“การบินไทย” จัดแคมเปญ “บินเป็นคู่ สู่เวียนนา เพียง 24,590 บาทต่อท่าน”
ชวนบินไปรับลมหนาวสัมผัสความโรแมนติก ในราคาสุดว้าว!
หลังจากการบินไทยได้ประกาศข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย กับการเปิดเส้นทางบินตรง ไป-กลับ กรุงเทพฯ–เวียนนา โดยเที่ยวบิน TG936/937 (4 เที่ยว/ สัปดาห์) หลังจากเปิดให้จองตั๋วโดยสารมาระยะหนึ่งแล้วนั้น มีผลการตอบรับที่ดีเกินคาด อาจเป็นเพราะมีราคาเริ่มต้น เพียงสองหมื่นเศษ โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 16 พ.ย.นี้ อีกทั้ง ‘เวียนนา’ (Vienna) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สะอาด รายล้อมด้วยธรรมชาติ และขุนเขา ที่สำคัญยังมีเสน่ห์ในฐานะเมืองสุดโรแมนติก เป็นฮันนีมูนเดสทิเนชั่นในฝันของคู่รักนับล้านจากทั่วโลก ล่าสุดการบินไทยจึงได้จัดแคมเปญสุดพิเศษ ‘บินเป็นคู่ สู่ เวียนนา เพียง 24,590 บาทต่อท่าน’ ขึ้น เพื่อมอบข้อเสนอพิเศษเอาใจทั้งคู่รักที่อยากบินไปรับลมหนาวเติมความหวาน ในบรรยากาศโรแมนติก หรือจะไปกับครอบครัว คู่พ่อลูก คู่แม่ลูก หรือคู่เพื่อน จับคู่ไปเป็นก๊วนชวนกันไปเที่ยว ช้อปฯ ชิลล์ ด้วยราคาสุดพิเศษโดยจองตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ก็จะได้รับสิทธิ์ราคาตั๋วเริ่มต้นเพียง 24,590 บาท/คน โดยเปิดให้จองแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. 60 เพียงคลิก https://goo.gl/4Epywr แล้วบินในช่วง 16-30 พ.ย. 60 และขอเรียนว่าแคมเปญนี้ เรามีที่นั่งจำนวนจำกัด “เวียนนา” เป็นเมืองท่องเที่ยวอันโดดเด่นของยุโรป ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้น่าไปเยือนอย่างมาก เพราะจะได้มาสัมผัสกับความเพลิดเพลิน ความงดงาม และความโรแมนติกของเมืองเวียนนา ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงที่มีอยู่มากมาย ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2009 จากผลการสำรวจของ Mercer สถาบันที่ปรึกษาการบริหารที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และยังนับเป็นเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกแห่งปี 2014 อีกด้วย การเดินทางไปเที่ยวออสเตรีย สามารถไปได้ตลอดปี ในช่วงฤดูที่แตกต่าง โดยฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงเดือน ธ.ค. – มี.ค. ซึ่งหนาวจัดในระดับที่คนเมืองร้อนไม่ชอบนัก และอากาศจะเย็นสบายหลัง มี.ค. เป็นต้นไป แต่จะร้อนมากไม่ต่างจาก บ้านเราช่วงเดือน ก.ค. และ ส.ค. อุณหภูมิเฉลี่ย ตลอดปีอยู่ระหว่าง 6.7-8.9 องศาเซลเซียส สำหรับเวลาของเวียนนา ฤดูร้อน จะช้ากว่าเวลาประเทศไทย 5 ชั่วโมง ส่วนฤดูหนาว ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 6 ชั่วโมง เหตุนี้เอง การเดินทางไปเยือนเวียนนาในช่วงการเดินทางไปเวียนนาช่วงเดือนพฤศจิกายน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนเมืองร้อนจะไปท่องเที่ยว สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาวของที่นั่น ซึ่งไม่หนาวจัด โดยมีสถานที่หลายแห่งน่าสนใจ ไม่ควรพลาดเที่ยวชมดังนี้ เทือกเขาแอลป์ (Alps) เป็นเขตที่ราบสูงบนภูเขา ที่ สูงที่สุดของยุโรป มีพื้นที่กว้างกว่า 56 ตารางกิโลเมตร มีแสงพระอาทิตย์ 300 วัน/ปี มีดอกไม้นานาพันธุ์กว่า 790 ชนิด และ UNESCO ได้จัดให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ที่มีที่ราบบนภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป Europe’s largest mountain plateau เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมที่สุดในเทือกเขาแอลป์สำหรับนักเล่นกีฬาสกีในฤดูหนาว แคว้นทิโรลดินแดนแห่งขุนเขาที่มีมนต์สเน่ห์น่าหลงใหล คิทช์บูเฮล เซนต์แอนตัน เลค และเซเฟลด์ สกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงและงดงามที่สุดในออสเตรียนแอลป์ พระราชวังมรดกโลก-พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) เป็นพระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 โดยพระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในกรุงปารีส และอีกแห่ง พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) เป็นพระราชวังฤดูหนาว แต่เดิมวังแห่งนี้เป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิในราชวงศ์ฮับส์บวร์กตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย สืบเนื่องยาวนานกว่า 600 ปี ปัจจุบัน กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ นอกจากพระราชวังแล้ว เวียนนายังขึ้นชื่อเรื่องพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลกหลายแห่ง เป็นต้นว่า พิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum หรือ Museum of Art History) เป็นพิพิธภัณฑ์คู่ที่หันหน้าเข้าหากันระหว่างจัตุรัสมาเรียเทเรซา พิพิธภัณฑ์ทั้งสองตั้งอยู่ในกรุงเวียนนาในประเทศออสเตรีย ที่ก่อตั้งระหว่างปี ค.