happy on August 26, 2017, 08:53:13 PM

ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส

ร่วมกับเพอร์เฟ็กต์ เวิลด์ พิคเจอร์ส

ภูมิใจเสนอ

ผลงานสร้างโดยวิล แพ็คเกอร์ โปรดักชันส์

ภาพยนตร์โดยมัลคอล์ม ดี. ลี

Girls Trip (เกิร์ลส์ ทริป)

เรจินา ฮอล
ทิฟฟานี แฮดดิช
ลาเรนซ์ เทท
ไมค์ โคลเตอร์
เคท วอลช์
ร่วมด้วย
จาดา พิงค์เก็ตต์ สมิธ
และควีน ลาติฟาห์

ผู้ควบคุมงานสร้าง
เพรสตัน โฮล์มส์
เจมส์ โลเปซ

อำนวยการสร้างโดย
วิล แพ็คเกอร์, พี.จี.เอ.
มัลคอล์ม ดี. ลี, พี.จี.เอ.

เรื่องราวโดย
เอริกา ริวิโนจา และเคนยา แบร์ริส ร่วมด้วยเทรซี โอลิเวอร์

บทภาพยนตร์โดย
เคนยา แบร์ริส และเทรซี โอลิเวอร์

กำกับโดยมัลคอล์ม ดี. ลี

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=RsAAKceYNfc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=RsAAKceYNfc</a>

ชื่อภาพยนตร์:      GRILS TRIP
วันที่เข้าฉาย:      7 กันยายน 2560
จัดจำหน่าย:      บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด


Girls Trip คอมมิดี้ใหม่กิ๊กจากผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้าง มัลคอล์ม ดี. ลี (แฟรนไชส์  The Best Man, Barbershop: The Next Cut) และผู้อำนวยการสร้างวิล แพ็คเกอร์ (แฟรนไชส์ (Ride Along และ Think Like a Man) เล่าเรื่องของสี่แก๊งชะนี ไรอัน, ดีนา, ลิซาและซาชา ระหว่างที่พวกเธอเดินทางไปร่วมงานเทศกาลเอสเซนส์ที่นิวออร์ลีนส์ ที่ซึ่งมิตรภาพแน่นแฟ้นระหว่างพวกเธอได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ความแสบซ่าส์ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง และก็มีเรื่องของการแดนซ์ การดื่ม การทะเลาะตบตีและเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มากพอจนเมืองนี้ถึงกับต้องอาย

ทีมนักแสดงระดับแนวหน้าของเรื่องนำทีมโดยเรจินา ฮอล (When the Bough Breaks) ในบทไรอัน เพียร์ซ นักเขียนผู้ประสบความสำเร็จ ผู้กำลังอยู่ตรงทางแยกในชีวิตคู่, ทิฟฟานี แฮดดิช (Keanu) ในบท ดีนา สาวใจร้อน รักอิสระ ผู้ภักดีกับเพื่อนสุดๆ, จาดา พิงเก็ตต์ สมิธ (Bad Moms) ในบท ลิซา คูเปอร์ พยาบาลหัวเก่า คุณแม่ลูกสอง ผู้โหยหาวันพักพ่อนช่วงสุดสัปดาห์และควีน ลาติฟาห์ (Miracles from Heaven) ในบท ซาชา แฟรงค์ลิน บล็อกเกอร์ข่าวซุบซิบ ผู้อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่

ภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมแสดงโดยทีมนักแสดงสมทบมากความสามารถ ที่รวมถึงลาเรนซ์ เทท (Love Jones) ในบท จูเลียน สตีเวน์ เพื่อนๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของสาวๆ, โคฟี ซิริโบ (ซีรีส์ Queen Sugar) ในบทมาลิค ผู้เข้าร่วมเทศกาลเจ้าเสน่ห์ ผู้ที่ลิซาสนใจ, ไมค์โคลเตอร์ (Luke Cage ทางเน็ตฟลิกซ์) ในบท สจวร์ต เพียร์ซ นักฟุตบอลเอ็นเอฟแอลที่อำลาวงการไปแล้ว และสามีเจ้าเสน่ห์ของไรอัน, เคท วอลช์ (ซีรีส์ Private Practice) ในบทอลิซาเบธ ดาเวลลี เอเจนท์ผู้กระตือรือร้นของไรอันและเด็บราห์ อยอรินด์ (Luke Cage) ในบทซิโมน เพื่อนของสจวร์ต ผู้เป็นตัวกวนใจในช่วงสุดสัปดาห์

ผู้ที่ทำงานเบื้องหลังร่วมกับลีและแพ็คเกอร์คือทีมงานมากประสบการณ์ที่ร่วมงานกับพวกเขามานาน และนำทีมโดยผู้กำกับภาพเกร็ก การ์ดิเนอร์ (The Best Man Holiday, Elf), ผู้ออกแบบงานสร้าง คีธ ไบรอัน เบิร์นส์ (The Best Man Holiday, Hustle & Flow), มือลำดับภาพ พอล มิลส์พัฟ (The Best Man Holiday, Barbershop: The Next Cut), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แดเนียล ฮอลโลเวล (แฟรนไชส์ The Best Man, Undercover Brother) และนักประพันธ์ เดวิด นิวแมน (Welcome Home, Roscoe Jenkins, แฟรนไชส์ Nutty Professor)

บทภาพยนตร์เขียนโดยเคนยา แบร์ริส (ผู้สร้างซีรีส์ Black-ish) และเทรซี โอลิเวอร์ (Barbershop: The Next Cut) จากเรื่องราวโดยเอริกา ริวิโนจา (ซีรีส์ The Last Man on Earth) ร่วมด้วยแบร์ริสและโอลิเวอร์

เจมส์ โลเปซ (The Perfect Guy) หัวหน้าฝ่ายภาพยนตร์ของวิล แพ็คเกอร์ โปรดักชันส์และเพรสตัน โฮล์มส์ (Birth of a Nation) รับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้าง

