เน็กซัสชี้ทำเลอโศก ทองหล่อยังเติบโตต่อเนื่อง
ไลฟ์สไตล์ตอบรับความต้องการ ดันราคาขายปรับเพิ่มเฉลี่ย 9% ต่อปี
เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง เผย ราคาที่ดินในทำเลอโศกถึงทองหล่อ ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ที่ดินส่วนใหญ่ที่มีการซื้อขายในทำเลนี้ได้พัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งในรูปแบบคอนโดมิเนียม รวมถึงที่อยู่อาศัยเพื่อการเช่า อาทิ เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และโรงแรม เนื่องจากทำเลนี้เป็นแหล่งไลฟ์ไตล์ที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับคนกรุงเทพ โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกันนางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวถึงภาพรวมและแนวโน้มราคาที่ดินทำเลอโศกถึงทองหล่อ ว่าที่ดินทำเลอโศกถึงทองหล่อมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 19% ในช่วง 7 ปี จากราคาเฉลี่ย 350,000 บาทต่อตารางวา เป็น 1.01 ล้านบาทต่อตารางวา และอีกในสองปีข้างหน้ามีแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นอีก อย่างน้อยปีละ 10%*ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560* ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560ตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่ทำเลอโศกถึงเอกมัยอุปทานในช่วงปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ผู้พัฒนาโครงการยังคงเชื่อมั่นในการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลอโศกถึงเอกมัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีอุปทานใหม่ทั้งหมด 14,332 หน่วย จาก 48 โครงการ โดยอัตราการเติบโตของคอนโดมิเนียมในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 67%ต่อปี สำหรับเฉพาะไตรมาสที่ 1 ถึง ไตรมาสที่ 3 ปี 2560 นั้น มีอุปทานใหม่จากผู้ประกอบการคิดเป็น 29% ของอุปทานรวม จำนวน 4,281 หน่วยจาก 17 โครงการ แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมั่นใจในตลาดทำเลนี้* ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนอุปทานโครงการในทำเลอโศก เอกมัยแบ่งตามประเภทนั้นจากอุปทานรวม 14,332 หน่วย พบว่าโครงการระดับไฮเอนด์มีจำนวนมากสุดถึง 55% ของอุปทานรวมหรือ 7,919 หน่วย ตามด้วยโครงการระดับลักซูรี่จำนวน 4,089 หน่วย และโครงการระดับซูเปอร์ลักซูรี่จำนวน 2,324 หน่วย * ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในด้านสัดส่วนผู้ประกอบการในตลาดระดับลักซูรี่นั้นจาก 48 โครงการที่ได้เปิดขายตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการจำนวน 9,332 ยูนิต คิดเป็น 65% ในตลาด และผู้ประกอบการรายเล็กให้ความสนใจสนใจพัฒนาโครงการจำนวน 5,000 ยูนิต คิดเป็น 35% แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในการพัฒนาสินค้าระดับลักซูรี่สู่ตลาดทำเลนี้ต่อเนื่อง* ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560สำหรับโครงการเปิดขายในอนาคตอันใกล้ ทำเลอโศก – เอกมัย มีทั้งหมด 8 โครงการ ส่วนใหญ่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในทำเลเอกมัยและทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ แสนสิริ สิงห์ เอสเตท MQDC และอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ อุปสงค์ ด้านอุปสงค์คอนโดมิเนียมทำเลอโศก – เอกมัยในปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,218 หน่วย คิดเป็น 75% ของอุปทานรรวม โดยตลาดระดับไฮเอนด์มียอดขายคิดเป็น 77% ตลาดระดับลักซูรี่มียอดขาย 74% และตลาดระดับซูเปอร์ลักซูรี่ มียอดขายคิดเป็น 74% ตามแต่อุปทานของแต่ละระดับตลาด* ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560ราคาราคาคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จากราคาเฉลี่ย 158,800 บาทต่อตารางเมตรเป็น 222,944 บาทต่อตารางเมตร โดยมีอัตราการเติบโตของของราคาในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 9% ต่อปี การปรับตัวของราคาเฉลี่ยโดยรวมเป็นไปในทิศทางบวก เว้นแต่ในช่วงปี 2556 ถึงปี 2557 ผู้พัฒนาโครงการให้ความสนใจพัฒนาโครงการไฮไรซ์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น จึงส่งผลให้ราคาปรับตัวเล็กน้อย* ที่มา Nexus Property Marketing, ตุลาคม 2560บทสรุป “ทำเลอโศกถึงเอกมัยเป็นทำเลที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาโครงการระดับลักซูรี่อย่างต่อเนื่องโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่างไรก็ตามข้อจำกัดด้านการหาที่ดิน และเงินลงทุนกลายเป็นปัจจัยให้ผู้พัฒนาโครงการมีแนวโน้มพัฒนาโครงการด้วยจุดเด่นที่แตกต่างออกไป อาทิ โครงการไฮไรซ์ระดับไฮเอนด์และโครงการโลว์ไรซ์ระดับลักซูรี่ หรือการร่วมมือกับบริษัทต่างชาติ เพื่อจุดประสงค์ในด้านการเงินและเทคโนโลยี ในด้านราคานั้นเมื่อเปรียบเทียบราคาที่ดินกับราคาขายต่อตารางเมตรของโครงการในตลาดลักซูรี่ การปรับราคาที่ดินทำเลนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนเป็นผลมาจากที่ดินมีอย่างจำกัด ในขณะที่ราคาขายห้องชุดต่อตารางเมตรปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับราคาขายที่ดิน อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2559 ถึง 2560 มีราคาเปิดขายคงที่ จากที่ผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจพัฒนาโครงการโลว์ไรซ์และไฮไรซ์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าราคาคอนโดมิเนียมปรับตัวขึ้นในอัตราเฉลี่ย 9% ต่อปี ในขณะที่ราคาที่ดินปรับขึ้นถึง 19% ต่อปี สำหรับด้านคุณภาพสินค้า เนื่องจากตลาดระดับลักซูรี่มีการแข่งขันกันสูงและมีโครงการเปิดขายใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คุณภาพของสินค้าดีขึ้นและมีจุดเด่นที่แตกต่างกันตามแต่ละโครงการ ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ซื้ออีกด้วย” นางนลินรัตน์ กล่าว