MSN on September 11, 2017, 09:43:39 PM




“สิงห์ เอสเตท” ประกาศตัวเป็น “พร็อพเพอร์ตี้เดเวลลอบเมนต์แอนด์ อินเวสต์เมนต์โฮลดิ้งคัมปานี” ตั้งเป้าขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาทภายในปี 2563
 

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) ... Mr. Naris Cheyklin, Chief Executive Officer


นายเมธี วินิชบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) Mr. Methee Vinichbutr, Chief Financial Officer, Singha Est


กรุงเทพฯ (11 กันยายน 2560) – สิงห์ เอสเตทประกาศเดินหน้าสู่การเป็น“พร็อพเพอร์ตี้ เดเวลลอบเมนต์แอนด์ อินเวสต์เมนต์ โฮลดิ้งคัมปานี” (Property Development and Investment Holding Company)”ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า5 หมื่นล้านบาทภายในปี 2563 จากการพัฒนาธุรกิจในแต่ละเซกเมนต์ (Segment) ทั้งธุรกิจที่พักอาศัย โรงแรม คอมเมอร์เชียลและธุรกิจอื่นๆ เผยนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศเชื่อมั่นร่วมลงทุนกว่า 7 พันล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีแรกรายได้รวมโตเพิ่มขึ้น 81% ส่วนไตรมาสที่เหลือปีนี้เตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 โครงการในประเทศ และ 1 เมกะโปรเจกต์ต่างประเทศย้ำวิสัยทัศน์ทางธุรกิจด้วยการสร้างความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)หรือ “S” กล่าวถึงแผนดำเนินธุรกิจว่า บริษัทฯมีนโยบายที่จะดำเนินธุรกิจในแบบ “พร็อพเพอร์ตี้ เดเวล ลอบเมนต์แอนด์ อินเวสต์เมนต์ โฮลดิ้งคัมปานี” (Property Development and Investment Holding Company)”เน้นการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ที่เข้าไปลงทุนให้มีความแข็งแกร่งและมีความเติบโตต่อเนื่องเพื่อให้เกิดโอกาสและผลดีในทุกธุรกิจของบริษัทฯ สามารถที่จะสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการพัฒนาธุรกิจแบบบูรณาการเน้นการสร้างซินเนอร์จี (Synergy) โดยแผนการลงทุนของบริษัทฯ จะสอดคล้องกับภาพรวมตลาดและเทรนด์ของธุรกิจในปัจจุบันซึ่งการลงทุนพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ มีหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยตั้งเป้าขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆมูลค่ากว่า5หมื่นล้านบาทภายในปี 2563 ซึ่งจะประกอบด้วยธุรกิจที่พักอาศัย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคอมเมอร์เชียล (ธุรกิจค้าปลีก และอาคารสำนักงาน)และธุรกิจใหม่ๆที่สร้างโอกาสในอนาคต

สิงห์ เอสเตทมีความพร้อมด้านการเงินจากการเพิ่มทุนและการออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 7,720 ล้านบาท ส่งผลให้มีฟรีโฟลต (free-float) เพิ่มขึ้นจาก 24% เป็น 38% โดยมีสถาบันชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจลงทุน โดยสิงห์ เอสเตท ได้เสนอขายหุ้นใหม่แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) มูลค่า 1,664 ล้านบาท ให้กับบลจ.บัวหลวง บลจ.วรรณ และกองทุนแฟรงกลินเทมเพิลตัน (Frankling Templeton) ซึ่งเป็นกองทุนที่ติดอันดับ Top 5 ของโลกและการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่า 6,056 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติและจับจองเต็มมูลค่า
   
นายนริศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลประกอบการของสิงห์เอสเตทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 2,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2559 ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 1,229 ล้านบาท และใน6 เดือนแรกปี 2560 มีกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมราคาโดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงาน (EBITDA) 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559ซึ่งอยู่ที่ 263 ล้านบาท