Girls Trip ถ่ายทำในนิวออร์ลีนส์





เกี่ยวกับงานสร้าง

เก็บกระเป๋าสิ:
Girls Trip เริ่มต้นขึ้น

คอมมิดี้รวมดาราเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับผู้อำนวยการสร้างวิล แพ็คเกอร์ ผู้สร้างแฟรนไชส์ Think Like a Man และ Ride Along รวมถึงคอมมิดี้และดรามาที่แฟนๆ ชื่นชอบอีกหลายเรื่อง ในตอนที่เขาครุ่นคิดถึงไอเดียสำหรับโปรเจ็กต์ถัดไป เขาก็ตัดสินใจว่าเขาอยากจะนำเสนอผู้หญิงผิวสีในแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็น นั่นคือในคอมมิดี้เรท R แบบไร้ขีดจำกัด “มันมีแนวคิดหรือข้อห้ามในคนบางกลุ่มที่ว่า พวกผู้หญิงไม่ได้สนุกกันแบบนั้น” แพ็คเกอร์กล่าว ผู้อำนวยการสร้างต้องการจะเปลี่ยนแปลงเรื่องนั้นและสะท้อนถึงความจริงของการสังสรรค์เฮฮาของสาวๆ ที่ควรจะถูกนำเสนอมาตั้งนานแล้ว...โดยมีการผสมคอมมิดี้สุดฮาเข้ามาซักหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติ

ในตอนที่เขาเริ่มระดมความคิด แพ็คเกอร์ก็ติดต่อเพื่อนและนักแสดงหญิง ผู้ที่เขาเคยร่วมงานด้วยในภาพยนตร์หลายเรื่อง เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับพล็อตเรื่องที่กำลังก่อตัวขึ้น “ตอนที่ผมนึกถึงไอเดียสำหรับ Girls Trip หนึ่งในคนแรกๆ ที่ผมคุยด้วยคือเรจินา ฮอล แม้แต่ก่อนที่ผมจะคุยกับสตูดิโอด้วยซ้ำ ผมบอกว่า ‘ถ้าเราให้ผู้หญิงสี่คนไปร่วมงานเทศกาลเอสเซนส์ ทำตัวสนุกสุดเหวี่ยง แสบ ซ่าส์ รั่ว เอาตัวรอดได้แล้วรื้อฟื้นมิตรภาพระหว่างพวกเธอได้สำเร็จล่ะ’ เธอก็บอกว่า ‘ฟังดูเจ๋งเลย!’ แล้วผมก็รู้ว่าผมมีอะไรซักอย่างแล้ว”

คนต่อไปที่เขาคุยด้วยคือผู้กำกับมัลคอล์ม ดี. ลี  ผู้ซึ่งเขาชื่นชมผลงานมานานแล้วและได้ช่วยหล่อหลอมแนวดรามา คอมมิดี้ในฐานะมือเขียนบท/ผู้กำกับของภาพยนตร์ดังอย่างแฟรนไชส์ The Best Man รวมถึง Welcome Home, Roscoe Jenkins นอกเหนือจากนั้น ในฐานะผู้กำกับที่โด่งดังจาก Undercover Brother และ Barbershop: The Next Cut เอกลักษณ์ในงานภาพยนตร์ของเขาค่อนข้างจะโดดเด่นทีเดียว “เมื่อนึกถึงผู้กำกับสำหรับ Girls Trip ผมนึกถึงมัลคอล์มทันที ผมเพิ่งได้ดู The Best Man Holiday และผมก็ชื่นชอบการที่เขาผสมผสานดรามา หัวใจและคอมมิดี้เข้าด้วยกันได้อย่างแนบเนียน” แพ็คเกอร์กล่าวชื่นชม “ผมเสนอไอเดียของ Girls Trip กับเขาและเขาก็ตอบสนองในทันที ผมตื่นเต้นเพราะผมรู้ว่าผมต้องการคนที่จะสร้างคอมมิดี้สุดฮาให้กับเราและเป็นคนที่สามารถทำให้นักแสดงทุ่มเทใจให้กับหนังของเราได้ด้วย และนั่นก็เป็นสิ่งที่มัลคอล์มทำได้ดีมากๆ ครับ”

ลีตอบสนองกับไอเดียของเพื่อนผู้อำนวยการสร้างของเขา “เราต่างก็ได้เห็นกระบวนทัศน์ของการที่หนุ่มๆ ทำตัวเลวร้าย แล้วก็ไปเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำเรื่องป่วนๆ ทั้งหลาย แล้วก็เอาตัวรอดได้...โดยที่ภรรยาของพวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย” เขาเล่า “วิลบอกว่า ‘มาทำแบบนั้นกับสาวๆ แล้วให้เรื่องเกิดขึ้นที่เอสเซนส์ดีกว่า’ ผมบอกเขาว่า ‘ผมเอาด้วย 100 เปอร์เซ็นต์เลย’ นี่เป็นที่ที่เพอร์เฟ็กต์ในการสร้างเรื่องราวเพราะมันเป็นการเฉลิมฉลองผู้หญิงผิวสีและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพวกเธอทุกรูปแบบครับ”

ผู้กำกับยอมรับว่าตัวเขารู้สึกเชื่อมโยงกับความคิดอ่านและการใช้ภาพลักษณ์ของแพ็คเกอร์มากๆ “วิลคลั่งไคล้การใช้ภาพลักษณ์แบบแอฟริกัน/อเมริกันบนหน้าจอและอยากให้มันเปลี่ยนแปลงการเล่าเรื่อง ให้มีชีวิตชีวาและสมจริงครับ”

ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างจังหวะเรื่องราวและบทภาพยนตร์ ที่เต็มไปด้วยตัวละคร พร้อมสำหรับการหนีเที่ยวที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยความรักๆ ใคร่ๆ และสัปดนสุดๆ การเฉลิมฉลองที่เกินเวลามาห้าปีของพวกเธอไม่เพียงแต่จะทดสอบสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นของมิตรภาพที่ยาวนานของพวกเธอเท่านั้น แต่มันยังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพวกเธออีกด้วย แม้ว่าสี่สาวในเรื่องจะเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน แต่พวกเธอก็ไม่ได้มาพบปะสังสรรค์กันมานานแสนนาน วันหยุดสุดสัปดาห์ที่เทศกาลเอสเซนส์ครั้งนี้จะไม่มีลูกๆ หรือกฎใดๆ มาเกี่ยวข้อง คดีเก่าหรือเรื่องทุกข์ใจต่างๆ จะถูกเปิดเผย และทุกคนจะทำตัวยังไงก็ได้

ตลอดระยะเวลาการพัฒนาบทภาพยนตร์ จากมือเขียนบทเคนยา แบร์ริสและเทรซี โอลิเวอร์ จากเรื่องราวโดยเอริกา ริวิโนจา ร่วมด้วยแบร์ริสและโอลิเวอร์ แพ็คเกอร์ และลีตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวของสี่สาวแก๊งชะนีอย่างที่พวกเธอเป็น...นั่นคือการเผยจุดบกพร่องทุกอย่างของพวกเธอออกมา แม้ว่าบางคนอาจดูเพอร์เฟ็กต์ ในขณะที่คนอื่นๆ ดูเหมือนมีชีวิตยุ่งเหยิง ทีมผู้สร้างก็ยกย่องเส้นแบ่งเลือนรางที่ดึงให้ตัวละครเหล่านี้มารวมตัวกันและสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นตลอดชีวิตให้กับพวกเธอ คอมมิดี้และดรามาที่เกิดจากเรื่องนั้นเป็นอะไรที่สนุกที่สุด

ผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้างได้แนะนำให้เราได้รู้จักเรื่องราวของกลุ่ม “ฟลอสซี โพสซี” ตัวละครที่เขารู้สึกว่าพวกเราทุกคนสามารถมองเห็นตัวเราเองในนั้น “เรามีผู้หญิงกลุ่มนี้ที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันและเป็นเพื่อนซี้กัน พวกเธอห่างเหินกันไปบ้างในช่วงสองสามปีนี้เพราะเรื่องราวในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงาน มิตรภาพ ลูกๆ หรือเวลาสำหรับครอบครัว”

“พวกเธอเคยไปงานเทศกาลเอสเซนส์ทุกปี แต่พวกเธอก็ไม่ได้ไปมาหลายปี และถึงเวลาที่พวกเธอจะมาเจอกันอีกครั้งแล้ว” ลีกล่าวต่อ   “เนื่องด้วยรอยร้าวฉานบางอย่างในความสัมพันธ์ของพวกเธอ มันก็มีคำพูดที่ไม่เคยได้พูดบางคำถูกเผยออกมาในบางช่วงเวลา ท่ามกลางความวุ่นวาย ความสนุกสนานและความมึนเมาที่ตามมา ผมเชื่อว่าทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ มองเห็นตัวเองในตัวละครพวกนี้ครับ”

ลีชื่นชมความเข้าถึงได้ของตัวละครเหล่านี้ ผู้เป็นตัวแทนของผู้ใหญ่จำนวนมากที่ดิ้นรนกับการเหนี่ยวรั้งส่วนที่ดีที่สุดในวัยเยาว์ของพวกเขา ในขณะที่ปล่อยวางจากอดีตและยอมรับบทต่อไปในชีวิตของพวกเขาอย่างเต็มตัว “เราต่างก็รู้จักคนแบบซาชา ที่แฟชันจ๋า และอยู่ตรงทางแยกในหน้าที่การงานของเธอ เรารู้จักคนอย่างไรอัน คนที่ประสบความสำเร็จและพึ่งพาตัวเองได้ แต่อาจจะซ่อนบางอย่างไว้” เขากล่าว “คล้ายๆ กัน เรารู้จักคนอย่างดีนา ที่จะคอยหนุนหลังคุณ คนที่สามารถปรากฏตัวขึ้นในงานปาร์ตี้แล้วทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นได้ คุณอยากให้เธออยู่ด้วย แต่คุณก็จะคิดว่า ‘เธออาจจะสร้างปัญหาให้กับเราได้นะเนี่ย’ แล้วก็มีคนอย่างลิซา ที่รู้สึกหลงทางและต้องค้นหาความเป็นผู้หญิงของตัวเองใหม่ ครั้งหนึ่ง เธอเคยเป็นสาวพราวเสน่ห์ ที่ตอนนี้ถูกรั้งไว้ด้วยกางเกงยีนส์แบบคุณแม่ครับ”

ไรอัน, ซาชา, ดีนาและลิซา หรือกลุ่ม “ฟลอสซี โพสซี” มุ่งหน้าไปยังนิวออร์ลีนส์ เพื่อร่วมงานเทศกาลเอสเซนส์ ด้วยแผนการที่จะอยู่โต้รุ่งเพื่อดื่ม แดนซ์ ปลดปล่อย ทำตัวแสบซ่าส์ สุดโต่งและสร้างความทรงจำ ด้วยพลังงานที่ล้นเหลือของถนนเบอร์เบินเป็นแบ็คกราวน์ พวกเธอจะต้องรับมือกับประเด็นบางอย่างที่จะถูกเปิดเผยออกมา จาดา พิงเก็ตต์ สมิธ ผู้รับบทลิซา ได้อธิบายถึงที่มาของคำนี้ว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่พวกสาวๆ จะชอบตั้งชื่อกลุ่มก๊วนของตัวเองค่ะ”
« Last Edit: August 26, 2017, 08:59:55 PM by happy »

happy on August 26, 2017, 09:02:28 PM
พบกับกลุ่มฟลอสซี โพสซี:
ทีมนักแสดงของคอมมิดี้




