Walking for Health…เดินเพื่อสุขภาพ

Walking for Health…เดินเพื่อสุขภาพ



จากแคมเปญวิ่งมาราธอนหลายต่อหลายแคมเปญที่เกิดขึ้นในปีนี้ เรียกได้ว่า ได้กลายเป็นเทรนด์การออกลังกายสุดฮิต ปลุกพลังของคนไทยหลายต่อหลายคนให้ลุกขึ้นมาวิ่งอย่างจริงจังและลุยสมัครกันจนเต็มทุกสนาม แต่สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหรือยังไม่มีเวลาฟิตร่างกายเพื่อเตรียมตัวลงวิ่งระยะไกล ขอแนะนำให้เริ่ม “เดินเพื่อสุขภาพ” กันก่อน แล้วค่อยๆ ขยับสเต็ปและระยะทางดีกว่า แล้วคุณจะพบว่า การเดิน ก็ให้ผลลัพธ์เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ!

“นิตยสารสุข” (SOOK Magazine) โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นิตยสารสำหรับคนรักสุขภาพที่เต็มไปด้วยสาระ สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “การเดิน” คือตัวเลือกการออกกำลังที่ดีเยี่ยม เนื่องจากสามารถเริ่มเองได้ ไม่ต้องมีอุปกรณ์ ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำได้แทบทุกที่ ทุกเวลา ทั้งยังมีความปลอดภัยสูง เป็นยาวิเศษช่วยลดโรคอีกมากมาย และยังมีข้อดีต่างๆ ดังนี้

•   เดิน 3 ชั่วโมงหรือมากกว่าต่อสัปดาห์ ลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจได้ถึง 35%
•   เดินเพียง 30 นาทีต่อวัน ช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน 30% และลดความดันโลหิต
•   ผู้หญิงที่เดินอย่างน้อย 35 นาทีต่อวัน ลดความเสี่ยงจากการหกล้มและช่วยให้กระดูกแข็งแรงมากถึง 41%
•   ผู้หญิงที่เดินอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 14%
•   เดิน 15 นาทีช่วยลดความอยากของหวานได้
•   เดิน 45 นาทีในตอนเช้าช่วยให้นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
•   เดิน 8 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ ช่วยรักษาศักยภาพการทำงานของสมองและความจำสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์
•   เดิน 9 - 10 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ ส่งผลดีต่อสมองของผู้ใหญ่ทั่วไป
•   เดิน 30 นาทีต่อสัปดาห์ ช่วยให้อารมณ์เบิกบาน
•   เดิน 8 - 10 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ ช่วยป้องกันอาการข้อเข่าเสื่อม ลดความเสี่ยงต่ออาการปวดข้อและสะโพก
•   เดิน 20 นาทีต่อวัน หรือเดิน 5 วันต่อสัปดาห์ จะป่วยน้อยกว่าคนอื่นถึง 43%
•   เดิน 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้อายุยืนขึ้นได้ 3 ปีครึ่ง

การเดินในแต่ละวัน ควรเดินให้ได้ระยะทาง 2.5 – 3.5 กิโลเมตรต่อวัน หรือวันละ 10,000 ก้าว แต่ถ้ารู้สึกว่า การนับก้าวยุ่งยากเกินไป ให้จำแบบง่ายๆ แทนว่า ควรเดินนาน 30 นาที และบวกรวมแล้วควรเดินให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยจะทำครั้งเดียว หรือแบ่งทำ 2 - 3 ครั้งในหนึ่งวันก็ได้ เมื่อรู้สึกเหนื่อยหอบในระดับที่พูดเป็นคำๆ ขาดช่วง ให้ชะลอฝีเท้าลง เริ่มทำจาก 3 วันต่อสัปดาห์ และเพิ่มถึงสูงสุด 5 - 6 วันต่อสัปดาห์
มาเริ่ม  “เดินเพื่อสุขภาพ” กันตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่แข็งแรงและมีความสุข ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินที่สำคัญอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเดินอย่างไรให้ถูกวิธี สิ่งควรทำเพื่อการเดินที่ยั่งยืน การเลือกรองเท้าถุงเท้าให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากการเดิน ไปจนถึงความปลอดภัยในการเดิน ฯลฯ ใน “นิตยสารสุข” (SOOK Magazine) ฉบับพฤศจิกายน พร้อมภาพกราฟิกน่ารัก สีสันสดใส เข้าใจง่าย ที่เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาเพียง 20 บาท นอกจากจะสร้างสุขให้กับตัวเองแล้ว ยังร่วมทำบุญด้วยการมอบความสุขกับกิจกรรมส่ง SOOK Magazine ไปให้กับโรงเรียนหรือหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพียงสมัครสมาชิก SOOK Magazine แบบรายปี เพื่อร่วมแบ่งปันความรู้และความสุขให้แก่ผู้อื่นในสังคม

ที่มา: SOOK Magazine ฉบับพฤศจิกายน 2560