MSN on September 28, 2017, 02:59:06 PM


ครีเอทีฟเวนเจอร์ ตั้งกองทุนบุกซิลิคอนวัลเลย์

ครีเอทีฟเวนจอร์ (CREATIVE VENTURES) กองทุนร่วมลงทุนที่จัดตั้งขึ้นในสหรัฐฯโดยคนไทย มีเป้าหมายลงทุนในสตาร์ทอัพ ที่ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ในซิลิคอนวัลเลย์ เดินสายโรดโชว์เปิดประสบการณ์การลงทุน ให้นักลงทุนที่มองการณ์ไกล มีวิสัยทัศน์และเห็นโอกาสการลงทุนในไทยและสิงคโปร์ พร้อมเปิดตัวกองทุนใหม่มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นการลงทุน ไปที่ สตาร์ทอัพในภาคอุตสาหกรรม เน้นเทคโนโลยีดูแลประชากรสูงวัย แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และลดภาวะโลกร้อน



กรุงเทพฯ --28 ก.ย. – นายแชมป์ สุทธิพงษ์ชัย ผู้จัดการหุ้นส่วน บริษัท ครีเอทีฟเวนจอร์ จำกัด (Creative Ventures)  ซึ่งเป็นธุรกิจกองทุนร่วมลงทุน (Venture Capitalist : VC) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวการลงทุนกองทุนร่วมลงทุนกองที่สอง มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 1,650 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุน ในธุรกิจสตาร์ทอัพ  ที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley) สหรัฐอเมริกา โดยเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่จะเปลี่ยนโลก (Deep technology) เพื่อช่วยให้มนุษย์มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และแก้ไขสิ่งที่จะเป็นแนวโน้มปัญหาสำคัญของโลก 

ธุรกิจที่กองทุน สนใจเข้าลงทุนนั้น จะต้องอยู่ในเมกกะเทรนด์ (Mega Trend)หรือแนวโน้มใหญ่ของโลกอนาคตใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตประชากรผู้สูงวัย , ธุรกิจเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และธุรกิจที่ดูแลหรือแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อน (Climate change) ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับภาคการผลิตอุตสาหกรรม การเกษตร และการบริการดูแลสุขภาพ 

 “ใน ซิลิคอนวัลเลย์ จะเป็นศูนย์รวมของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI- Artificial Intelligence  หุ่นยนต์,คอมพิวเตอร์ วิชั่น ,เทคโนโลยีเซนเซอร์ขั้นสูง และชีววิทยาสังเคราะห์ เพื่อตอบสนองการดำเนินธุรกิจในสาขาต่างๆ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ต้องการเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจและตลาด เทคโนโลยีขั้นสูงที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนโลกในช่วงต่อจากนี้

ด้วยเหตุนี้ ครีเอทีฟเวนจอร์ จึงตั้งกองทุนเพื่อเข้าร่วมลงทุนใน บริษัทสตาร์ทอัพ ในสหรัฐอเมริกา ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและยังไม่เคยเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังได้จัดหาบริการเทคโนโลยีเหล่านี้ ให้แก่ ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้มีโอกาสและสิทธิพิเศษ ในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุดด้วย นับเป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง ซิลิคอนวัลเลย์ กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี” นายแชมป์ กล่าว

นายแชมป์ ระบุด้วยว่า จุดเด่นของกองทุน คือการที่มีพาร์เนอร์ผู้บริหารกองทุนที่มีความสามารถ เชี่ยวชาญทั้งการเสาะหาธุรกิจและเจรจาเข้าร่วมทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่น่าสนใจและมีอนาคต มีความสามารถในการคำนวณผลตอบแทน วิธีการตรวจสอบธุรกิจ และการเพิ่มความสามารถของสตาร์ทอัพ โดยนอกจากการร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพแล้ว ยังเข้าไปร่วมช่วยพัฒนาธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพด้วย และพร้อมที่จะใช้ความรู้เพื่อแก้ปัญหาเชิงลึกซึ่งถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย

ด้านนาย Alastair Trueger  หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งครีเอทีฟเวนจอร์ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของกองทุนร่วมลงทุน คือ นักลงทุนที่มีความมั่งคั่ง เห็นโอกาสและมีความเข้าใจในเทรนการลงทุนในสตาร์ทอัพที่จะเปลี่ยนแปลงโลก โดยนักลงทุนไม่เพียงแต่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปูทางไปสู่การลงทุนในซิลิคอนวัลเลย์ อีกด้วย  โดยที่ผ่านมา ครีเอทีฟเวนจอร์ ประสบความสำเร็จในการจัดหารูปแบบที่ดีที่สุด เพื่อใช้ในการวางระบบให้แก่ สตาร์ทอัพรวมทั้งการเข้าไปช่วยในการวิจัยและพัฒนา (R & D ) ในเชิงพาณิชย์