ไรอัน เพียร์ซ นักเขียนและนักธุรกิจที่สร้างตัวเองขึ้นมา ผู้รู้ว่าคุณมีทุกอย่างได้พร้อมมูล ถ้าคุณเพียงแต่ทำงานหนักพอ กำลังพยายามประคับประคองชีวิตคู่ของเธอกับสจวร์ต ซาชา แฟรงค์ลิน ทำบล็อกซุบซิบ และมาถึงจุดที่เธอกำลังสงสัยว่า การตัดสินใจที่จะพยายามไปให้ถึงจุดสูงสุดของเธอเป็นสิ่งคุ้มค่ารึเปล่า สำหรับดีนา เธอเป็นคนหุนหันพลันแล่น ที่เปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและจะพูดโพล่งอะไรก็ตามที่เธออยากจะพูด เธอเป็นคนที่คุณแอบหวังว่าอยากเป็นเหมือนเธอและเธอก็ภักดีกับเพื่อนสาวของเธอมากๆ ลิซา คูเปอร์เป็นพยาบาลสาวหัวโบราณ ม่ายสาวผู้มีลูกสองคน เธอต้องการวันหยุดสุดสัปดาห์ครั้งนี้มากกว่าที่ใครๆ ในนิวออร์ลีนส์จะคิดหวังไว้

ในการถ่ายทอดพลังงานความวุ่นวายของกลุ่มสาวๆ ที่แปลกแยกกันกลุ่มนี้ แพ็คเกอร์และลีได้ค้นหาไปทั่วโลกของสแตนด์อัพ คอมมิดี้และภาพยนตร์ โชคดีที่การมารวมตัวกันของนักแสดงหญิงที่พวกเขาพบก็ยอดเยี่ยมพอๆ กับกลุ่มฟลอสซี โพสซีเลย

ในตอนที่ทีมผู้สร้างจินตนาการถึงสาวๆ ที่จะมารับบทตัวละครเหล่านี้ พวกเขาก็ได้นึกว่าใครกันที่จะสามารถถ่ายทอดแก่นแท้ของตัวละครแต่ละตัวออกมาได้ ในการทาบทามเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ พวกเขาพบผู้มีเอกลักษณ์โดดเด่นสำหรับตัวละครเหล่านี้ ทั้งแพ็คเกอร์และลีต่างก็เคยร่วมงานกับเรจินา ฮอลมาก่อนและรู้ว่าเธอเพอร์เฟ็กต์สำหรับบทไรอัน แพ็คเกอร์เล่าถึงเหตุผลที่เขาเลือกเธอว่า “เรจินามีหลายเลเยอร์ ที่เธอสามารถใส่เข้าไปในตัวละครตัวนี้ได้ เธอมีเสน่ห์เหลือเกิน ตลกมากๆ และมีไหวพริบ นอกจากนั้น เธอยังแสดงให้คุณเห็นถึงความลึกซึ้งของเธอด้วย”

ลี ผู้ที่จริงๆ แล้วเลือกฮอลให้แสดงในผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอด้วย (ในบทขโมยซีน แคนดี้ นักเต้นระบำเปลื้องผ้าหัวใจงามใน The Best Man) เห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ชมต้องการมานานแล้ว “ผมอยากเห็นเรจินาเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการเป็นนักแสดงสมทบไปเป็นนางเอก เธอตลกและมีความสามารถมาก ผมมั่นใจว่าเธอจะสามารถใส่อารมณ์ขันเข้าไปให้กับบทนี้ในแบบที่นักแสดงหลายคนทำไม่ได้ แม้ว่าไรอันจะเป็นแกนหลักด้านอารมณ์ของเรื่อง ผมก็รู้ว่าเรจินาจะนำอะไรมากมายมาสู่หนังเรื่องนี้ได้”

ตัวฮอลเองก็นับถือลีเช่นกัน เธอเล่าว่า “นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่ฉันได้ร่วมงานกับมัลคอล์ม เราเป็นเหมือนครอบครัวค่ะ การได้พูดคุยโต้ตอบกับผู้กำกับของคุณเป็นเรื่องเยี่ยมมากเพราะคุณสามารถคุยกับเขาได้เกี่ยวกับความรู้สึกที่คุณมีต่อตัวละครของคุณและสำรวจมันด้วยกัน ฉันได้ร่วมงานกับมัลคอล์มในหนังเรื่องแรกของฉันและฉันก็อาจจะเป็นหมายเลขสิบในแผ่นรายชื่อนักแสดงในตอนนั้น แต่เขาก็ยังเห็นคุณค่าของฉันเมื่อ 18 ปีที่แล้วมากพอๆ กับที่เขามองเห็นคุณค่าของฉันในปัจจุบันนี้ การพูดอะไรแบบนี้ได้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งทีเดียวค่ะ”

แม้ว่าฮอลจะเป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่แพ็คเกอร์ปรึกษาหารือด้วยสำหรับคอมมิดี้เรื่องนี้ เธอก็ชื่นชอบการที่มือเขียนบทของเรื่องได้เนรมิตชีวิตให้กับตัวละครของเธอและสมาชิกกลุ่มฟลอสซี โพสเซคนอื่นๆ นักแสดงหญิงเล่าว่า “ฉันคิดว่าเรื่องราวนี้ตลกมากๆ แต่ก็มีความอบอุ่นมากมายด้วย มันมีข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับความเป็นพี่น้ออง การสนับสนุนกันและสายสัมพันธ์ที่ยาวนานตลอดชีวิตค่ะ” ด้วยความคำนึงถึงมุมมองที่แพ็คเกอร์และลีนำมาสู่โลกภาพยนตร์ ฮอลชื่นชอบการที่ Girls Trip ได้นำพาผลงานของพวกเขาไปอีกระดับ “สิ่งที่ฉันรักมากที่สุดคือการได้เห็นผู้หญิงผิวสีสี่คนสนุกกันสุดเหวี่ยงบนจอเงิน ตัวละครพวกนี้มีหลายมิติมากๆ ค่ะ”

