happy on January 21, 2018, 09:07:17 PM
ดีแทคตั้งเป้าเชิงรุก สร้างพนักงานที่มากความสามารถด้านดิจิทัลระดับท็อปได้ ภายในปี 2561เปิดตัวอบรมหลักสูตรดิจิทัลนานกว่า 100,000 ชั่วโมง กับโปรแกรม 40 ชั่วโมงแห่งความท้าทาย16 มกราคม 2561 - ดีแทคท้าทายพนักงานทุกคนด้วยโปรแกรม "40-hour Challenge" เพื่อสนับสนุนให้พัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และเข้าร่วมคอร์สอบรมเกี่ยวกับดิจิทัลผ่านระบบออนไลน์จำนวน 40 ชั่วโมงให้เสร็จสิ้นภายในปี 2561 นี้ ซึ่งจำนวนชั่วโมงการอบรมดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบันของดีแทคถึง 3-4 เท่า และมากกว่าที่กฎหมายกำหนดสูงสุดถึง 10 เท่า โปรแกรมนี้นำเสนอชั้นเรียนออนไลน์ระดับโลก ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือระหว่าง Lynda.com Coursera และเทเลนอร์นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า "โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ยิ่งใหญ่กว่าโปรแกรมอื่นๆที่เราได้เคยจัดมา โดยมีเป้าหมายการฝึกอบรมให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งตั้งไว้มากกว่า 100,000 ชั่วโมงสำหรับทั้งองค์กร
ที่สำคัญ โปรแกรมนี้สนับสนุนหลักความเชื่อของดีแทคที่ว่าทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านดิจิทัลได้หมด ถ้ามีกระบวนการทางความคิดที่ถูกต้อง โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัททั่วโลกมีช่องว่างเพิ่มขึ้นในทักษะด้านดิจิทัลของพนักงาน และช่องว่างนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อพูดถึงซอฟท์สกิลด้านดิจิทัล นั่นหมายถึงไม่เพียงแต่การเขียนโปรแกรม และการวิเคราะห์ที่มีความต้องการสูง แต่ทักษะอื่นๆเช่น ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ขององค์กรก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน"
"ดีเอ็นเอของดีแทคคือการลงมือทำอย่างรวดเร็ว คิดแตกต่าง กล้าที่จะทำ และมีความกระตือรือร้นที่จะมุ่งสู่ชัยชนะ ขณะนี้ดีเอ็นเอดังกล่าวได้ถูกฝังอยู่ในวัฒนธรรมของบริษัทแล้ว พนักงานของเรากำลังถามว่า 'เราจะช่วยอย่างไรได้บ้าง มีที่ไหนบ้างที่เราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆได้' นี่คือตัวตนของโปรแกรม '40-hour Challenge' นั่นเอง เรากำลังให้เครื่องมือที่พนักงานต้องการในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง"
โปรแกรม "40-hour Challenge" นี้จะช่วยพัฒนาบุคลากรทั้งทักษะดิจิทัลในรูปแบบฮาร์ดสกิล และซอฟท์สกิล โดยจะมีคะแนนของแต่ละคลาสในหัวข้อตั้งแต่รูปแบบการทำงานแบบอะไจล์ ไปสู่การวิเคราะห์ และประสบการณ์ของลูกค้าดิจิทัล คลาสต่างๆที่มีให้เรียนออนไลน์จะพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา กับการใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นพนักงานสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา การอบรมของดีแทคครั้งนี้ยังใช้เกมเข้ามาประยุกต์ใช้ (gamification) ซึ่งเมื่อเรียนคลาสไหนสำเร็จแล้วสามารถปลดล็อกรับ badge คอร์สขั้นสูง และดีแทคคอยน์ได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนพนักงานให้จัดการการเรียนรู้ในหัวข้อที่พวกเขารัก และสามารถช่วยพวกเขาวางแผนความก้าวหน้าของการเรียนตามความต้องการส่วนบุคคลและยังรวมถึงความต้องการของทีมอีกด้วย
"เราไม่สามารถบอกพนักงานว่าพวกเขาต้องเป็นบุคคลดิจิทัล แต่ไม่เคยติดต่อสื่อสารกับพวกเขาออนไลน์" นางสาวนาฎฤดีกล่าวต่อ "การอบรมของเราให้โอกาสแบบ bottom-up approach คือพนักงานและผู้จัดการของพวกเขาสามารถดูแลจัดการสิ่งต่างๆเกี่ยวกับความรู้ที่ตรงกับความต้องการของทีมอย่างถูกต้องแม่นยำ และมันไม่ใช่แค่เรื่องเนื้อหาเท่านั้น การอบรมของเรายังถูกออกแบบตั้งแต่พื้นฐานขึ้นไปจนถึงระดับประสบการณ์ดิจิทัลที่มีคุณค่า
การฝึกอบรมจะได้รับแรงสนับสนุนจากการจ้างผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลหน้าใหม่ๆ และการโยกย้ายภายในของพนักงาน ดีแทคมีอัตราการย้ายหน่วยงานภายในสูงมากถึง 38% ในแต่ละปี และกำลังประกาศรับพนักงานใหม่ในด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) การตลาดโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce)
"วันนี้เราใช้บางส่วนของการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย เรากำลังทำงานอยู่กับข้อมูลขนาดใหญ่จำนวนมหาศาล การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของดีแทคทำให้เราเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับผู้ที่มีความสามารถด้านดิจิทัล และเราก็รู้ว่าผู้มีความสามารถทางดิจิทัลจะดึงดูดซึ่งกันและกัน"
ในปี 2560 ลูกค้าดีแทคมากกว่าครึ่งหนึ่งชำระเงินค่าบริการผ่านแอปดีแทค ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 50% แอปสำหรับรีเทลเลอร์เติมเงินชื่อ ดีแทควัน ได้ถูกดาวน์โหลด 60,000 ครั้ง และสามารถลดขั้นตอนการทำงานพวกการเติมเงินลงจาก 45 วินาที เหลือแค่ 5 วินาทีเท่านั้น Chatbot สามารถตอบสนองได้มากถึง 30% ของความต้องการของลูกค้าทั้งหมด จากช่องทาง SMS และจะมีการขยายช่องทางไปยัง Facebook ฟีเจอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมอะไจล์ ซึ่งทำงานแบบ Project-driven โดยที่บุคลากรต่างสายงานมาทำงานร่วมกัน และสามารถทำงานได้สำเร็จอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่สองสัปดาห์
