news on November 11, 2017, 06:29:34 AM




ข่าวประชาสัมพันธ์ ภาครัฐชี้ปีหน้าก้าวสู่ “ปีแห่งข้อมูลภาครัฐ” พร้อมบทบาทใหม่ หนุนดีจีเอ เดินหน้าศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ




ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีประธานในพิธีเปิดงาน เปิดเผยความพร้อมในการพัฒนาประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ว่า รัฐบาลได้เร่งเครื่องเดินหน้ารัฐบาลดิจิทัลให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตามแนวทาง “เปิดเผย เชื่อมโยง เปลี่ยนผ่าน สู่รัฐบาลดิจิทัล” เริ่มตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลให้มั่นคง เพื่อให้ภาครัฐทั้งหมดมีเสถียรภาพในการทำงานแบบอัจฉริยะด้วยการสร้างระบบเพื่อให้เกิดการแบ่งปันการใช้ทรัพยากรร่วมกันสำหรับการบริหารงานและให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มั่นคง ปลอดภัย ขณะเดียวกันก็แบ่งปันและเชื่อมโยงข้อมูลเข้าหากัน ไม่ต้องลงทุนเองเพียงเข้ามาใช้บริการที่มีอยู่แล้ว ก็ช่วยชาติประหยัดงบประมาณได้ปีละหลายพันล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้มีการลงทุนในส่วนโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้นสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาได้อย่างเท่าทัน





สิ่งที่รัฐบาลผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด คือการทำงานอย่างโปร่งใสซึ่งไม่ใช่เพียงการเปิดเผยข้อมูลที่มีอยู่จากอนาล็อกมาสู่ดิจิทัลเท่านั้น แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ เริ่มตั้งแต่ การเปิดเผยขั้นตอนการทำงานของทุกหน่วยงานให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและประชาชนสามารถใช้อ้างอิงข้อมูลร่วมกันได้ ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ data.go.th แหล่งค้นหาชุดข้อมูลเปิดภาครัฐ และภาษีไปไหน ระบบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ ปัจจุบันได้พัฒนาถึงเวอร์ชัน 2 แล้วทั้งในรูปแบบเว็บไซต์ govspending.data.go.th และแอปพลิเคชัน นับเป็นการเปิดประตูสู่สังคมแห่งการเปิดเผยที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมาของรัฐบาลไทย




สำหรับปี 2018 จะเป็นปีแห่ง Year of Data หรือปีของข้อมูลภาครัฐอย่างแท้จริง โดยจะมีการประกาศ National Data Set หรือชุดข้อมูลแห่งชาติ เบื้องต้นคาดว่าจะมีชุดข้อมูลภาครัฐที่อยู่ในโครงการนี้ประมาณ 300-500 ชุดข้อมูล เพื่อให้ให้ประชาชนนำไปใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมทางเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อนำไปสู่การเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็ง และความก้าวหน้าด้วยความสามารถของการเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ในส่วนภาคเอกชนยังสามารถนำชุดข้อมูลเผยแพร่ต่างๆ ไปวิเคราะห์ข้อมูลที่กระจายตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy)เช่น ธุรกิจ E-commerce, Social Media เป็นต้น ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาเชื่อมโยงเพื่อต่อยอดทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตขึ้นได้

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน) หรือ EGA เปิดเผยว่า ในการจัดงาน “Digital Government Summit 2017 : เปิดเผย เชื่อมโยง เปลี่ยนผ่าน สู่รัฐบาลดิจิทัล” ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2560 ณ ลาน Eden และ Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประชาชนจะได้เห็นพลังความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตรที่ต่างนำบริการอัจฉริยะมานำเสนอให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ภายในงานมีการประกาศผลการสำรวจระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในภาพรวมของประเทศไทย ประจำปี 2560 เบื้องต้น พบว่า หน่วยงานภาครัฐระดับกรม ได้ค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 57.2 โดยคะแนนสูงสุดอยู่ที่ มิติด้านศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาครัฐด้านดิจิทัล และหน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดได้ค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 36.9 โดยมิติด้านการบริหารจัดการภายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ค่าคะแนนสูงสุด ซึ่งจากผลการสำรวจดังกล่าว จึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลที่กำลังเดินหน้าเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลดิจิทัล โดยเร่งสร้างความชัดเจนในการนำประเทศไทยเข้าสู่ Digital Transformation ทั้งในด้าน คน กระบวนการ และกฎหมาย อาทิ

- การนำ Digital Transformation Program ของสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ (Thailand Digital Government Academy: TDGA) ปรับเปลี่ยนบุคลากรภาครัฐ ด้วยการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรภาครัฐให้มีความพร้อมในทักษะทางด้านดิจิทัล

- ต้นแบบบริการใหม่โดยใช้หลัก Design thinking

- พ.ร.บ.ว่าด้วยรัฐบาลดิจิทัล ตามมติค.ร.ม.

ด้านบทบาทใหม่ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)ตามมีมติค.ร.ม. เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 เป็น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA)ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลคล่องตัวยิ่งขึ้น ภายในปีหน้าจะมีโครงการใหม่เกิดขึ้น อาทิ

- Government Data Exchange หรือศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ

- Government Data Center หรือศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ

- Government Data Analytics Center หรือ ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลแห่งชาติ

- GIN (Government Secured Intranet) จะเปลี่ยนเป็น Government Secure Intranet หรือระบบโครงข่ายภาครัฐที่มีความปลอดภัยสูง

และจะมีการสร้าง Open Data Platform หรือ แพลตฟอร์มแบบเปิดที่มีความเสถียรและฉลาด ก็จะทำให้ปีของข้อมูลกลายเป็นความเชื่อมโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่อย่างจริงจังมากขึ้น
« Last Edit: November 11, 2017, 10:19:08 PM by news »