Movie Guide: สัมภาษณ์ “เลียม โอดอนเนล” ผู้กำกับ BEYOND SKYLINE ภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟกับการจู่โจมครั้งใหม่บนท้องฟ้าของผู้มาเยือนจากต่างดาว
Beyond Skyline อสูรท้านรก - นรกจะปรากฏบนท้องฟ้า!!
สิ่งที่จุดประกายให้เกิดเป็น BEYOND SKYLINE
โอคอนเนล: เป้าหมายของผมคือทำ Beyond Skyline ออกมาเป็นหนังแอ็คชั่นที่ใช้ตัวละครขับเคลื่อน ให้มันสนุกได้โดยที่ไม่ต้องดูภาคแรกมาก่อนเพราะฉะนั้นมันจึงถูกวางโครงเรื่องหลักแยกออกมาจากหนังภาคแรก แต่จะมีจุดสำคัญบางอย่างที่เชื่อมต่อกัน ผมต้องการขยายเรื่องราวให้เป็นระดับโลก มนุษย์ปะทะกับเอเลี่ยนทั้งบนถนน รถไฟใต้ดิน อุโมงค์ และป่า ทุกที่ที่ไม่ใช่อุดอู้อยู่แต่ในคอนโด
ไอเดียหลักที่เพิ่มเติมในภาพยนตร์เรื่องนี้
โอคอนเนล: ตอนที่เรากำลังตัดต่อหนังภาคแรกอยู่ เราพบว่าเรื่องราวมันสามารถยิ่งใหญ่และไปต่อได้อีกและถ้าเราจะทำต่อเราอยากพาผู้ชมไปสำรวจยานที่เป็นรังลับของเอเลี่ยนให้มากขึ้น รวมทั้งผมต้องการให้หนังระทึกขึ้นโดยการอัดฉากแอ็คชั่นเข้าไปอย่างจุใจ มันมีมุมน่าสนใจบนยานเอเลี่ยนอีกเยอะ มันมีอะไรให้เล่นมากมาย ก่อนที่ BEYOND SKYLINEจะเสร็จสิ้นพวกเราโฟกัสไปที่ไอเดียการเล่าเรื่องราวของตัวละครกลุ่มใหม่ ในช่วงเวลาที่โลกกำลังถูกเอเลี่ยนจู่โจมเหนือฟากฟ้า โดยผ่านตัวละคร มาร์ค คอร์ลีย์ ตำรวจแอลเอที่เพิ่งไปประกันตัว เทรนท์ ลูกชายสุดเฮี้ยวของเขาในวันที่อาจจะเป็นจุดจบของโลก หนังจะพาผู้ชมสู่ยานมหึมาของเหล่าเอเลี่ยน และพบว่าไม่เพียงแต่ลอสแอนเจลิสที่ถูกพวกมันจู่โจม แต่ทั้งโลกกำลังจะตกเป็นของพวกมัน
เราเริ่มภาคต่อนี้ในคืนเดียวกับที่เกิดเรื่องในภาคแรก คืนที่มนุษย์ถูกรุกราน เรื่องมันเดินไปคนละเส้นทางกันแต่มันมอบคำตอบที่เคยทิ้งไว้ในภาคแรก เฉลยทุกปริศนา และในเมื่อมันเป็นบ้านของเอเลี่ยนวายร้าย มันยังเปิดโอกาสให้แนะนำตัวละครใหม่ๆ เอเลี่ยนใหม่ๆแบบที่ผู้ชมยังไม่เคยเห็นมาก่อน
แฟรงค์ กริลโล ดูตื่นเต้นมากกับโปรเจกต์นี้ และดูเหมือนว่าเขาจะฝึกหนักมากเพื่อ เตรียมพร้อมที่จะรับบทนำในหนังเรื่องนี้
โอคอนเนล: ตอนเราเริ่มเขียนบท BEYOND SKYLINE เขาคิดภาพแฟรงค์ไว้เป็นตัวละครนำ ผมส่งจดหมายและบทหนังไปหาเขาว่า ผมชื่นชมผลงานและเป็นแฟนตัวยงของเขา จากนั้นเราก็ได้คุยกันผ่านโปรแกรม Skype และเริ่มพัฒนาโปรเจกต์ร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนไอเดียเจ๋งๆด้วยกันมากมาย
การทำงานร่วมกับ แฟรงค์ กิลโล่