ไรอัน สมาชิกเพียงคนเดียวของฟลอสซี โพสซีที่แต่งงานแล้ว ดูเหมือนจะมีพร้อมทุกอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝันถึงตอนที่พวกเธอเรียนด้วยกัน อย่างไรก็ดี ฮอลเล่าว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเลย “ไรอันแต่งงานตั้งแต่ตอนเรียนวิทยาลัยและกลายเป็นต้นแบบของคู่รัก เธอและสจวร์ตทำให้ความฝันกลายเป็นจริง พวกเขาเชื่อในความฝันที่พวกเขาได้นำเสนอและมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของเธอ ฉันคิดว่าไรอันไม่รู้หรอกว่าจะใช้ชีวิตโดยขาดมันยังไง”

สมาชิกคนถัดไปของสี่สาวที่ได้ถูกคัดเลือกให้ร่วมแสดงใน Girls Trip คือจาดา พิงเก็ตต์ สมิธ ในบท ลิซา คูเปอร์ และควีน ลาติฟาห์ นักแสดงมากความสามารถ ในบท ซาชา แฟรงค์ลิน ผู้เคยแสดงร่วมกันได้อย่างวิเศษสุดในภาพยนตร์โดยเอฟ. แกรี เกรย์เรื่อง Set It Off

แพ็คเกอร์ยอมรับว่า เขาตื่นเต้นกับการได้นำซูเปอร์สตาร์ระดับโลกทั้งสองคนมาเจอกันในภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง “นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่คุณจะได้เห็นควีน ลาติฟาห์และจาดา พิงเก็ตต์ สมิธแสดงคู่กัน ตอนที่เราคัดเลือกนักแสดงสำหรับหนังเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นได้ทีหลัง ควีน ลาติฟาห์เหมาะกับบทซาชา เหมือนกับที่จาดา พิงเก็ตต์ สมิธเพอร์เฟ็กต์สำหรับบท ลิซา ตอนนั้นเองที่เราตระหนักได้ว่า มันจะเยี่ยมแค่ไหนถ้าเราได้ตัวพวกเธอทั้งคู่มาแสดงด้วยกัน พอเรารู้ว่าทั้งคู่สนใจ ซึ่งทั้งคู่ก็ได้คุยกันเพราะพวกเธอคงความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมายาวนานครับ เราก็รู้ว่าเรามีบางสิ่งที่พิเศษสุด ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วครับ”

แพ็คเกอร์กล่าวชื่นชมเกี่ยวกับ ลิซา ตัวละครในเรื่องว่า “ผมเป็นแฟนผลงานของจาดามานานแล้ว เธอเป็นคนที่ผมชื่นชมในฐานะนักแสดง นี่เป็นบทที่ผมคิดว่าเธอจะตอบสนองกับมันจริงๆ ผมก็เลยส่งมันไปให้เธอได้พิจารณา เธอชื่นชอบบทนี้ทันทีและมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อทำให้ตัวละครตัวนี้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ”

พิงเก็ตต์ สมิธเล่าถึงความสนใจของเธอในการร่วมทำงานใน Girls Trip และกล่าวสรุปด้วยคำสั้นๆ ว่า นั่นคือ ‘ทีมนักแสดง’ เธอเล่าว่า “ฉันอยากมีโอกาสได้ร่วมงานกับลาติฟาห์อีกครั้ง ฉันไม่เคยได้ร่วมงานกับเรจินา ฮอลมาก่อนและเธอก็ฮาสุดๆ เลย และแน่นอนว่า ฉันโชคดีที่ได้พบกับทิฟฟานี แฮดดิชและได้ร่วมงานกับเธอค่ะ”

นักแสดงมากประสบการณ์ผู้นี้สนใจตัวละครของเธอเพราะเธอมองเห็นแสงสว่างในตัวของเธอ แม้ว่าแสงนั้นจะมัวหมองลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่มันก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของตัวเธอ “ลิซาวุ่นอยู่กับการเป็นแม่ค่ะ” พิงเก็ตต์ สมิธกล่าว “สมัยเรียน เธอเคยเป็นตัวแสบ แต่ตอนนี้ เธอเป็นแม่ศรีเรือนเหลือเกิน เธอไม่ได้มีสไตล์แบบนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะเธอสนใจแต่ลูกๆ กับงาน การเดินทางกับเพื่อนสาวครั้งนี้ของเธอจะช่วยทำให้เธอมีชีวิตชีวาอีกครั้งค่ะ”

สำหรับการคัดเลือกลาติฟาห์ แพ็คเกอร์มีความยินดีไม่แพ้คนอื่นๆ ในทีมนักแสดงหรือทีมงานที่จะได้นำสมิธและอดีตเพื่อนร่วมแสดงของเธอกลับมาเจอกันอีกครั้ง “ควีน ลาติฟาห์เป็นคนที่รู้ว่าจะแสดงคอมมิดี้ และดรามายังไง และเราก็รู้ว่าเธอแสดงได้เก่ง” เขากล่าว “มันก็เลยเป็นบทที่เราสร้างขึ้นจากตัวเธอเพื่อทำให้มันเข้ากับบุคลิกลักษณะของเธอครับ”

ควีน ลาติฟาห์กล่าวถึงความผูกพันของครอบครัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นพี่น้อง เราก้าวเข้ามาในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และเราต่างก็หยิบยื่นสิ่งที่คนอื่นขาดให้กับพวกเขา บางครั้ง คุณก็ต้องการแค่อ้อมกอดค่ะ บางครั้ง ก็ต้องมีใครมาตรวจสอบคุณบ้าง บางครั้ง ก็ต้องมีคนมาหยุดคุณ หรือคุณต้องการไหล่ให้ซบร้องไห้ สิ่งสำคัญคือเราอยู่เคียงข้างกันเสมอ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะหยุดทุกอย่างเพื่ออยู่เคียงข้างกัน และผู้หญิงก็เข้าใจเรื่องแบบนั้น พวกเธอจำเป็นต้องได้เห็นเรื่องนั้น ดังนั้น เราก็จะแสดงให้พวกเธอได้เห็นในรูปแบบต่างๆ ที่มากกว่าพวกเธอจะคาดคิดอีกค่ะ”

