ้ารออย่าง "ระเริงไฟ" ที่ผ่านมา ค่ายซิติเซ่น เคน โดยฝีมือผู้จัด "หน่อย" บุษกร เคยฝากผลงานละครมาแล้วอย่าง รักคุณเท่าฟ้า, อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่, ทางเดินแห่งรัก และ นางร้ายที่รัก แต่สำหรับระเริงไฟ ถือเป็นละครเรื่องแรกที่เกิดจากเสียงเรียกร้องของแฟนคลับซิติเซ่น เคนเอง จึงเป็นที่มาของความท้าทายครั้งใหม่ในการเลือก "ระเริงไฟ" มาประเดิมเป็นละครรีเมคเรื่องแรกของค่ายเลยก็ว่าได้
          งานนี้การันตีความเข้มข้น สุดเชือดเฉือนในทุกตอน ชนิดนั่งตัวเกร็ง ไม่ใช่อะไร เพราะจากการรับบทเป็นนางเอกละครระเริงไฟเมื่อปี 2543 ทำให้ผู้จัดหน่อยของเรารู้ลึกรู้จริงถึงทุกองค์ประกอบของละคร ดังนั้น ระเริงไฟเวอร์ชั่น 2017 นอกจากจะมีการปรับบทให้เข้ากับยุคสมัยแล้ว ยังดึงนักแสดงที่เป็นสายดราม่าของวงการมาประชันกัน อย่างพระเอกเบอร์หนึ่งของช่องสามอย่าง "เคน" ธีรเดช มาเชือดเฉือนบทพระ-นางสุดเข้มข้นครั้งแรกกับ "นุ่น" วรนุช ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแม่ของละครแนวนี้ ชนิดสั่งให้ร้องไห้ หรือส่งอารมณ์ได้ดั่งใจ
          เคมีที่เข้ากั๊นของพระนางระเริงไฟเวอร์ชั่น 2017
          ด้วยเป็นการโคจรมาพบกับครั้งแรกของ "เคน" ธีรเดช และ "นุ่น" วรนุช แต่ความเป็นตัวพ่อ-ตัวแม่ในสายดราม่า การประชันบทบาทระหว่างพระเอกนางเอกคู่นี้ จึงรู้สึกได้ถึงพลังทางการแสดงแบบมาเต็มสุด อย่างซีนที่นางเอกจะยิงพระเอก เราจะรู้สึกได้ถึงความขัดแย้งแบบ ทั้งรักทั้งเกลียด ความทรงพลังในการสื่ออารมณ์ของพระเอกนางเอกคู่นี้ ถึงขนาดที่ว่าบางซีนทำเอาทีมงานที่นั่งเฝ้ามอนิเตอร์ ร้องไห้กันยกใหญ่
          ผู้กำกับโอ๋ ("โอ๋" กฤษฎา เตชะนิโลบล) จะทำหน้าที่บี้อารมณ์สายดาร์ค โดยเปิดโอกาสให้นักแสดงได้ดีไซน์บทบาทของตัวเอง อย่างบท "เคน" ธีรเดช ก็มีการดีไซน์ว่า ถ้าชาคริตเครียดจะแสดงออกอย่างไร ให้ต่างจากเรื่องที่ผ่านๆ มา ส่วนนางเอก "นุ่น" ผู้ชมจะได้เห็นความตั้งใจของนุ่นและดราม่าสมัยใหม่แบบสั่งได้ทุกฉาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นุ่นเทียบชั้นกับเคนได้อย่างลงตัว
          ว่าด้วยเรื่องความสมจริงของบท ปรับไปตามยุค
          ต้องยอมรับว่าคนดูเดี๋ยวนี้ฉลาด จะมาโมเมเล่าเรื่องแบบแถๆ ไม่ได้ ระเริงไฟเวอร์ชั่น 2017 จึงมีการปรับเนื้อหาและรายละเอียดบางอย่างให้มีความสมเหตุสมผลและทันสมัยมากขึ้นจากเหตุการณ์เดิม โดยคุณโสภี พรรณราย เจ้าของบทประพันธ์ไฟเขียวเรื่องนี้เต็มที่ เพราะไว้ใจในฝีมือผู้จัดและเพื่อให้บทเหมาะไปตามยุค
          ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปูมหลังของพระเอกให้มีความลึกลับ ใส่เหตุผล และแบ็คกราวน์ตัวละครให้หนักแน่นมากขึ้น เพราะสมัยก่อนบทเดิมนางเอกจะไม่รู้ว่าพระเอกคือใคร ในขณะที่ยุคสมัยนี้เราแค่เสิร์ช google ก็อาจรู้แล้วว่าคนนี้คือใคร ทีมงานพยายามตอบโจทย์คนดูตรงนี้ ให้พระเอกมีการปกปิดตัวตน ใช้ชื่อปลอม เป็นเจ้าของธุรกิจที่ทันยุคสมัย แต่มีเบื้องหลังเป็นเจ้าของธุรกิจสีเทา
ในเวอร์ชั่นก่อน จะมีฉากนางเอกหนีออกจากบ้านโดนโจรปล้ำ และพระเอกมาช่วย สุดท้ายก็ได้
          จุด..จุด..จุด กัน แต่ในเวอร์ชั่นนี้ จะปรับให้นางเอกสมยอม เพราะความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ทำให้ดูสมเหตุสมผลมากขึ้น หรือฉากเดิมที่พระเอกพานางเอกไปอยู่กระท่อม ถ้าเอาประเด็นนี้มาสร้างในเวอร์ชั่นนี้ คนดูคงตั้งคำถามว่า พระเอกหล่อเริ่ดเชิดรวย ทำไมต้องไปอยู่กระท่อม? จึงมีการปรับเป็นบ้านพักตากอากาศ สุดหรู เป็น Safe House ให้ซ่อนตัวแทน คือการกระทำของทุกตัวละคร มีการปรับเปลี่ยนตามเหตุผลที่แตกต่างกันไป
          "เขมิกา" ตัวละครที่มีพัฒนาการมากที่สุด
