ข่าวประชาสัมพันธ์ จงให้อาหารเป็นยาในการรักษาโรค ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร

ข่าวประชาสัมพันธ์ จงให้อาหารเป็นยาในการรักษาโรค ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร



ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน บ่งชี้ว่า แม้แต่ยาจีนที่ใช้รักษาโรค ยังสู้การเลือกอาหารมารับประทานเป็นยาไม่ได้  คนในโบราณจึงพิถีพิถันในการเลือกอาหารมารับประทาน โดยต้องรู้ด้วยว่าคนในครอบครัวกินอาหารนี้ได้ และคนไหนกินไม่ได้ คือให้รับประทานอาหารตามธาตุ อาทิ หยิน(ฤทธิ์เย็น)  – หยาง(ฤทธิร้อน)   ประกอบด้วย

อาหารฤทธิ์เย็นเป็นอาหารที่กินแล้วทำให้ร่างกายเกิดความเย็น ให้สังเกตง่ายๆ คือ เป็นอาหารที่ทำให้เรารู้สึกชุ่มคอ ไม่หิวน้ำ เช่น มังคุด มะยม แตงโม แตงไทย แคนตาลูป สับปะรด ส้มโอ ลางสาด กล้วยน้ำว้า น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว สตอร์เบอร์รี่ เป็นต้น

อาหารฤทธิ์ร้อน เป็นอาหารที่กินแล้วทำให้เราเกิดความร้อน ซึ่งมีข้อสังเกตง่าย ๆ คือ หากกินแล้วรู้สึกเผ็ดร้อน หรือรู้สึกหิวน้ำ ถือว่าเป็นอาหารฤทธิ์ร้อน เช่น ฝรั่ง ขนุนสุก ลิ้นจี้ เงาะ ลำไย ทุเรียน น้อยหน่า สละ ส้มเขียวหวาน มะตูม ละมุด มะเฟือง มะปราง มะขามหวานสุก สมอพิเภก มะไฟ มะแงว(ลิ้นจี้ป่า) ทับทิมแดง มะม่วงสุก ลูกยอ กระเจี้ยบแดง เป็นต้น



อาจารย์หยาง เผยเซิน  กล่าวว่า  ทุกวันนี้เมื่อป่วยและไปพบแพทย์ มักจะถูกถามว่า เป็นอะไรมา แพทย์ก็จะจัดยาให้ตามอาการ  แต่แพทย์ก็ไม่ได้ถามว่ากินอะไรมา พฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นอย่างไร  และเป็นความจริงด้วยว่า พฤติกรรมการกินอาหารของคนในปัจจุบันไม่ได้ระมัดระวัง คือกินตามใจปาก รสเผ็ดก็เผ็ดจัด เค็มก็เค็มจัด และยังใส่น้ำตาลเข้าไปด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีโทษ หรือให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างไร หรือไม่บางคนก็กินอาหารตามโฆษณา  กินตามกระแส กินทีละมาก ๆ  เพื่อให้เห็นผลเร็ว แต่ไม่รู้ผลเสีย อาทิ บางคนกินแครอทจนตัวเหลือง หรือกินขิงมากทุกวันจนร้อนใน ข้าวเหนียวบางคนกินได้ บางคนกินไม่ได้ บางคนกินแล้วร้อนใน สังเกตได้จากอึดอัด รู้สึกไม่สบาย 

ดังนั้นการกินอาหาร จงให้อาหารเป็นยาในการรักษาโรค ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาดั่งเดิมที่รู้กันอยู่แล้วทุกครัวเรือน

สำหรับอาหารที่เป็นยาและนิยมมาก ๆ ในสมัยก่อน ได้แก่ พุทรา ขิงสด นึ่งปลาเราต้องใส่ขิงสด ลูกเดือย ถั่วเขียว มะระ หรืออย่างกรณีคนที่เป็นสิวเยอะ แก้ไขได้ด้วย ให้กินมะระต้มกับกระดูกหมู ซึ่งมีหลายเมนู กินแล้วหายป่วยได้ อาทิ คนที่ร้อนในให้กินน้ำจับเลี้ยง คนที่เป็นหวัดให้ต้มขิงกับน้ำตาลทรายแดงรับประทาน คนที่มีอาการไอแห้ง ๆ ให้ต้มผลสาลี่กับน้ำตาลกรวดรับประทาน

อย่างไรก็ตาม อาหารเป็นยา ต้องดูอาการของแต่ละคน เพราะธาตุของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนกินได้ บางคนกินไม่ได้ อย่างคนที่กลัวความหนาว อาหารที่รับประทานของคนจีนโบราณจะใช้เหล้าเหลืองเป็นส่วนผสม เพื่อแก้อาการหนาว หรือไม่ก็ใช้ขิงแก่ ช่วยเพิ่มพลังหยาง สร้างภูมิต้านทาน ให้กับร่างกาย แต่คนที่ขี้หนาวก็ไม่เหมาะที่จะกินมะระ เพราะมะระมีฤทธิ์เย็น

ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับ “อาหารเป็นยา” ทางศูนย์ชี่กงเพื่อสุขภาพ ได้เปิดหลักสูตรที่เน้นเรียนทฤษฎีการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์แผนจีน , 5 รสชาติกับอวัยวะในร่างกาย, อาหารการกินเพื่อการป้องกันโรค และสมุนไพรเพื่อการบำรุงร่างกาย โดยเริ่มเรียนในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2560 (เรียนทุกวันพุธ เวลา 09.00 – 11.00 น. จำนวน 6 ครั้ง) ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2637-0121, 0-86-378-5331 ไลน์ qg_yang หรือ qigong_yang เวลาทำการ อังคาร-เสาร์ 9.00-17.00น.