โอคอนเนล: ใน Beyond skyline แฟรงค์ กิลโล่ รับบทมาร์ค คอร์ลีย์ เขาคือตัวละครที่หวนให้นึกถึงตัวละครจาก Die Hard หรือ Lethal Weapon เป็นหนุ่มใหญ่ที่ต้องรับมือกับปีศาจในจิตใจไปพร้อมกับอัดพวกเหล่าร้าย มาร์คเป็นชายที่ชีวิตแหลกเหลว เขาสูญเสียมามากเกินไป ดื่มมากเกินไป เห็นความเจ็บปวดมากเกินกว่าที่จะมีชีวิตเพื่อวันพรุ่งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมได้เห็นการแสดงเป็นธรรมชาติจนไร้ที่ติแบบนี้บนจอ
และเมื่อตอนที่ แฟรงค์ พบว่า อิโก้ และ ยายาน คู่หูจาก The Raid อยู่ในโปรเจกต์นี้ด้วย เขาดูตื่นเต้นมากๆ ถึงแม้ในบท แฟรงค์ และ อิโก้ จะต้องกัดกันเองก็เถอะ หลายคนถามผมว่าทำไมสองตัวละครนำถึงกัดกันเอง ผมตอบเขาว่าผมไม่อยากดูหนังที่ทุกอย่างราบรื่น มันเหมือนเป็นกฏของหนังแอคชั่นที่สองจ่าฝูงต้องลงไม้ลงมือกันเอง ก่อนจะเจอจุดที่ลงตัวและร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่รู้ว่ามันมีกฏนี้จริงๆหรือเปล่าแต่ผมเชื่อแบบนั้น และบอกเลยว่าทั้งสองทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งฉากแอคชั่น และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่คุณจะเห็นมันได้ในหนัง
1 ในสิ่งที่เราชอบมากใน SKYLINE คือเทคโนโลยีที่พวกเอเลียนใช้ยิงลำแสงสีฟ้า เพื่อดูดมนุษย์นับแสนลอยขึ้นฟ้า, ใน BEYOND SKYLINE มันจะเจ๋งขึ้นอีกไหม
โอคอนเนล: แน่นอน! ในภาคนี้เราจะเน้นไปที่การสำรวจภายในยานของเอเลี่ยนมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะได้เห็นว่าไอ้แสงสีฟ้านี่มันมีแหล่งกำเนิดมาจากไหนในยานมหึมาของพวกมัน ผมชอบปล่อยให้คนดูจินตนาการ และสมมุติทฤษฏีต่างๆขึ้นมาเอง สิ่งที่ต่อยอดจากเดิมมากที่สุดเลยคือพวกเอเลี่ยนนักบิน BEYOND SKYLINE จะเริ่มต้นที่ชีวิตประจำวันของพวกเรา ก่อนที่โลกจะถูกพวกเอเลี่ยนโจมตี และพาเหล่าผู้รอดชีวิตเผชิญหน้ากับการรุกรานเต็มรูปแบบ ที่ยกระดับการเล่าเรื่องจากแค่เมืองๆเดียวในหนังภาคแรก อุบัติเป็นสงครามระดับโลก!
ยกเครื่องใหม่เอเลี่ยนสายพันธุ์นรก
โอคอนเนล: ไอเดียตั้งต้นคือจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเอาสมองมนุษย์ไปยัดใส่ในเอเลี่ยนตัวหัวหน้า ผมต้องการกลับมาสร้างชุดเอเลี่ยนอีกครั้งเพราะนั่นคืองานแรกของบริษัทHydraulx ที่เคยถูกจ้างให้ดูแลชุดเอเลี่ยนในภาพยนตร์เรื่อง Alien vs Predator: Requiem ผมชอบให้ชุดเข้ากล้อง ปรัชญาการทำงานของผมคือพยายามไม่ใช้ซีจีถ้าเราสร้างฉากขึ้นมาได้เอเลี่ยนภาคที่แล้วเราออกแบบให้มันดูหลอนๆ แต่ภาคนี้ผมอยากเอามันกลับมาในสไตล์คล้ายๆ กับ Predator ที่ดูล่ำ ไหล่หนา มีกล้ามเนื้อ ผมอยากให้ตามันเบิกกว้างเวลาต้องการสื่อสารกับใครแต่หรี่จนแคบเวลามันโกรธ