          ดัดแปลงบทไปมา กลายเป็นว่าตัวละครที่เปลี่ยนเยอะสุด คือ เขมิกา น้องสาวของนางเอก เพราะในเวอร์ชั่นเดิม เขมิกาแค่ร้องไห้อยู่บ้านทัศนะ (เพื่อนสนิทพระเอก รับบทโดยอั๋น-วิทยา)ทำตัวเรียกร้องความสนใจ แต่เวอร์ชั่นนี้จะเห็นเขมิกามีอารมณ์ฮึดสู้ มีทั้งมุมดีและร้ายไปจนสุด อย่างเช่น ตอนที่นางเอกรู้ว่าตัวเองท้อง เขมิกาดันแอบรู้และไปบอกพระเอก เพราะต้องการให้ทุกคนเจ็บปวด ด้วยมิติของตัวละคร เขมิกาจึงเป็นตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์สูงที่สุด ซึ่ง "ไอซ์" อามีนา นักแสดงที่มารับบทนี้ก็บอกเองว่าเป็นบทที่ท้าทายและรู้สึกโชคดีที่มีโอกาสได้มาเล่นบทนี้
          ระเริงไฟเวอร์ชั่นนี้ จะไม่ใช่ละครแบบละค๊อน….ละคร
          ดีไซน์ลุคในแบบที่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อน
          ความดีงามของระเริงไฟเวอร์ชั่นนี้ ส่วนหนึ่งทีต้องยกเครดิตให้คือ ผู้กำกับโอ๋ ที่ใส่ใจรายละเอียดในทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่การเลือกฉาก มุม แสง การช่วยกระชากอารมณ์นักแสดง ไปจนถึงเสื้อผ้าที่มีการดีไซน์ลุคนักแสดงให้ดูแปลกตาไปจากเดิม อย่างคาแร็คเตอร์ของนางเอก "ญาดา" (แสดงโดย "นุ่น" วรนุช) ผู้ชมจะไม่เคยเห็นนุ่นในลุคนี้มาก่อนเลย ฝ่ายคอสตูมดีไซน์ให้นุ่นออกมาดูคลีนที่สุดในลุคนักธุรกิจที่มีความสมัยใหม่อยู่ในที แม้แต่บทเขมิกา (แสดงโดย "ไอซ์" อามีนา) คนส่วนใหญ่จะบอกว่าเรื่องนี้ไอซ์สวยขึ้น (จะสวยแค่ไหน ต้องไปติดตามในละคร)
          "เราพยายามดีไซน์ลุคให้ดูเป็นธรรมชาติ เบา และเรียลมากขึ้น ทุกคนในเรื่องนี้ไม่มีใครใส่ขนตาปลอมเลย ยกเว้นปาริฉัตร (แสดงโดยดิว-อริศรา) เพราะเป็นคาแร็คเตอร์ของเขาอยู่แล้ว" ผู้จัดหน่อยเล่าถึงการทำงานที่ลงมือดูแลรายละเอียดเองในทุกขั้นตอน
          ถึงเป็นละครสายดราม่า ก็มีฉากเลิฟซีนให้จิ้น…ฟินจิกหมอนนะ
          เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว อย่าคิดว่ามีแต่ซีนอารมณ์ "ปะ-ฉะ-ดะ" กันทั้งเรื่อง ฉากเลิฟซีนก็มีให้ได้หวิวกัน ยิ่งได้เคมีของคู่เคน-นุ่น แม้จะไม่มีฉากจูบจังๆ แต่ก็ทำเอาหัวจิตหัวใจคนดูกระเจิงได้เหมือนกัน โดยผู้กำกับโอ๋ให้เหตุผลว่า เพราะจินตนาการสำคัญและน่ากลัวกว่าภาพที่เห็นอีก หน้าที่ของเราแค่ทำให้รู้สึกได้ว่ามันถึงอารมณ์ ตอนฉากที่มีอะไรกันที่ระเบียง ฉากนี้เสื้อผ้ามาครบ ! แต่นุ่นเล่นได้โป๊จริง…ทั้งที่ใส่เสื้อผ้าอยู่ !!!
          ทุ่มเกินร้อยสไตล์ "ซิติเซ่น เคน"
          เห็นความตั้งใจของผู้จัดและทีมงานแล้ว ต้องยอมรับว่า ระเริงไฟ ถือเป็นผลงานที่ละเอียดที่สุดเท่าที่ผู้จัดหน่อยเคยสร้างมาก็ว่าได้ พอมาแท็กทีมกับผู้กำกับโอ๋ที่เน้นความละเอียดลออในการทำงานสุดประณีต ทุกอย่างจึงเป๊ะได้อย่างใจ ยกตัวอย่างแค่การเลือกโลเคชั่นก็ไม่ใช่แค่ผ่านๆ อย่างบ้านนางเอกหลังหนึ่งใช้ถึง 3 โลเคชั่น, เพนท์เฮาส์ของพระเอกก็ถ่ายประมาณ 5 โลเคชั่น หรืองานแต่งงานของเขมิกาก็เลือกใช้โรงแรมถึง 3 โลเคชั่นเหมือนกัน เพื่อรังสรรค์แต่ละมุมกล้องให้ออกมาสวยและดูดีเว่อร์วังอลังการที่สุด
          นิยามจากผู้กำกับโอ๋ ถึงระเริงไฟเวอร์ชั่น 2017
          สรุปแล้วระเริงไฟในเวอร์ชั่นนี้มีความเก๋แบบคนรุ่นใหม่ แต่สุดท้าย อรรถรสของละครที่ได้คือ "แซ่บ"เหมือนกัน เปรียบเป็น "น้ำพริกปลาทู" บนร้านอาหารฟิวชั่น เรียกว่า ละครเรื่องนี้มีครบเกือบทุกรส
          ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ คือ สุดท้ายคนเราต้องทิ้งอดีต ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าเอาเรื่องราวในอดีตมาฝังหัวอยู่กับปัจจุบัน
          ทุ่มสุดตัวกันทุกคนขนาดนี้ต้องยอมใจเลยจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นละครที่ครบรสและครบเครื่อง แซ่บถึงทรวงแบบสุดๆ แน่นอน ใครอยากเห็นการปะทะฝีปากและอารมณ์ของ เคน ธีรเดชและ นุ่น วรนุช เป็นครั้งแรกบอกได้คำเดียวว่าไม่ควรพลาด รอลุ้นขยี้อารมณ์กันได้ว่าระหว่างพระ-นางใน ระเริงไฟ เวอร์ชั่น 2017 …#ใจใครจะไหม้ก่อนใคร! เตรียมนับถอยหลังเป็น #สายเบิร์น กันได้เลย วันที่ 4 ธ.ค.นี้ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 33HD…การันตีคุณภาพความสนุกโดยผู้จัด "หน่อย-บุษกร" ค่ายซิติเซ่น เคน
แฟนๆที่อยากตามติดทุกความเคลื่อนไหวของ "ระเริงไฟ" ติดตามได้ที่ FB : ซิติเซ่น เคน หรือ IG : Citizenkane_Official ได้เลย