ส่วนครึ่งหลังปี 2560จะมีการพัฒนาโครงการใหม่อีก4 โครงการ เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี ที่พัฒนาโดยสิงห์เอสเตท2 โครงการ คือดิเอสแอท สุขุมวิท 36(THE ESSE at Sukhumvit 36) และสันติบุรี เดอะเรสซิเดนเซส(SANTIBURI THE RESIDENCES) และโครงการที่พัฒนาโดย บริษัท เนอวานา ไดอิจำกัด (มหาชน)(NVD)2 โครงการได้แก่โครงการคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรีริมแม่นำเจ้าพระยา บันยันทรี เรสซิเดนเซส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Banyan Tree Residences Riverside Bangkok) และโครงการทาวน์โฮมเนอวานา ดีฟายน์ (Nirvana Define) กรุงเทพกรีฑาซึ่งจะเน้นการทำตลาดแบบ Living Solution ให้กับกลุ่มไฮเอนด์และเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง-บน
   
นอกจากนี้ยังมีโครงการเมกะโปรเจกต์Emboodhoo Lagoon ที่ประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นผู้พัฒนาโครงการในระดับเวิลด์คลาส ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 11,000 ล้านบาท โดยพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูสในรูปแบบใหม่เจาะตลาดอัพสเกลแฟมิลี่ (Upscale Family) ที่ได้รับความร่วมมือจากเครือฮาร์ดร็อคเข้ามาร่วมเป็น Strategic Partner รายแรกที่จะมาร่วมพัฒนาธีมโฮเทลแห่งแรกในโครงการ

“การดำเนินงานทั้ง 5โครงการดังกล่าวเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ตั้งเป้าสร้างการเติบโตด้วยโครงการพัฒนาธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ เพื่อวางโครงสร้างการเติบโตภายใต้แนวทางการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน”นายนริศ กล่าวในที่สุด







เกี่ยวกับสิงห์ เอสเตท
บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจและการลงทุนผ่านการซื้อที่ดินในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพภายใต้แนวคิด "Best in Class" ควบคู่ไปกับการลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจหรือทรัพย์สินที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมีเป้าหมายคือ การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ด้วยความประณีต เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่ครบถ้วนทั้งการพักอาศัย พักผ่อน ทำงาน และชอปปิ้ง รวมถึงสร้างการเติบโต และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สิงห์เอสเตทมีสินทรัพย์ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อย และกิจการร่วมค้า ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ ธุรกิจอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย
« Last Edit: September 11, 2017, 09:52:16 PM by MSN »

MSN on September 11, 2017, 09:45:10 PM




Singha Estate Unveils Mega-Plans for “Property Development and Investment Holding Company” Investing a Whopping 50 Billion Baht by 2020


นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) ... Mr. Naris Cheyklin, Chief Executive Officer


นายเมธี วินิชบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) Mr. Methee Vinichbutr, Chief Financial Officer, Singha Est


Bangkok (11 September 2017) – Singha Estate unveils colossal plans as a forefront “property development and investment holding company”, with an ambitious investment exceeding 50 billion baht by 2020.

According to Mr. Naris Cheyklin, Chief Executive Officer, Singha Estate Plc, the company has continued to gain domestic and international investors’confidence in the half-year growth of 81% in its YOY revenues. “During the last quarter of this year, we are taking earnest steps to launch four property projects in Thailand and one mega-project overseas, focusing on long term sustainable business growth,” revealed the CEO.

“The company is spearheading the next ambitious phase of its property businesses to embrace residential, hospitality, commercial, retail, and other new business sectors, aiming to yield sustainable growth and coordinated benefits to complement the value of synergy for the group.”

“The position as property development and investment holding company aspires to strengthening business operation performance , and expanding investments both in Thailand and overseas. We place great emphasis on business synergy and investment plans, the goal being to generate sustainable growth and capture business opportunities, while augmenting portfolio risk management,” highlighted Mr. Naris.

