MSN on November 08, 2017, 07:54:07 AM
PDI โชว์กำไร  9  เดือน 637 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาสังกะสีปรับตัวดีขึ้น   

บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI)  โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนปี 2560 มีกำไรสุทธิ 637 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 80 จากช่วงเดียวกันปีก่อน  รับอานิสงส์ราคาโลหะสังกะสีโลกทะยานต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปี60 ราคาสังกะสียังทรงตัวระดับสูงต่อไป จะทำให้สามารถรักษารายได้และกำไรสุทธิให้สูงและดีเช่นนี้ได้ตลอดทั้งปี


นายฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (PDI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2560) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จำนวน 3,741 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 352 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานมีกำไรที่ดีมากนี้มาจากราคาโลหะสังกะสีโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยในรอบ 9 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 2,781 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43 จากในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,948 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน  อัตรากำไรขั้นต้นใน 9 เดือนแรกของปี 2560 เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 629 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2559 เพิ่มเป็น 969 ล้านบาท ถึงแม้ว่าต้นทุนขายจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการจำหน่ายโลหะสังกะสีจากการนำเข้าในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมากจากช่วงเดียวกันของปี 2559

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ1,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 1,231ล้านบาท  โดยมีกำไรสุทธิ 114 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 222 ล้านบาท  การยุติธุรกิจสังกะสีในกระบวนการผลิตแบบเดิมส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายรวมในไตรมาส 3 ปี 2560 ลดลงร้อยละ 6 จากไตรมาส 3 ปี 2559 โดยปริมาณการจำหน่ายโลหะสังกะสีจากการนำเข้ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 54 ของปริมาณการจำหน่ายโลหะสังกะสีรวม สำหรับราคาโลหะสังกะสีโลกในไตรมาส 3 ปีนี้เฉลี่ยที่ 2,962 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 จากราคาเฉลี่ยไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งเฉลี่ยที่ 2,253 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน 

“การดำเนินงานโดยรวมในปี 2560 มีแนวโน้มที่ดีมาก เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างรายได้และกำไรได้สูงกว่าในปีที่แล้วมากจากธุรกิจสังกะสีซึ่งยังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯ ในปีนี้กว่าร้อยละ 90 จากราคาโลหะสังกะสีโลกที่ปรับตัวสูงเป็นประวัติการณ์โดยราคาปรับเหนือระดับกว่า  3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา   

บริษัทฯ มีความพัฒนาการอย่างชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยในเดือนกันยายน 2560 ได้เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์มีกำลังการผลิตรวม 30 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย  ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ดำเนินการผลิตแล้ว ทั้งสิ้นรวม 38.6 เมกะวัตต์ ทั้งนี้  โรงงานพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่สองขนาด 10.5 เมกะวัตต์ ที่ประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ เพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้วเป็น 50 เมกะวัตต์

ผลประกอบการที่ดีและมีกำไรสะสมอย่างต่อเนื่อง ทำให้พีดีไอมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก มีกระแสเงินสดที่พร้อมในการลงทุน โดยยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจต่อไป มองหาโอกาสที่จะลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีความคุ้มค่าและได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นในธุรกิจพลังงานทดแทน บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและวัสดุรีไซเคิล รวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจก็อยู่ในการพิจารณาลงทุนของบริษัทเช่นกัน
 
ข้อมูลทั่วไป
พีดีไอ หรือบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)  พีดีไอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2524 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 2,260 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจผลิตโลหะสังกะสีคุณภาพสูงมากว่า 30 ปี ทั้งผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีแท่งบริสุทธิ์และโลหะสังกะสีผสมเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมชุบสังกะสีและอุตสาหกรรมฉีดชิ้นงานสังกะสี

ปี  2557 บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพื่อยกระดับขึ้นสู่ “อุตสาหกรรมสีเขียว” ที่เปนมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจัดโครงสร้างธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี ดำเนินธุรกิจจัดหาพลังงานจากพลังงานทดแทนเป็นหลัก 2.พีดีไอ แมททีเรียล ดำเนินธุรกิจจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากการรีไซเคิล และ 3.พีดีไอ อีโค ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมแบบครบวงจร
« Last Edit: November 09, 2017, 09:34:07 AM by MSN »

MSN on November 09, 2017, 09:35:20 AM
PDI records a nine-month net profit of 637 million baht,leveraged form strong sales income under improved zinc prices

Padaeng Industry Plc (PDI) showed strong performance in the first nine months of 2017, a significant increase with 80% year-on-year to 637 million baht, benefiting from continued high zinc prices. The Company is confident the zinc price will remain high for the rest of the year and will sustain exceptional good revenues and profits for the whole year.



Mr. Francis Vanbellen, Managing Director of Padaeng Industry Public Company Limited  (PDI), said that the sales and services revenues  were 4,328 million baht in the first nine months of 2017, a 16% rise from 3,741 million baht in the same period last year, and its net profit rose 80% year-on-year to  637 million baht, compared to a the net profit of 352 million baht for the same period of previous year.

High contribution to the Company’s strong performance is the sustained rise of global zinc prices. The average price during 9 M 2017 sharply increased to USD2,781 per ton, surging 43% from USD1,948 per ton in the same period last year.

The gross profit of 9M 2017 significantly increased from 629 million baht in 9M 2016 to 969 million baht despite increase in cost of goods sold due to higher raw material costs from imported metals.
For the third quarter of 2017, the Company recorded sales and services revenues totaling 1,439million baht, up 17% from 1,231 million baht in the same period last year.

The third quarter net profit reached 114 million baht, compared to a net profit of 222/MB for the same quarter of previous year. As a result of the ceasing of the Zinc operations, total sales volumes in Q3 2017 dropped by 6% from Q3 2016. The sales volumes of imported metals, at lower margins than PDI’s own mine production, reached 54% of total sales in Q3 2017.  Average zinc prices in the third quarter were $2,962 per ton, increasing 32% from USD2,253 per ton in the third quarter of 2016.

“Overall, our performance in 2017 is extremely strong. We’re confident our revenues and net profit will exceed last year’s. Zinc business remains PDI’s 2017 core business, generating 90% of total revenues on the back of record high zinc prices philandering USD3,300 per ton since the middle of August,” Mr. Vanbellen said.

The Company marked noteworthy progress in its make-over strategy into renewable Energy by acquiring 30MW of solar farms in Thailand in September 2017. Currently, the Company operates 38.6MW of solar power plants. The second solar power plant with installed capacity of 10.5MW in Japan is under construction and expected to COD in Q1 2018, which will boost the total capacity to 50MW.

The strong performance with growing retained earnings provides PDI with a healthy financial position and cash flow ready to realize new investments. PDI continues to expand its green sustainable business, searching for opportunities to invest in new projects, generating good returns. The Company’s investments target businesses in Energy, Eco and Materials. Other M&A targets, when encouraging, will also be considered.

General Information
PDI, or Padaeng Industry Public Company Limited, was founded April 10th, 1981 and listed on the Stock Exchange of Thailand with a registered capital of Baht 2,260 million. The Company has produced high quality zinc for over 30 years.  It has specialized in producing special high-grade zinc ingots and zinc alloys used in the galvanizing and die-casting industry.

In 2014, PDI reassessed its business structure in anticipation of a shift to sustainable business, with the objective to increase eco-efficiency and to foster growth. The company is structured in three business units: PDI Energy – providing energy mainly from renewable sources; PDI Materials – providing added value materials from recycled materials; and PDI Eco – providing waste management solutions for complex industrial waste.