“ความได้เปรียบของ ครีเอทีฟเวนจอร์ คือ การที่หุ้นส่วนและ ผู้ก่อตั้งกองทุนมีประสบการณ์ผ่านการทำงานมาทั้งฝั่งการเป็นสตาร์ทอัพ และฝั่งเจ้าของธุรกิจ ดังนั้น นอกจากการเข้าร่วมลงทุนแล้วเรายังช่วยเหลือด้านการขยายตลาดของสตาร์ทอัพ เพื่อทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ดี และให้ผลตอบแทนได้ในระยะยาว” Alastair Trueger  ระบุ สำหรับกองทุนร่วมลงทุนกอง 2 ที่ตั้งขึ้นนี้ ได้มีนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์และเห็นโอกาสในการลงทุน ที่ตอบรับการเข้าลงทุนแล้ว คือ คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย

นอกจากนี้ยังได้รับการตอบรับจาก คุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทมิลล์คอน สตีล จำกัด(มหาชน)หรือ MILL ผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กแปรรูปในประเทศ ซึ่งได้เข้าไปลงทุนใน Builk  บริษัทสตาร์ทอัพ ที่มีนวัตกรรมเกี่ยวกับการก่อสร้างชั้นนำของไทย  สำหรับการเข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมลงทุนของ ครีเอทีฟเวนเจอร์ ครั้งนี้ เป็นการลงทุนทั้งในส่วนตัวและในส่วนของบริษัท  โดยมีเป้าหมายในการกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นการลงทุนที่ยังไม่มีในภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ครีเอทีฟเวนเจอร์ ประสบความสำเร็จในการเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์ อาทิ  บริษัท Dishcraft  ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่สร้างนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ปฎิบัติงานในห้องครัวที่สมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในธุรกิจบริการด้านโรงแรม ภัตตาคาร และธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นต์ขนาดใหญ่ จนได้รับการยอมรับจากผู้นำในธุรกิจนี้ 

นอกจากนี้ ยังได้เข้าลงทุนใน ALICE Technologies ซึ่งเป็นการสร้างระบบ AI ซอฟต์แวร์  ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการการก่อสร้างในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 4% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดและลดเวลาในการก่อสร้างลง 14% ทำให้ประหยัดทั้งในส่วนของ เจ้าของโครงการหรือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  และ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ในการนี้ ครีเอทีฟเวนเจอร์  ได้นำเทคโนโลยีของ ALICE มาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ร่วมมือกับบริษัทอนันดาฯซึ่งเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยอีกด้วย
 
เกี่ยวกับ Creative Ventures
Creative Ventures เป็นธุรกิจร่วมลงทุน ที่ก่อตั้งขึ้นในปีพ. ศ.2559  ได้เข้าลงทุนใน 10 บริษัทสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกา โดยทีมงานได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านการลงทุนการเงิน และประสบการณ์ ด้านนวัตกรรมขององค์กรและการสร้างธุรกิจ startups ในสหรัฐฯและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  จากจุดแข็งทั้งหมดที่มี ทำให้ทีมงานของ Creative Ventures พร้อมดำเนินการตามรูปแบบการร่วมลงทุนทั่วโลก โดยทีมงานที่มีความมุ่งมั่นเปิดกว้างโปร่งใส เพื่อส่งมอบผลตอบแทนให้กับคู่ค้า

สำหรับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ Creative Ventures มุ่งเน้นที่จะเข้าไปลงทุน ประกอบด้วย

•ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ –
  หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย การมีจำนวนประชากรผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและคุ้มค่า มากกว่าความต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล

•อุตสาหกรรม – อุตสาหกรรม เช่น การก่อสร้างและการผลิตที่กำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ในขณะที่มีความต้องการประสิทธิภาพทางการผลิตเพิ่มขึ้น   

•การเกษตร – ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กับ ความต้องการที่เพิ่มขึ้น จากประชากรโลกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น หมายความว่า โลกจะต้องการอาหารเพิ่มขึ้นอีก ประมาณ 35% และน้ำเพิ่มขึ้น 40% ในปี 2583 เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
« Last Edit: September 28, 2017, 03:03:13 PM by MSN »

MSN on September 28, 2017, 03:00:16 PM


VISIONARY INVESTORS JOIN CREATIVE VENTURE’S $50M FUND II INVESTING IN SILICON VALLEY DEEP TECHNOLOGIES

Bangkok based firms will invest in a new fund targeting deep technology startups in the industrial, agricultural, and healthcare sectors.