ศ. 1872 ถึง ค.ศ. 1891โดยทำพิธีเปิดโดยสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของโลกในการสะสมงานวิจิตรศิลป์และมัณฑนศิลป์ อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดแวะชมคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่พระราชวังเบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 18 สถาปัตยกรรมแบบโรโคโค ในอดีตพระราชวังสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของเจ้าชายยูจีน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานศิลปะที่ดีที่สุดของกรุงเวียนนา ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคปัจจุบัน เช่น กุสตาฟ คลิมท์ (Klimt), Monet, Kokoschka, Renoir และ Schiele โดยเฉพาะรูป The Kiss ของ Klimt ที่ถือเป็น สัญลักษณ์ของศิลปะของเวียนนา (เป็นภาพในของขายที่ระลึกเต็มไปหมด) ก็เก็บในที่แห่งนี้ สถานที่ต่อมา มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen) อันศักดิ์สิทธิ์ และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1137 เพื่ออุทิศแด่นักบุญสเตเฟน สร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโกธิคที่อ่อนช้อยงดงามมาก ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่ ทรงสูง มียอดปลายแหลมหลายยอด ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์คือหอคอยทางทิศใต้ที่มีความสูงถึง 136.7 เมตร ใช้เวลาก่อสร้าง 75 ปี บนหอคอยนี้ จะได้เห็นทิวทัศน์โดยรอบของเมืองที่แสนจะสวยงาม สุสานกลาง (Zentralfriedhof) กรุงเวียนนา สร้างขึ้นในปี 1874 เป็นหนึ่งในสุสานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป มีผู้คนนับล้านฝังอยู่ภายใต้พื้นที่ 495 เอเคอร์ (200 เฮกตาร์) ของสุสาน โดยมีพื้นที่สำหรับใช้เป็นหลุมฝังศพของบุคคลพิเศษ เช่น บีโธเฟน, บราห์ม, ชูเบิร์ต, สโทรส พร้อมป้ายจารึกอย่างสมเกียรติ ที่คีตกวีสำคัญเหล่านี้ทำให้ “เมืองแห่งเสียงเพลง” อย่างเวียนนา เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โรงละคร โรงโอเปร่าแห่ง กรุงเวียนนา (Vienna State Opera) หรือรู้จักกันในชื่อท้องถิ่นว่า “วีเนอร์ สตาทโซเพอร์” ถือเป็นสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่แห่งแรก ที่สร้างเสร็จในใจกลางของริงชตราสตั้งแต่ปี 1869 หลังจากได้รับความเสียหายระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โรงโอเปร่าแห่งนี้ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างสุดความสามารถในปี 1950 เพื่อให้กลับไปมีความสวยงามดังเดิม ปัจจุบัน มีการแสดงต่างๆ จัดขึ้นเกือบทุกวัน ประกอบด้วยทีมงานมากกว่า 50 ทีมงานต่อปี ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อีกแห่งที่ไม่อยากให้พลาดไปชิลล์ ช้อปฯ ชิม คือ ตลาดแนชมาร์ก (Naschmarkt) ตลาดที่เก่าแก่ ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเวียนนา ชาวเมืองถือว่าตลาดแนชมาร์กแห่งนี้เป็นเสมือน “คลังอาหารแห่งกรุงเวียนนา” เพราะรวบรวมทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาหารไว้แบบจัดเต็ม มีให้เลือกตั้งแต่ของขบเคี้ยวง่ายๆ ไปจนถึงอาหารสำเร็จรูปชั้นยอด ที่เล่ามานี้ เป็นแค่น้ำจิ้ม แต่เชื่อว่าหลายคนหัวใจคงโบยบินไปถึงเวียนนากันหมดแล้ว การบินไทย พร้อมให้บริการเส้นทางใหม่ บินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เวียนนา ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ -เส้นทางบิน กรุงเทพฯ – เวียนนา : จันทร์, พฤหัสบดี, เสาร์, อาทิตย์ โดยเที่ยวบิน TG 936 เวลาออกเดินทาง 01.30 น. เวลาถึงที่หมาย 07.00 น. -เส้นทางบิน เวียนนา – กรุงเทพฯ : จันทร์, พฤหัสบดี, เสาร์, อาทิตย์ โดยเที่ยวบิน TG 937 เวลาออกเดินทาง 13.30 น. เวลาถึงที่หมาย 05.20 น. (ของวันรุ่งขึ้น) ทั้งนี้ สามารถสำรองที่นั่ง และตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/4Epywr