FANCLUBENJOYJAM on December 18, 2017, 01:33:07 PM
“เคน ธีรเดช” ตีบทแตก จุดเพลิง “ระเริงไฟ” เดินหน้าล้างแค้น! วอนแฟนๆให้อภัย









          เพลิงไหม้ลุกโชน!! เมื่อพระเอกหนุ่ม "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" คัมแบคมาดโหดสุมไฟแค้น!!! เล่นบท "ชาคริต" ใน "ระเริงไฟ" ละครดราม่ารสจัดของค่าย ซิติเซ่น เคน ที่กำลังออกอากาศทางช่อง3 บอกเลยว่า แค่ออกอากาศไปเพียงไม่กี่ตอน กระแสโซเชียลก็โจมตีพระเอกหนุ่มกันยกใหญ่ ถึงความร้าย ดุเดือด ที่ส่งพลังความแค้นผ่านสายตา ท่าทาง และการแสดง เรียกว่าคุ้มค่ากับการรอคอย หนุ่มเคนตีบทแตกกระจุย ยิ่งเรื่องนี้ได้มาประชันฝีมือกับนางเอกมากฝีมืออย่าง "นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี" ด้วยแล้ว งานนี้พูดได้คำเดียวว่า สมใจแฟนละครดราม่ากันจริงๆ

          ด้านหนุ่ม เคน-ธีรเดช เผยถึงละครเรื่องนี้ว่า "สำหรับบทของชาคริต ในระเริงไฟ เป็นผู้ชายที่มาพร้อมกับความแค้นครับ เพราะว่าตอนเด็กๆครอบครัวของเรา ถูกพ่อนางเอกทำร้าย ให้เป็นแพะรับบาป พ่อก็ต้องติดคุก 20 ปี ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เหมือนกับต้องทนอยู่กับความทุกข์ทรมาน มันเลยเป็นความแค้นที่สะสมมานาน คือเราแค้นที่พ่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ต้องมารับผิด การมาของชาคริตจึงมาเพื่อแก้แค้นครอบครัวของนางเอก สำหรับเรื่องนี้ การแสดงออกของตัวละคร ผมคิดว่าค่อนข้างยากนะครับ เพราะทุกคนในทีมงานคุยกันว่า จะทำอย่างไรให้ตัวละครที่เป็นพระเอกมีความแค้นต่อนางเอก ให้ออกมาในแง่อีกมุม ซึ่งไม่ให้ซ้ำกับที่ผมเคยเล่นมา ตรงนั้นเลยกลายเป็นโจทย์ของเรา ผมว่ามันเป็นความท้าทาย เราจะปรับเปลี่ยนมันอย่างไร แสดงออกมาอย่างไร เพราะตัวละครของชาคริตจะเป็นตัวละครที่โตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น ความพีคของชาคริตในเรื่อง คือการที่เขาเป็นผู้ชายที่จมอยู่แต่กับอดีต ไม่ปล่อยวาง คิดว่าถ้าเขาได้ทำสิ่งนี้แล้วเขาจะมีความสุข แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ใช่ เอาจริงๆเหมือนผมเป็นตัวร้ายในเรื่องเลย (หัวเราะ)