“The financial planning and acumen in business has attracted funds from both Thai and foreign individuals & financial institutions for a capital investment over 7.72 billion baht. The company’s operating results during the first quarter of 2017 shows an immense growth of 81% in its year-over-year revenues,” he added.

"Singha Estate’s business strategy aligns with the thriving residential, hospitality, office and retail segments in strategic locations. It essentially supports our vision to focus on business development integration and its synergistic effect, said the CEO. “As a premier lifestyle developer, we position our brand toward crafting idyllic settings for people to live, play, work, and shop, while tailoring our corporate strategies to the prevailing trend, and seamlessly delivering sustainable growth to all stakeholders.”

Mr. Naris further revealed that Singha Estate is focusing on five prime strategic locations for upcoming property development undertakings of upscale-luxury projects in Bangkok and overseas during the last quarter of this year.

“Our four domestic properties include luxurious residential projects – the ESSE @ Sukhumvit 36 and Santiburi The Residences. Furthermore, developed by Nivana-DAII Plc, the Super luxurious riverside condominium, Banyan Tree Residences and modern townhome project,Nirvana Define, located at KrungthepKreetha, are to highlight the key aspects of living solutions for upper-middle and high-end markets,” he disclosed.

Aiming to become a world-class property developer, Singha Estate is investing in a rich portfolio of premium mixed-use property development in The Maldives, featuring the Emboodhoo Lagoon project, a first ever integrated recreation destination, to capture growing demand of the upscale family market segment. “The outlay totals 11 billion baht encompassing total 9 island with strategic partnership with global hospitality and retail brands, which each of them, will bring unique offerings to the complete vacation fun-filled experiences.The first island developed under cooperation agreement with Hard Rock International Hotel Group, which will be the new DNA concept themed hotel ,” disclosed the CEO.

Mr. Naris said: “The five upscale property projects reiterate our corporate vision, business direction, and key strategic drivers to achieve sustainable growth.”

The company is made ready for its mega development projects with optimal corporate finance sourcing by raising capital shares and issuing convertible bonds valued at 7.72 billion baht, leading to an increase of public float from 24% to 38%. “We are proud to have earned the trust from the leading institutional domestic and overseas investors.”

Singha Estate’s new equity shares are being offered for private placement value 1,664 MB via such investment management leaders as BBL Asset Management, One Asset Management, and the world’s top-five investment firm, Franklin Templeton Investments. “Our convertible bonds valued at 6.056 billion baht have also received enthusiastic response from overseas institutional investors,” stated Mr. Naris.

Meanwhile, Singha Estate performance records a sales & service revenue at 2.23 billion baht, an 81% increase as compared to the corresponding YOY period at 1.229 billion baht. The earnings before interest, tax, depreciation, and amortization (EBITDA) during the first half of 2017 increased by 76% to 465 million baht, rising from 263 million baht, basis YOY comparison, according to Mr. Naris.

“The company is striding forward to be a local and international property development and investment holding company. Embracing key business units—hospitality, commercial and residential—which represent complementary projects. Fortifying the corporate base for continuous and sustainable business growth is therefore critical and represents a key corporate strategy for our competency building to tackle long-term investment challenges for business growth,” concluded Mr. Naris.







ABOUT SINGHA ESTATE COMPANY LIMITED
Singha Estate PLC. is a leading Thai real estate developer focusing on business expansion and investment via land purchases in high-potential locations and quality project development under the “Best in Class” concept - in tandem with investment, joint investment, and M&As of businesses or assets with high growth potential. The goal is to achieve its vision of becoming a premier lifestyle developer by crafting quality settings for people to live, play, work, and shop. Recent investments and business expansions have resulted in Singha Estate today commanding assets under the operation of the company itself, subsidiaries, and joint-venture companies in and outside of Thailand in three core businesses including Commercial, Residential and Hotel.
« Last Edit: September 11, 2017, 09:52:41 PM by MSN »