นักแสดงหญิงกล่าวชื่นชมการที่เธอต้องเข้าถึงอารมณ์ที่มืดหม่นกว่ากับตัวละครของเธอ เพราะซาชาอาจจะกำลังพบกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากที่สุดในบรรดาสี่สาว เธออธิบายว่า “ตอนนี้ ซาชาเป็นบล็อกเกอร์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธออยากจะทำ เธอเรียนการเป็นนักข่าวมาและเธอก็คาดหวังเสมอว่าเธอกับไรอันจะทำงานนั้นด้วยกัน แต่พวกเธอก็ไปคนละทางเมื่อไรอันเริ่มทำงานกับสามีเธอและทิ้งซาชาไว้ให้พยายามคิดหาหนทางเอาเองว่าจะทำอะไรต่อไป เธอหลงไปเขียนพวกเรื่องราวสัปดนที่เธอไม่ได้ชื่นชอบเลย และสถานการณ์การเงินเธอไม่ได้ดีนักค่ะ”

บทสุดท้ายที่ได้นักแสดงมาคือ ดีนา ผู้เป็นตัวตลกคลายเครียดประจำกลุ่ม หลังจากการออดิชันนักแสดงหญิงหลายคน ทีมผู้สร้างก็เลือก ทิฟฟานี แฮดดิช ผู้มีพื้นเพจากวงการสแตนด์อัพ ลีเล่าถึงกระบวนการนั้นว่า “เราออดิชันนักแสดงหลายคนทีเดียวสำหรับบท ดีนา ผมเพิ่งได้ดูทิฟฟานีในรายการ The Carmichael Show มาและรู้ว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่มีชีวิตชีวา เธอทำให้คนอื่นๆ มีปฏิกิริยาตอบสนองกับเธอ เมื่อถึงเวลาดูเทปออดิชัน สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือ ‘ใครจะทำให้ผมหัวเราะได้มากที่สุด’ และคนๆ นั้นคือทิฟฟานีครับ เธอเป็นเหมือนอีเนอร์ไจเซอร์ บันนี เธอติดเครื่องเสมอและเธอก็ตลกเสมอด้วย เธอมักจะพูดอะไรเฉียบๆ เสมอ และผมก็ชื่นชมเธอในเรื่องนั้นครับ”

แฟนพันธุ์แท้ของแฮดดิชในกลุ่มทีมงานไม่ใช่ใครเลยนอกจากผู้ควบคุมงานสร้างเจมส์ โลเปซ “ตอนที่ทิฟฟานีร่วมทำงานกับเรา เรก็รู้ว่าเรากำลังจะเจอกับความสนุกสนานสุดเหวี่ยง ผู้หญิงคนนี้สุดๆ ครับ เธอทั้งตลกและเป็นสีสันของงานปาร์ตี้” โลเปซกล่าว “นี่จะเป็นงานแจ้งเกิดสำหรับเธอ เธอเคยแสดงหนังมาบ้างก็จริง แต่ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะเผยให้เห็นถึงความสามารถของเธอจริงๆ ครับ”

นักแสดงหญิงกล่าวชื่นชมโอกาสแจ้งเกิดของเธอ และเธอก็เล่าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครของเธอ โดยเธอเล่าถึง ดีนา ตัวละครอับโชคที่ไม่เคยออกจากเกมว่าเป็น “ดอกไม้ไฟ” “ดีนาอยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่เธออยากจะมีช่วงเวลาสนุกสนานเท่านั้นเอง เธอเครียด และเพิ่งตกงาน เธอยังไม่ได้บอกใครแต่เมื่อถึงเวลาปลดปล่อยความเครียด เธอก็พร้อมเสมอ นี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงและได้อยู่กับเพื่อนๆ ของเธอที่ทำให้เธอมีความสุขเสมอ เธอไม่ต้องนึกถึงว่าจะจ่ายบิลพวกนั้นยังไงน่ะค่ะ”

แฮดดิชมีคำตอบที่ดีที่สุดถึงเหตุผลที่สาวๆ กลุ่มนี้เป็นที่รู้จักในนามของ “ฟลอสซี โพสเซ” ตามสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เธอกล่าวกลั้วหัวเราะว่า “พวกเธอเรียนวิทยาลัยกันอยู่ พวกเธอดูดี อวดสัดส่วนและมีความสดใสเสมอ สาวๆ พวกนี้มีท่าเต้นที่เลิศที่สุด ทรงผมและเสื้อผ้าที่เลิศที่สุด พวกเธอผมฟูฟ่องและรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เหมือนกับพวกสาวก นั่นเป็นที่มาของคำว่า ‘โพสเซ’ เพราะพวกสาวกอยู่ภายใต้พระเยซูค่ะ” เธอหยุดไปครู่หนึ่ง “ใครจะรู้ล่ะคะ ดีนาอาจจะเป็นพระเยซูของสาวๆ กลุ่มนี้ก็ได้! นั่นคือที่มาของชื่อกลุ่ม ฟลอสซี โพสเซค่ะ”

happy on August 26, 2017, 09:08:22 PM
สามี เอเจนท์และคนรัก:
ทีมนักแสดงสมทบ




บุคคลอื่นๆ ในโลกของสาวๆ รวมถึงสจวร์ต เพียร์ซ ที่รับบทโดย ไมค์ โคลเตอร์ ผู้โด่งดังจากผลงานน่าจดจำในซีรีส์เน็ตฟลิกซ์เรื่อง Luke Cage และ Jessica Jones สจวร์ต สามีเจ้าเสน่ห์ของไรอัน ผู้เป็นนักฟุตบอลที่อำลาวงการไปแล้ว อยากให้ธุรกิจที่เขาทำร่วมกับภรรยาเดินหน้าต่ออย่างประสบความสำเร็จ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเขาห่างเหินกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ “เขามีภรรยาที่ดีเคียงข้างเขา แต่ตอนนี้ เขาได้แค่อยู่ข้างๆ เธอเพราะตอนนี้ เธอกลายเป็นจุดสนใจในแบบที่เขาเคยได้รับในฐานะนักฟุตบอลครับ” นักแสดงหนุ่มกล่าว