          เรื่องนี้ผมได้มาร่วมงานกับนุ่นเป็นครั้งแรกครับ นุ่นเป็นคนที่ตั้งใจมาก ทำการบ้านมาดี ตอนเล่นผมรู้สึกว่าผมไม่ต้องปรับอะไรเลย อารมณ์ส่งกันได้ดีมากครับ ยิ่งพอมาชมตอนละครออกอากาศ ผมได้เห็นงาน ก็จะเห็นเลยว่านุ่นเขาเก่งจริงๆ สำหรับแฟนๆที่รอฉากหวานๆ อดทนกันหน่อยนะครับ (หัวเราะ) อย่าเพิ่งเกลียดผมกันหมดประเทศนะ ถ้าใครโกรธเกลียดผม ต้องขออภัยไว้เลยจริงๆครับ แต่ระเริงไฟก็ยังมีฉากหวานๆให้ได้ชมกันแน่นอน แต่คงต่างจากเรื่องอื่นๆ เพราะมันจะหวานปนแค้น หวานปนขม ประมาณนี้ครับ (หัวเราะ) สุดท้ายผมก็อยากให้แฟนละครติดตามชมระเริงไฟ ทุกคนตั้งใจมากๆ ทั้งทีมงาน นักแสดง ที่สำคัญละครเรื่องนี้ยังฝากข้อคิดเยอะแยะมากมายไว้เตือนใจอีกด้วย หลายคนคงสงสัยว่า ชาคริต กับ ญาดา จะลงเอยกันได้อย่างไร ต้องติดตามชมครับ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดชมสักตอน"

          เมื่อภารกิจของ "ชาคริต" คือมาทำลายครอบครัว "เมธาสิทธิ์" แต่โชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อความรักจะต้องเกิดขึ้นกับศรัตรู...งานนี้มาร่วมลุ้นและติดตามชมการแสดงของหนุ่ม "เคน-ธีรเดช" ได้ในละคร "ระเริงไฟ" ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20-22.50 น. ทางช่อง 3 ช่อง 33 และรับชมผ่าน Application 3 Live

FANCLUBENJOYJAM on January 04, 2018, 03:27:31 PM
ละคร “ระเริงไฟ” ตอนที่ 10 ออกอากาศอังคารที่ 9 มกราคม ทางช่อง 3 เวลา 20.20 น



          ไตรทศ(แชมป์ ชนาธิป)รู้ว่าดิลก(ปู อนุวัฒน์)จะเปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ใหม่ เพื่อต้มตุ๋นคน ทำให้ไตรทศผิดหวังในตัวพ่อมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดกับใคร ส่วนชาคริต(เคน ธีรเดช)และญาดา(นุ่น วรนุช) นับวันจะผูกพันและรักกันมากขึ้น คืนสุดท้ายที่บ้านเชิงเขา ทั้งคู่แสดงความรักกันอีกครั้งจนทัศนะ(อั๋น วิทยา)และเขมิกา(ไอซ์ อามีนา)รู้สึกได้ว่าทั้งคู่รักกันมาก แต่พอกลับถึงกรุงเทพฯ ไตรทศยอมร่วมมือกับพ่อใส่ความชาคริตว่าต้องการฮุบบริษัทบีสตาร์ไปทำลายจนย่อยยับ ขายทอดให้คนอื่น เพื่อให้ชาคริตกับญาดาแตกหักกัน แต่ชาคริตรู้ว่าดิลกเปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ก็โมโหมาก เพราะไม่เคยสำนึกผิด ไปเคลียร์กับดิลกที่บริษัทใหม่ แต่ไตรทศปั่นหัวญาดาใส่ร้ายชาคริตตามคำสั่งดิลก ทำให้ชาคริตกับญาดาทะเลาะกัน ญาดาไม่ยอมอยู่กับชาคริตอีกต่อไป คืนแหวนแต่งงาน ขนข้าวของกลับบ้าน ขณะที่ดิลกแกล้งป่วย แต่ที่แท้หนีไปกบดานไม่ยอมบอกใคร ทำให้ญาดากับเขมิกาเป็นห่วงมาก ทัศนะก็เข้าใจผิดชาคริต ขอลาออกจากบริษัทอีก เขมิกาไปเจอเอกสารโกงภาษีในบ้านทัศนะ คิดว่าทัศนะร่วมมือกับชาคริตทำร้ายดิลกก็โมโห ทะเลาะกัน ชาคริตทั้งรักทั้งแค้นญาดา ไม่ยอมเลิกรา บุกไปบริษัทใหม่ของดิลก เจอญาดา ทั้งคู่ระเบิดอารมณ์กัน ชาคริตปล้ำจูบญาดา ทั้งรักทั้งทั้งเกลียด จะทำอย่างไรดี