Bangkok, Thailand, 28th Sept 2017 - Venture Capital firm Creative Ventures announced today the launch of its second fund for USD $50 million. The Silicon Valley based VC will use the fund to invest in deep technology startups that address major global issues, focusing on aging populations, labor shortages, and climate change.

Creative Ventures believes that solving real world problems with deep technology will deliver superior financial returns. The firm is currently focused on problems such as:

•   Healthcare - With most countries facing a shift in population distribution towards older ages, the demand for quality and cost-effective healthcare will outstrip the ability to provide healthcare solutions;
•   Industrial - Industries such as construction and manufacturing are facing significant labor shortages, yet need to increase production efficiency;
•   Agricultural - The combination of reduction in crop yield due to climate change and increased demand from a growing world population means the world will need approximately 35% more food and 40% more water in 2040 compared to today.



Visionary investors such as Chanond Ruangkritya and Sittichai Leeswadtrakul from Millcon lead the pack in gaining real access to financial returns and strategic technologies from Silicon Valley. Mr. Ruangkritya is known for taking Ananda PCL to the top of Thailand’s real estate sector and launching the first Real Estate Tech Firm with Urban Tech. Mr. Leeswadtrakul is renowned for transforming the local steel industry and making a big move to invest in Thailand’s premier construction startup Builk. Joining Creative Venture’s investors are individuals and firms keen on diversification and accessing deep technology not available in the region.

Deep technology innovations are defined as disruptive solutions built around unique, protected or hard-to-reproduce technological or scientific advances. Today, we see applications of deep technology in fields including Artificial Intelligence (AI), robotics, computer vision, advanced sensing, energy, and synthetic biology. Companies today are under tremendous pressure to harness today’s wealth of technology in order to create value across sectors and markets. This is why Creative Ventures invests in US based startups that have technology that is not readily available in Southeast Asia and provides companies in Southeast Asia with exclusive access to the latest technologies, building a bridge between Silicon Valley and Southeast Asia. “We work with unique founders. Founders that have developed and built their careers in specific industries and are ready to apply their knowledge to solve deep and challenging problems,” says Champ Suthipongchai, Managing Partner of Creative Ventures.

Investors in the fund not only enjoy financial returns, but also get access to cutting edge technologies and leads on opportunities in Silicon Valley. Creative Ventures has effectively identified an optimal model to use in setting up meaningful partnerships with deep tech startups around R&D or commercialization, depending on the LP or Corporation’s operational and strategic interests and on the startup’s maturity.

“Our unfair advantage is a result of our partnerships with both founders of startups and corporates alike," says Partner Alastair Trueger, a second-generation venture capitalist.
 
Among Creative Venture’s investments is Dishcraft, a stealth kitchen robotics startup. Dishcraft is in the midst of a promising pilot with a well known brand. Another investment is in ALICE Technologies, a company building AI software that optimizes construction scheduling. This saves up to 4% of the cost and reduces construction time by 14%, leading to considerable savings for both developers and construction companies. Creative Ventures has brought ALICE’s technology to Southeast Asia and forged a partnership with Ananda, the leading Thai developer.

About Creative Ventures
Creative Ventures, established in 2016, has invested in 10 US-based startups to date. The team brings a wealth of investment expertise, technical knowledge, corporate innovation experience, and a track record of building startups in the US and Southeast Asia. Owing to the sum of their individual strengths, the team is well poised to execute a global venture investment model. They are committed to openness and transparency, and the delivery of growth and returns for their limited partners.
« Last Edit: September 28, 2017, 03:03:25 PM by MSN »

MSN on September 28, 2017, 03:01:01 PM


ประวัติ

นายแชมป์ สุทธิพงษ์ชัย
Managing Partner Creative Ventures


แชมป์เป็นคนไทยคนแรกที่เป็นผู้ก่อตั้ง Venture Capitalist (VC) ในซิลิคอนวัลเลย์ หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกามามากกว่าสิบปี โดยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Creative Ventures ซึ่งเป็นกองทุน Deep Tech ระดับโลกที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) , หุ่นยนต์ (Robotics) และเทคโนโลยีทางชีวภาพ (Biotechnology) อีกทั้งยังเป็นผู้เปิดประตูให้เทคโนโลยีล้ำยุคเหล่านี้ได้สามารถเข้าถึงธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้แชมป์ยังเคยได้มีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมระดับองค์กรระหว่างที่ได้ทำงานกับหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ใน Fortune 500 และ Startups ต่างๆ มากมายตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานในซิลิคอนวัลเลย์ รวมถึงการดำรงตำแหน่ง Chief Strategy Officer ของ SHARP ในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจในครอบครัว

การศึกษา
MBA จาก University of California, Berkeley-Hass School of Business,
MSE ด้านวิศวกรรมอุตสหการ และBSE ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of Michigan, Ann Arbor