แพ็คเกอร์อธิบายถึงความสำคัญที่นักแสดงหนุ่มมีต่อเรื่องราวนี้ว่า “ไมค์สวมบทนี้ด้วยระดับความลึกซึ้ง ตามที่จำเป็นต่อตัวละครตัวนี้ เขาเป็นคนที่มีอีโก้ล้นเหลือ และอีโก้ของเขาก็ถูกทำลายย่อยยับ เขาพยายามจะตอบโต้ผ่านทางการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น สจวร์ตเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็กต์ที่คุณรัก แต่รักที่จะเกลียดน่ะครับ เขามีภรรยาที่เพอร์เฟ็กต์ แต่นั่นก็ยังไม่พอสำหรับเขาครับ”

ซิโมน ที่รับบทโดย เด็บราห์ อยอรินด์ ที่โด่งดังจาก Luke Cage คือผู้หญิงอีกคนของเขา เธอกำลังตกที่นั่งตรงกลางระหว่างการรักสจวร์ตและการหาคำตอบว่าเธอต้องการอะไรจากชีวิต

อลิซาเบธ ดาเวลลี ที่รับบทโดยเคท วอลช์จาก Private Practice และ Bad Judge รับบทเอเจนท์ของไรอันและสจวร์ต สุดสัปดาห์นี้สำคัญกับพวกเขาทั้งสามคน เพราะอลิซาเบธจะต้องเกลี้ยกล่อมให้นักลงทุนเชื่อว่า ทั้งคู่เป็นต้นแบบทั้งในเรื่องของความรักและความสัมพันธ์ โชคร้ายสำหรับเธอ...ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นเลย “ตัวละครของฉันพยายามจะปิดดีลยักษ์ใหญ่ให้กับพวกเขา และความอลหม่านทั้งหลายก็เกิดขึ้นค่ะ” วอลช์กล่าว

ลาเรนซ์ เทท ผู้โด่งดังจากบท โอ-ด็อกใน Menace II Society และปัจจุบัน แสดงในซีรีส์ Power รับบท จูเลียน สตีเวนส์ เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของสาวๆ ผู้เฟลิตกับไรอันอย่างไม่คาดฝัน จูเลียน นักดนตรีมากฝีมือที่ทำงานเป็นมือเบสให้กับศิลปินอาร์แอนด์บี เน-โย ดูเหมือนจะเป็นทุกอย่างที่ไรอันไม่เคยรู้ว่าเธอต้องการ

เททอธิบายถึงความสำคัญของตัวละครของเขาในเรื่องราวนี้ว่า “จูเลียนเป็นผู้ชายที่มาดเท่ เขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของสาวๆ และสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับไรอันก็แน่นแฟ้นเสมอ พวกเขามีความพึงพอใจซึ่งกันและกันที่ไม่เคยเอ่ยออกมาเสมอ แต่พวกเขาไม่เคยล้ำเส้น ด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่สถานการณ์ไม่ได้ดึงให้พวกเขามาอยู่ด้วยกัน เขาเป็นคนที่ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรซ่อนเร้นและเขาก็เป็นคนที่ไรอันสามารถไว้วางใจได้จริงๆ และในทางกลับกันก็เช่นกันครับ”

สุดท้ายคือโคฟี ซิริโบ ผู้ปัจจุบัน รับบทราล์ฟ แองเจล บอร์เดลอนในซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่อง Queen Sugar ผู้เป็นน้องใหม่ในทีมออลสตาร์ เขารับบท มาลิค หนุ่มรูปงามผู้ทำให้ลิซารับรู้ถึงความจริงที่ว่าเธอหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองนานเกินไปแล้ว...และช่วยให้เธอตระหนักว่าถึงเวลาจะทำตามสิ่งที่เธอชอบแล้ว “มาลิคเป็นชายหนุ่มจากนิวออร์ลีนส์” นักแสดงหนุ่มกล่าว “เขาเป็นเด็กมหาวิทยาลัยที่สนุกสนานกับวันหยุด และเพื่อนๆ ของเขาก็ออกไปเที่ยวถนนเบอร์เบินและเจอกับสาวๆ พวกนี้เขา เขาและลิซาเข้ากันได้ดี และพอคุณรู้ตัวอีกที ทุกอย่างก็งอกเงยขึ้นจากตรงนั้นครับ”


เวกัสแห่งแดนใต้:
การถ่ายทำในนิวออร์ลีนส์

คอมมิดี้เรื่องนี้ถ่ายทำในโลเกชัระหว่างช่วงสุดสัปดาห์ของเทศกาลเอสเซนส์ในนิวออร์ลีนส์ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องท้าทายในการควบคุมทีมนักแสดงผ่านผู้เข้าร่วมชมงานเทศกาลนับหมื่นๆ คน ไม่นับรวมถึงบรรดาคนที่มาปาร์ตี้ท่ามกลางกระแสคึกคึกของถนนเบอร์เบินอยู่เป็นประจำ แต่ทีมนักแสดงก็สามารถสร้างความผูกพันกับคนเหล่านั้นได้อย่างพิเศษสุด

แม้แต่นักแสดงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดใน Girls Trip ก็ยังทึ่งกับการถ่ายทำในนิวออร์ลีนส์ ในตอนที่มีการจัดงานเทศกาลที่โด่งดังนี้ขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว การรวมตัวกันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเธอผ่านงานนี้มาได้