FANCLUBENJOYJAM on January 07, 2018, 01:21:45 PM
ละคร “ระเริงไฟ” ตอนที่ 10 ออกอากาศอังคารที่ 9 มกราคม ทางช่อง 3 เวลา 20.20 น



          ไตรทศ(แชมป์ ชนาธิป)รู้ว่าดิลก(ปู อนุวัฒน์)จะเปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ใหม่ เพื่อต้มตุ๋นคน ทำให้ไตรทศผิดหวังในตัวพ่อมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดกับใคร ส่วนชาคริต(เคน ธีรเดช)และญาดา(นุ่น วรนุช) นับวันจะผูกพันและรักกันมากขึ้น คืนสุดท้ายที่บ้านเชิงเขา ทั้งคู่แสดงความรักกันอีกครั้งจนทัศนะ(อั๋น วิทยา)และเขมิกา(ไอซ์ อามีนา)รู้สึกได้ว่าทั้งคู่รักกันมาก แต่พอกลับถึงกรุงเทพฯ ไตรทศยอมร่วมมือกับพ่อใส่ความชาคริตว่าต้องการฮุบบริษัทบีสตาร์ไปทำลายจนย่อยยับ ขายทอดให้คนอื่น เพื่อให้ชาคริตกับญาดาแตกหักกัน แต่ชาคริตรู้ว่าดิลกเปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ก็โมโหมาก เพราะไม่เคยสำนึกผิด ไปเคลียร์กับดิลกที่บริษัทใหม่ แต่ไตรทศปั่นหัวญาดาใส่ร้ายชาคริตตามคำสั่งดิลก ทำให้ชาคริตกับญาดาทะเลาะกัน ญาดาไม่ยอมอยู่กับชาคริตอีกต่อไป คืนแหวนแต่งงาน ขนข้าวของกลับบ้าน ขณะที่ดิลกแกล้งป่วย แต่ที่แท้หนีไปกบดานไม่ยอมบอกใคร ทำให้ญาดากับเขมิกาเป็นห่วงมาก ทัศนะก็เข้าใจผิดชาคริต ขอลาออกจากบริษัทอีก เขมิกาไปเจอเอกสารโกงภาษีในบ้านทัศนะ คิดว่าทัศนะร่วมมือกับชาคริตทำร้ายดิลกก็โมโห ทะเลาะกัน ชาคริตทั้งรักทั้งแค้นญาดา ไม่ยอมเลิกรา บุกไปบริษัทใหม่ของดิลก เจอญาดา ทั้งคู่ระเบิดอารมณ์กัน ชาคริตปล้ำจูบญาดา ทั้งรักทั้งทั้งเกลียด จะทำอย่างไรดี

FANCLUBENJOYJAM on January 12, 2018, 02:09:32 PM
“นุ่น-วรนุช” ระเบิดฝีมือขั้นสุด เล่น “ระเริงไฟ” ชมเปาะ “เคน-ธีรเดช” สุดยอดนักแสดง ส่งอารมณ์ดีมาก









          กระแสกำลังเข้มข้นกับบทบาทหญิงสาวแบกโลกของ "นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี" ที่ต้องต่อสู้เชือดเฉือนกับพระเอกตัวพ่ออย่าง "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" ในละครดราม่าเข้มข้น "ระเริงไฟ" ทางช่อง 3 เป็นอีกหนึ่งผลงานของสาว นุ่น ที่ทำเอาแฟนๆดราม่าตามกันเป็นแถวๆ จะเห็นได้ชัดว่าซีนอารมณ์ในละครเรื่อง ระเริงไฟ สนุกเข้มข้นดุเดือนมากขนาดไหนในเรื่องราวความรักและความแค้นสุดดราม่า

          นุ่น-วรนุช เผย "คาแร็คเตอร์เป็นคนแบกโลกค่ะ เราต้องคอยรับปัญหาทุกอย่างในบ้านที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในเรื่องธุรกิจ ครอบครัว ของพ่อและน้อง ตัวญาดาก็จะมีความผูกพันกับน้องๆค่อนข้างเยอะมากค่ะ เราก็เหมือนจะคอยผลักดันทุกๆคนในบ้าน ดูแลทุกอย่าง ต้องคอยต่อสู้กับพระเอกด้วย เพราะฉะนั้นตัวละครตัวนี้จะเป็นตัวละครที่จะคอยเจอปัญหาตลอดเวลา เขาจะมีวิธีว่า เขาจะทำอย่างไร ช่วยเหลือน้องอย่างไร ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ครอบครัวของเราได้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม เรายอมที่จะมีปัญหาด้วยตนเองเพื่อช่วยครอบครัว บางครั้งคือเราคิดว่าตัวเองเก่งคนเดียวเสมอไป แต่เราแพ้ แพ้ตลอด มันเหมือนเป็นเกม น้อยเกมมากที่เราจะชนะ พระเอกแผนการเยอะมาก กดดันเราตลอดเวลา เราก็จะสู้เขาไม่ไหว เป็นเรื่องของอารมณ์ จิตใจ ความรัก ความแค้น ความถูกผิด หลากหลายมากค่ะ พูดถึงตัวเราเราเล่นเองก็เหนื่อยนะ ก็เครียด เพราะว่าจริงๆมันเป็นเรื่องของครอบครัว นุ่นเองก็ไม่เคยเจอในชีวิตจริง แต่ก็พอเดาได้ในบางครั้ง ก็จะดูข่าวต่างๆ เราก็จะเห็นครอบครัวที่เขามีปัญหา พ่อแม่มีปัญหา ลูกจะอยู่อย่างไร เรื่องนี้นุ่นต้องเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกันค่ะ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องร้องไห้แบบไม่ใช่หยดเดียวหาย มันเป็นเรื่องของจิตใจ เวลาร้องมันพลั่งพลู ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ ตาบวมตลอดเวลา(หัวเราะ)

