“ กอบกาญจน์” เน้นแผนท่องเที่ยวมรดกโลกด้านวัฒนธรรมเหนือตอนล่าง 4 จังหวัด ดึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น กระตุ้นการจับจ่าย ผ่านการท่องเที่ยวโดยชุมชน
นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กลยุทธ์เชิงนโยบายของการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย คือ เน้นเรื่องให้นักท่องเที่ยวเกิดการกระจายตัว โดย จากการลงพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกด้านวัฒนธรรม (สุโขทัย,พิษณุโลก ,กำแพงเพชร และตาก) ได้พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจากฝรั่งเศส และเยอรมัน เป็นชาวต่างชาติที่มาเที่ยวมากที่สุดส่วนพฤติกรรมนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจ เข้าชมเส้นทางอุทยานประวัติศาสตร์ เชื่อมโยง 3 เมืองมรดกโลก สุโขทัย,กำแพงเพชร และศรีสัชนาลัยจากสถิติพบว่ารายได้ของ 4 จังหวัดในปี 2559 รวมเป็นเงิน 18,114 ล้านบาท และในครึ่งปีแรก (ม.ค.– มิ.ย. 60)สร้างรายได้ 9,675 ล้านบาท เติบโต 5.04 เมื่อเทียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในสิ้นปีนี้ หากสามารทำให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนนานขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวมรดกวัฒนธรรม และชุมชนต่างๆ
ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยให้เน้นการส่งเสริมอัตลักษณ์ และวิถีของท้องถิ่น รวมถึงเน้นการกระจายรายได้จากเมืองหลัก สู่เมืองรองและชุมชน อาศัยการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านการท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ เช่น medical&wellness, Sport Tourism และ Gastronomy ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน และคณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้ปี 2561 เป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยว ประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกฯ โดยคณะทำงาน (อพท.4) ได้เสนอ 7 เส้นทาง 100 แหล่งท่องเที่ยว ภายในเขต 4 จังหวัด (สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร และตาก) ซึ่งเน้นการท่องเที่ยวตามแนวทาง "มรดกโลก กินได้" และ tourism for all พร้อมปฏิทินการท่องเที่ยวภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกฯ โดยจะมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเรื่องขอรับการสนับสนุนจาก คณะกรรมการฯ 3 ประเด็น ได้แก่
1. การนำรถข้ามแดนเพื่อการท่องเที่ยวจากชายแดนเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน 4 จังหวัดของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกฯ
2.การจัดการความปลอดภัยในจุดเสี่ยงภัย โดยจัดตั้งศูนย์แพทย์กู้ชีพในอุทยาน
3.การแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้ อพท. สามารถปฏิบัติงานได้ครอบคลุมพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 8 เขต
“ขอให้มีการวางรากฐานการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ด้วยการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยการนำอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นเข้ามาใช้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรองและชุมชน” นางกอบกาญจน์ กล่าว