"ปี 2561 จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับดีแทค เราได้รุกนำไปแล้วในอุตสาหกรรมด้วยทีมอะไจล์ที่มีมากกว่า 10 ทีมทั่วทั้งองค์กร แต่มันยังเป็นปีที่เราต้องนำดิจิทัลไปสู่ทุกคนอีกด้วย การฝึกอบรมจะช่วยให้ผู้ที่เต็มใจที่จะรับโอกาสเพื่อที่จะอยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้"
dtac launches aggressive target for over 100,000 hours of digital trainingWith the 40-hour challenge, everyone can become a top digital talent.Jan 16, 2017 - dtac has issued a "40-hour Challenge" to all of its employees, to encourage them to grow their digital skills and complete 40 hours of online digital training within 2018. This represents three to four times more than dtac's current averages, and up to 10 times more than what is required by law. The program draws on dtac's world-class online classes, provided in partnership with Lynda.com, Coursera and Telenor.
"The scale of this program is beyond anything we've done in the past," says Nardrerdee Arj-Harnwongse, Chief People Officer at dtac. "By the end of the year, the program is aiming for over 100,000 hours of training across the organization."Crucially, it is also at the core of dtac's belief that everyone can become a digital talent with the right mindset. More than half of companies globally report a growing gap in their employees' digital skills, and that gap is even wider when it comes to soft digital skills. That means not only coding and analytics are in high demand, but also skills like customer-centricity, organizational dexterity and creativity.
"The dtac DNA is to act fast, think different, be daring and have passion to win. Now that this DNA is really embedded in the company culture, our employees are asking, 'How can I help? Where can I pick up new skills?' This is what the '40-Hour Challenge,' is about," says Nardredree. "We are giving employees the tools they need to make change happen."
The 40-Hour Challenge will grow both hard digital skills and soft digital skills. There are scores of classes on offer, on topics ranging from agile work models to analytics and digital customer experience. The classes are offered in an always-on, mobile-ready format so that it's possible to study anywhere, anytime. dtac's training also uses gamification, where completed classes can unlock badges, advanced courses and dtac coins. The objective is to encourage employees to curate learning on topics they love, and help them map their progress based on their personal needs as well as their teams.
"You can't tell employees they need to be digital and then not meet their needs online," says Nardreree. "Our training allows for a bottom-up approach where employees and their managers can curate what knowledge meets their team's exact needs. And it's not just about the content. Our training is designed from the ground up to be a rewarding digital experience."
Training will also be reinforced by hiring new digital talents and regular movement of employees across its divisions. dtac has a very high 38% year-on-year internal employee mobility and is currently hiring in the fields of data science, social media marketing and e-commerce.
"Today, we're using some of the most advanced machine learning and AI in Thailand. We're working on truly big data on a massive scale. dtac's digital transformation has made us extremely desirable for digital talent. And we know that digital talent attracts talent," says Nardredree.
In 2017, dtac more than doubled its share of customers paying their bills via the dtac app, outperforming the industry average by 50%. The pre-paid retailer app, dtac ONE, has been downloaded 60,000 times and can cut routine operations like top-ups from 45 seconds to 5 seconds. Chatbots can instantly respond to 30 percent of customer queries via SMS, and will soon be extended to Facebook. Many of these features were developed by agile teams that are project-driven, cross-functional and work in rapid two-week sprints.
"2018 will be a critical year for dtac. We are already ahead of the industry thanks to more than 10 agile teams throughout the organization, but this is the year when we must take that digitalization to everyone. Training will allow those who are willing to embrace change to stay ahead of this transformation," says Nardredree.
« Last Edit: January 21, 2018, 09:09:01 PM by happy »
Logged