          ด้านการทำงาน ร่วมงานกับพี่เคนครั้งแรกก็ดีมากค่ะ ต้องขอบคุณพี่เคนที่คอยส่งอารมณ์ให้กันตลอด คือสำหรับนักแสดงเอง ถ้าได้ร่วมงานกับนักแสดงเก่งๆก็ชอบอยู่แล้วค่ะ การทำงานมันก็จะราบรื่น พูดถึงด้านการแสดงสนุกและยากด้วยค่ะ(หัวเราะ) ในฐานะของนักแสดงเราก็ได้เล่นบทบาทที่หลากหลาย ได้เล่นบทที่เราไม่เคยได้เล่น คำพูดแต่ละคำมันไม่ใช่ว่าเราพูดๆไปแล้วผ่าน คำพูดทุกคำมันมีความหมายหมด เวลาเราจะพูดมาแต่ละคำ มันต้องเป็นคำที่มาจากใจ มันเป็นเรื่องของจิตใจคน ทำอย่างไรที่เราจะเข้าใจคนๆหนึ่งได้ นี่แหละคือสิ่งที่มันยากค่ะ ฉากหินๆก็มีเยอะ บางทีบทมันยาว การสลับคำบางทีมันจะติด ก็จะติดอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าได้ก็จะได้เลยค่ะ พี่โอผู้กำกับเขาก็จะคอยควบคุมตลอด จะคอยตบให้งานมันเข้ารูปเข้ารอย ถ้าเขาอยากได้แบบไหนเขาก็จะบอกค่ะ เนื้อหาด้านความรักในละคร เป็นความรักที่เริ่มต้นด้วยอุปสรรค จะเจออุปสรรคตลอดเวลา จนสุดท้ายก็ต้องมาดูว่าเขาจะผ่านอุปสรรค์ต่างๆไปได้อย่างไร แต่ว่าอุปสรรค์ต่างๆ ก็ทำให้เขาเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นและมันก็ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตของคน เพราะฉะนั้นความรักจริงๆที่เกิดขึ้นในใจ ก็เป็นความรักที่น่าทะนุถนอมเหมือนกัน ตัวละครก็จะไม่ใช่จะโกรธจะเกลียดกันอย่างเดียว ฉากหวานๆไปๆมาๆก็เยอะเหมือนกันค่ะ มันก็ทำให้ละครมีมิติมากขึ้น มีครบทุกอารมณ์ครบทุกแบบค่ะ นุ่นก็ฝากละครระเริงไฟด้วยนะคะ ตอนนี้กำลังเข้มข้น บทสรุปทั้งหมดกำลังจะถูกเปิดออก ติดตามและให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ทุกคนตั้งใจสำหรับละครเรื่องนี้กันมากจริงๆค่ะ"

          เรื่องราวความรักความแค้นที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามเอาใจช่วยญาดา "นุ่น วรนุช" ในบทบาทหญิงสาวแบกโลกใน เรื่อง "ระเริงไฟ" ได้ ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.20 – 22.50 ทางช่อง 3 ช่อง 33 และ Application 3 Live

FANCLUBENJOYJAM on January 12, 2018, 02:54:01 PM
ละคร “ระเริงไฟ” ตอนที่ 11-12 ออกอากาศจันทร์ที่ 11 – อังคารที่ 12 มกราคม ทางช่อง 3 เวลา 20.20 น









          ระเริงไฟ ตอนที่ 11
          จันทร์ที่ 15 มกราคม เวลา 20.20 น.ช่อง 3
          กสิณ(แมททิว)ยอมเป็นหมากของดิลก(ปู อนุวัฒน์)อีก มาร่วมประสมโรงใส่ร้ายชาคริต(เคน) ขณะที่ ญาดา(นุ่น)กลับเชื่อกสิณ ไม่เชื่อชาคริต ทำให้เขายิ่งปวดใจ กสิณพยายามจะสานสัมพันธ์กับญาดาแต่ปาริฉัตรตามประกบไม่ยอมปล่อย เขมิกาแค้นชาคริต ก็เลยปล่อยคลิปความใกล้ชิดของไตรทศและชญานีที่เธอแอบถ่ายได้ลงในโซเชียล ทำให้ชญานีเสียชื่อเสียง ชาคริตโมโหคิดว่าไตรทศก่อเรื่อง ให้ลูกน้องไปจับตัวมา เขมิกากับญาดาเป็นห่วงรีบตามมา ไตรทศพูดจากำกวมยอมรับว่าตั้งใจทำร้ายชญานี และมีสัมพันธ์กับชญานีด้วย ทำให้ชาคริตยิ่งโมโห ให้ลูกน้องจับตัวมาซ้อม เค้นความจริง และต้องการที่กบดานของดิลก ญาดาห่วงน้อง ออกตามหา กลัวชาคริตจะทำร้ายไตรทศ เอาปืนไปด้วย ขู่จะยิงชาคริต แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ญาดารีบพาไตรทศกลับบ้าน ส่วนทัศนะตัดสินใจจะไปทำงานต่างประเทศ เขมิการู้เรื่องใจวูบเหมือนกัน

