MSN on December 26, 2017, 01:11:27 PM
ประเทศไทยฉลองวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ:แคมเปญ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง ดึงดูดผู้สนับสนุนกว่า 15,000 ราย, 87 ล้านวิวกรุงเทพ, 26 ธันวาคม 2560 – เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติวันนี้ โครงการ USAID Wildlife Asia ขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริการ่วมกับองค์กรไวล์ดเอด (WildAid) ประกาศผลแคมเปญรณรงค์ออนไลน์ “#ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง” (I am #IvoryFree) หลังการรณรงค์ขับเคลื่อนให้สังคมไทยไม่ซื้อ ไม่ใช้ และไม่รับงาช้างเป็นของขวัญ โดยมียอดวิวภาพที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียมากกว่า 87 ล้านวิว
แคมเปญดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีผู้มีชื่อเสียงและผู้มีอิทธิพลทางสังคมทั้งจากภาคธุรกิจ บันเทิง การเมือง กีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนาและสื่อมวลชน กว่า 100 คน รวมทั้งประชาชนทั่วไปกว่า 15,200 คนที่ให้คำมั่นว่า "I am #IvoryFree # ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง แคมเปญนี้มียอดไลค์กว่า 907,000 ครั้ง 2,300 ความคิดเห็น และ ยอดแชร์กว่า 1,500 ครั้ง
“การค้าสัตว์ป่าเป็นอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งต้องการการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างถาวรเพื่อลดความต้องการและยุติอาชญากรรมดังกล่าวนี้" เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มร. กลิน เดวีส์ ซึ่งได้ร่วมรณรงค์กับโครงการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมากล่าว “เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแนวคิดที่ว่า งาช้างเป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความมั่งคั่ง แคมเปญ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการให้ประชาชน มีส่วนร่วมช่วยให้โลกเข้าใจว่า
การตัดสินใจของผู้บริโภคมีผลกระทบโดยตรงต่อวิกฤติการลักลอบล่าสัตว์"
ในการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ผู้มีอิทธิพลทางสังคมมาจากหลายสาขาอาชีพ อาทิ ดาราผู้มีชื่อเสียง ผู้นำทางธุรกิจ นักการทูต นางงาม ผู้สื่อข่าว นักกีฬา และคนอื่น ๆ ได้เชิญชวนคนไทยทุกคนมาสร้างภาพคู่ช้าง ที่ www.ivoryfreethai.org และแชร์ภาพนั้นไว้ในหน้าโปรไฟล์ในโซเชียลมีเดียของตน พร้อมทั้งเหตุผลของการให้คำมั่นสัญญานี้ ด้วย hashtags #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง #IvoryFree
แคมเปญยังได้เชิญเพจยอดนิยมในเฟสบุ๊คมาร่วมสร้างเนื้อหาในรูปแบบของตนเองที่เหมาะสำหรับผู้ติดตามของพวกเขา จากบรรดาเพจดังกล่าว รวมทั้งเพจข่าวและเว็บยอดนิยมต่างๆ สามารถเพิ่มจำนวนการมีส่วนร่วมอีกกว่า 217,000 ครั้งจากผู้ติดตามของเพจเหล่านี้ อันประกอบด้วยยอดไลค์ จำนวน 211,000 ไลค์ 1,300 ความคิดเห็นและแชร์กว่า 4,100 ครั้ง
ทุกปีมีช้างกว่า 33,000 ตัวถูกลักลอบฆ่าเพื่อเอางามาค้าอย่างผิดกฎหมาย รัฐบาลหลายแห่งทั่วโลกได้สั่งห้ามการค้างาช้างในประเทศ รัฐบาลไทยได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ รวมถึงการจัดทำพระราชบัญญัติงาช้างและห้ามค้างาช้างแอฟริกา ในช่วงที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย แคมเปญ "#ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง" จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดความต้องการของผู้ที่บริโภคงาช้างในปัจจุบันและผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะบริโภคงาช้างรายใหม่ๆ
เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางสังคมให้การซื้อและครอบครองงาช้าง ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม แคมเปญนี้พิจารณาในเชิงกลยุทธ์ว่า การค้าสัตว์ป่าออนไลน์ที่ผิดกฎหมายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้กล่าวถึงแคมเปญนี้ในรายงานความคืบหน้าแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งชาติ เสนอต่อการประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่กรุงเจนีวา
โครงการ Ivory Free เป็นความคิดริเริ่มขององค์กรไวล์ดเอด (WildAid) ซึ่งได้ดำเนินโครงการรณรงค์ในประเทศจีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกาและไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2557 แคมเปญ "#ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง" เป็นงานต่อเนื่องของโครงการที่ดำเนินอยู่ในประเทศไทย
“โครงการรณรงค์ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง I am #IvoryFree แสดงให้เห็นว่า คนไทยพร้อมใจที่จะช่วยกันสร้างสังคมที่ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง” มร.จอห์น เบเกอร์ กรรมการผู้จัดการองค์กรไวล์ดเอด กล่าว
“การลดความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์งาช้าง ถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรไวล์ดเอดในความพยายามยุติการฆ่าช้างเอางา เราหวังว่าการสร้างความตระหนักให้สังคมรับรู้ถึงความโหดร้ายที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ งาช้าง จะทำให้สังคมหันหลังให้กับการบริโภคผลิตภัณฑ์งาช้างมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การยุติการฆ่าช้างเอางาในที่สุด เพราะหยุดซื้อ คือ หยุดฆ่า”
เกี่ยวกับ USAID WILDLIFE ASIA
องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) สำนักงานภาคพื้นเอเชีย ดำเนินโครงการ USAID Wildlife Asia เพื่อชี้ให้เห็นว่า การค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายคืออาชญากรรมข้ามชาติ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ จากสัตว์ป่า พัฒนาทักษะด้านการบังคับใช้กฎหมาย พัฒนานโยบาย ข้อกำหนด หลักกฎหมาย และส่งเสริมความร่วมมือ ระดับภูมิภาคเพื่อลดอาชญากรรมสัตว์ป่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา สปป.ลาว ไทย เวียตนาม และประเทศจีน ชนิดพันธุ์หลักที่โครงการเน้น ได้แก่ งาช้าง นอแรด เสือและตัวนิ่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้จาก www.usaidwildlifeasia.org
เกี่ยวกับ WildAid
ไวล์ดเอด (www.wildaid.org) คือ องค์กรไม่แสวงผลกำไร มีเป้าหมายหลักเพื่อยุติการค้าสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าผิดกฎมาย WildAid เน้นรณรงค์เพื่อลดความต้องการบริโภค และความต้องการ ซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่า โดยเราหวังว่า ผู้บริโภคจะไม่กินหูฉลาม ไม่ซื้องาช้าง นอแรด และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอื่นๆ อีกต่อไป
ไวล์ดเอด ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลากหลายสาขากว่า 100คน ร่วมเผยแพร่ข้อความรณรงค์ ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาการฆ่าและค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ผ่านสโลแกนหลักขององค์กร “When the Buying Stops, the Killing Can Too. - หยุดซื้อ คือ หยุดฆ่า”
เราทำงานรณรงค์ที่เอเชียเป็นหลัก ในประเทศที่ยังมีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าสูง และได้ทำโครงการรณรงค์ Ivory Free หยุดซื้องาช้างในประเทศจีน ฮ่องกง และไทย ข้อมูลเพิ่มเติม : www.wildaid.org
« Last Edit: December 26, 2017, 01:26:09 PM by MSN »
Logged