          ระเริงไฟ ตอนที่ 12
          อังคารที่ 16 มกราคม
          ชาคริตพยายามตามง้อญาดา ซื้อปืนอันเล็กให้เป็นของขวัญ แต่ญาดาแม้จะรักแต่ไม่ยอมใจอ่อน ไตรทศ(แชมป์ ชนาทิป) สมองกระทบกระเทือนเพราะถูกซ้อม ชญานี(พาย รินลดา)เป็นห่วงคอยดูแล ญาดา(นุ่น วรนุช)รู้ว่าตัวเองตั้งท้องลูกของชาคริต(เคน ธีรเดช)ก็กลุ้มใจมา เขมิกา(ไอซ์ อามีนา)แอบรู้มา ได้ไปบอกชาคริต ทำให้ชาคริตดีใจมาก เดินหน้าง้อเมียเต็มที่ แต่ญาดาไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ชาคริตมายุ่งเกี่ยว แต่ชาคริตไม่ยอม จัดการพาญาดาไปฝากครรภ์ เข้าคอร์สคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ด้วยกัน ชาคริตมีความสุขทีได้เป็นพ่อคน ญาดาก็เริ่มมีความรู้สึกของคนเป็นแม่ แต่ก็ยังคิดไม่ตก เพราะเห็นว่าชาคริตยังไม่ยอมเลิกแก้แค้นดิลกพ่อของเธอ

FANCLUBENJOYJAM on January 25, 2018, 09:19:26 AM
ละคร “ระเริงไฟ” ตอนที่ 13-14 ออกอากาศจันทร์ที่ 22 – อังคารที่ 23 มกราคม ทางช่อง 3 เวลา 20.20 น









          ระเริงไฟ ตอนที่ 13
          จันทร์ที่ 22 มกราคม เวลา 20.20 น.ช่อง 3         
          ญาดา(นุ่น)ยอมคืนดีกับชาคริต(เคน) แต่ขอสัญญาว่าจะเลิกแก้แค้นพ่อของเธอ ชาคริตให้สัญญา ส่วนไตรทศ(แชมป์)และชญานี(พาย)เปิดใจต่อกัน คบหากัน ไปทำกิจกรรมด้วยกัน ชญานีพาไตรทศไปฝึกธาราบำบัดในสระน้ำด้วยกัน มีป้าๆมาลวนลามไตรทศจนขำไม่ออก แต่ชญานีมีความสุขที่ได้แกล้งไตรทศ ชาคริตยังสืบหาที่อยู่ของดิลกต่อไป โดยหาหลักฐานเอาผิดดิลกจากกสิณ(แมททิว) ซึ่งเก็บหลักฐานต่างๆอยู่ โดยจะกันให้กสิณเป็นพยาน ไม่อย่างนั้นจะต้องติดคุกฐานฉ้อโกงด้วย กสิณจำยอม ขณะที่ญาดารู้ว่าชาคริตไม่รักษาคำพูด ก็โมโหมาก ญาดาบอกชาคริตว่าจะไม่เก็บลูกในท้องไว้ ทำให้ชาคริตใจสลาย ญาดาหลอกชาคริตว่าจะไปทำแท้งเมืองนอก ทำให้ชาคริตเสียใจสุดสุด ส่วนเพ็ญขวัญภูมิแพ้ป่วยอาการสาหัส ทัศนะ(อั๋น วิทยา)เป็นห่วงมาก เขมิกา(ไอซ์ อามีนา)คอยให้กำลังใจ และสุดท้ายเพ็ญขวัญก็ปลอดภัย ทุกคนดีใจ ทัศนะกับเขมิกาเข้าใจและเอื้ออาทรต่อกัน ชาคริตได้หลักฐานความผิดต้มตุ๋นคนของดิลก กลุ่มสมาชิกแชร์ลูกโซ่ที่สูญเสียเงิน แจ้งตำรวจจับ โดยปาริฉัตร(ดิว อริสรา)และกมลพรรณ(สรวงสุดา) สองแม่ลูกก็โดนด้วย ญาดาบินกลับจากต่างประเทศพร้อมแถลงข่าวปกป้องดิลก ชาคริตดีใจที่ได้เจอญาดา และรู้ว่าญาดายังไม่ได้ทำแท้งก็ดีใจมา ชาคริตได้ที่อยู่ของดิลก คิดจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่ก็ห่วงความรู้สึกของญาดา
         
          ระเริงไฟ ตอนที่ 14 อวสาน
          อังคารที่ 23 มกราคม เวลา 20.20 น.ช่อง 3
          ชาคริต(เคน)ให้ทัศนะ(อั๋น วิทยา) ไปพาตัวญาดา(นุ่น วรนุช)ไปพบดิลก(ปู อนุวัฒน์)ซึ่งชาคริตตั้งใจจะพาไปที่คุก ในวันที่กาจ(ทนงศักดิ์)ได้พ้นโทษ เพราะกาจติดคุกแทนดิลกมากว่า 20 ปี ต้องการให้ดิลกไปขอโทษกาจ ซึ่งกาจยกโทษให้ ไม่ต้องการให้ชาคริตแก้แค้นอีกต่อไป ญาดา ไตรทศ(แชมป์ ชนาทิป) เขมิกา(ไอซ์ อามีนา) เข้าใจทุกอย่าง ซึ่งแม้ชาคริตจะยอมลดความแค้นตัวเอง ไม่เอาเรื่อง แต่ที่สุดดิลกก็โดนจับเข้าคุกเพราะฉ้อโกงประชาชน ชาคริตไปหาญาดาเพื่อง้อขอคืนดี แต่ญาดายังไม่ยอม เพราะโกรธเรื่องที่ชาคริตไม่รักษาคำพูด
          ไตรทศ กับ ชญานี(พาย) เข้าใจกันในที่สุด ตัดสินใจจะแต่งงานกัน จึงไปขออนุญาตญาดา ไม่ได้ขัดข้องอะไร ทั้งคู่วางแผนช่วยให้ชาคริตกับญาดาปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ที่สุดชาคริตกับญาดาก็ยอมลดทิฐิปรับความเข้าใจกันได้ แต่ชาคริตยังต้องไปเคลียร์กับผู้มีอิทธิพลเพื่อขอออกจากวงการมาเฟีย ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะคนที่เข้าไปอยู่ในวงการมาเฟียแล้ว จะออกจากวงการก็ต้องตายเท่านั้น ทำให้ญาดาเป็นห่วงมาก ชาคริตสัญญาว่าจะต้องกลับมาหาเมียและลูกอย่างแน่นอน ชาคริตหายไปนานจนญาดาใจหาย แต่ที่สุดชาคริตก็กลับมาบ้านในสภาพที่บอบช้ำ แต่ก็ยังรักษาชีวิตกลับมาหาลูกเมียได้ ได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายด้วยกัน ปราศจากไฟแห่งความแค้นที่เผาผลาญใจอีกแล้ว...

FANCLUBENJOYJAM on January 25, 2018, 02:45:48 PM
อวสาน “ระเริงไฟ” “เคน-นุ่น” หวานส่งท้าย









          สนุกเข้มข้นทุกตอน พระนาง เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี เคมีเข้ากัน แสดงกันได้อย่างสมบทบาท จนเรื่องราวมาถึงตอนอวสานแล้วสำหรับละครเรื่อง "ระเริงไฟ" ของผู้จัด บุษกร วงศ์พัวพันธ์ กำกับโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล

          โดยหลังจากผ่านทั้งเรื่องรัก เรื่องแค้น แง่งอนกันไปมา ที่สุด ชาคริต(เคน) และ ญาดา(นุ่น) ก็เข้าใจกันได้ ญาดารู้เรื่องความร้ายกาจและเห็นแก่ตัวของดิลก(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์)พ่อของเธอ จึงเข้าใจชาคริตมากขึ้น ต่างคนต่างยอมลดทิฐิ กลับมาเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่มาพักผ่อนที่บ้านเชิงเขา กอดบอกรักกัน

          ฉากนี้ถ่ายทำกันที่บ้านสวย แถววังน้ำเขียว เป็นฉากหวาน แสดงความรักต่อกัน หยอกล้อกันของเคน กับ นุ่น ทั้งคู่นั่งกันอยู่ริมระเบียงใหญ่ กอดหอมกัน ปรับความเข้าใจกัน เป็นฉากโรแมนติกดราม่าซึ้งๆที่เคน-นุ่น แสดงได้ดีอยู่แล้ว สวยทั้งบรรยากาศ หวานทั้งการแสดง ทั้งคู่เล่นกันไป หยอกล้อกันไป ไม่มีความเขินอยู่แล้ว เรียกว่าผ่านฉากแบบนี้มาจนสบายมาก

          อีกฉากหวานส่งท้ายต่อเนื่อง เป็นฉากกลางคืน หลังผ่านเวลากันไป จนลูกในท้องของญาดาโตขึ้น ชาคริตกลับไปเคลียร์กับพวกมาเฟีย เกือบจะไม่ได้กลับมาเจอกัน แต่ที่สุดก็รอดปลอดภัยกลับมา ได้อยู่พร้อมกันพ่อแม่ลูก ชาคริตสัญญาว่าจะเลิกทำงานผิดกฎหมาย ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับลูกเมียให้ดีที่สุด

          ฉากนี้ยิ่งหวานขึ้นไปอีก กอดจูบกันอย่างมีความสุขที่แท้จริง เคน กับ นุ่น แสดงกันอย่างลื่นไหล กุ๊กกิ๊ก หวานแหวว จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง มีความสุขกัน

          ติดตามชมระเริงไฟ ตอนอวสานได้ในวันอังคารที่ 23 มกราคมนี้ เวลา 20.20 น.ช่อง 3HD ช่อง 33