“พลังงานของเทศกาลเอสเซนส์เป็นอะไรที่เหลือเชื่อและไม่มีอะไรเทียบได้ค่ะ” ลาติฟาห์เล่า “คุณมีผู้คนนับหมื่นนับแสนในเมืองนี้ และมันก็แน่นเอี้ยดไปหมด นักแสดงทุกคน กับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่กำลังเกิดขึ้น และคุณก็ต้องพยายามถ่ายหนังท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น คุณกำลังรับบทตัวละคร แต่ในชีวิตจริง คุณคือควีน ลาติฟาห์, จาดา พิงเก็ตต์ สมิธ, เรจินา ฮอลและทิฟฟานี แฮดดิช พวกเราคิดกันว่า ‘เราจะทำสำเร็จได้ยังไง’ เราไม่ได้แค่ต้องถ่ายทำในสเตเดียม แต่เราต้องถ่ายทำในซูเปอร์โดม ซึ่งเป็นราชันย์แห่งสเตเดียม ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนระหว่างที่มีการจัดคอนเสิร์ต แต่พลังงานและความคลั่งไคล้ในสิ่งที่เราต้องทำคือสิ่งที่ผลักดันให้เราผ่านพ้นมันไปได้ค่ะ”

แฮดดิชเล่าถึงหนึ่งในช่วงเวลาพิเศษสำหรับเธอ ซึ่งคงจะติดตรึงในใจเธอไปอีกนานหลายปี “การถ่ายทำที่เทศกาลเอสเซนส์ทั้งน่าทึ่งและเจ๋งมากค่ะ มีฉากหนึ่งที่ไรอันนคุยกับผู้คนเต็มโรงละคร ตอนที่เราถ่ายทำฉากนั้น ทั้งห้องเต็มไปด้วยผู้คนตั้งแต่หน้าห้องจรดท้ายห้อง เราต้องเดินไปที่หลังห้องและผ่านผู้คนผิวสีหน้าตาดีทั้งหมดนั่นค่ะ”

“ฉันต้องรวบรวมสติเพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกไปเพราะการได้เห็นคนผิวสำนวนมากขนาดนั้นใส่ใจและสนับสนุนพวกเราเป็นสิ่งที่งดงามที่สุดในโลกใบนี้” นักแสดงหญิงกล่าวต่อ “มันทรงพลังมาก ฉันเคยอยู่ในสเตเดียมที่เต็มไปด้วยผู้คนมาก่อนและฉันก็ไม่เคยรู้สึกภูมิใจแบบในห้องนั้นมาก่อน พวกเขาทุกคนต่างก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างและได้อยู่ด้วยกันค่ะ”

การถ่ายทำเต็มไปด้วยการผจญภัยแสนสนุกสนานสำหรับกลุ่มฟลอสซี โพสเซและทีมงาน ไฮไลท์สำคัญคือตอนที่ทีมงานเจอกับไอเดียของการเหาะเหินเหนือท้องถนน ไอเดียในการใส่ซิปไลน์เข้าไปใน Girls Trip มาจากผู้อำนวยการสร้างแพ็คเกอร์ “มีคนในออฟฟิศเล่าให้ผมฟังว่าในลาสเวกัส มีผู้ชายคนหนึ่งขึ้นซิปไลน์ไป แล้วจงใจฉี่ลงมารดคนอื่นๆ และเขาก็ถูกจับ นั่นเป็นการกระทำที่เลวร้ายและน่ารังเกียจครับ เขาตั้งใจทำมันและมันก็เป็นเรื่องราวที่เลวร้าย” ผู้อำนวยการสร้างหยุดครู่หนึ่ง “แน่นอนว่า...ตอนที่ผมได้ยินเรื่องนี้ ผมบอกว่า ‘นั่นเป็นเรื่องตลกที่สุดเท่าที่ผมได้ยินมาทั้งวันและมันคงจะเยี่ยมมากถ้าอยู่ในหนังเรื่องนี้! เราต้องลงมือทำมันก่อนที่คนอื่นจะทำ’ น่ะครับ”

ลีและแพ็คเกอร์ ที่ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่น้อย ได้สร้างฉากนี้ ที่สาวๆ เที่ยวกันอยู่ในถนนเบอร์เบิน เพื่อดื่มสังสรรค์ “พวกเธอได้เห็นซิปไลน์จริงๆ” แพ็คเกอร์เล่า “หลังจากนั้น เราก็ให้ทีมงานขึ้นซิปไลน์เพื่อข้ามระหว่างกลางของเฟรนช์ ควอเตอร์ ที่อยู่ตรงข้ามถนนเบอร์เบิน ฉากนี้เป็นทุกอย่างที่เราคิดว่ามันจะเป็น เราคุยกันเรื่องนี้ในตอนเริ่มต้นและสงสัยว่านักแสดงหญิงของเราจะยินดีแสดงมั้ย คุณคิดไอเดียสุดโต่งพวกนี้ขึ้นมาได้ก็จริง แต่คุณก็ต้องหานักสดงที่เต็มใจจะทำสิ่งที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่คุณจะคิดออกมาได้ด้วยครับ”

จาดา พิงเก็ตต์ สมิธเป็นนักแสดงหลักในฉากนี้ และเธอก็มีความกล้ากว่าคนส่วนใหญ่ที่จะอยู่ในสถานการณ์นี้...และพร้อมรับความท้าทาย “ฉันคิดเสมอว่า การเล่นซิปไลน์จะเป็นเรื่องสนุกและเป็นไอเดียที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับถนนเบอร์เบิน มันเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับความสนุกสุดเหวี่ยง ดังนั้น ฉันก็เลยไม่ต้องอาศัยการเกลี้ยกล่อมอะไรเลย ฉันก็รู้แล้วว่ามันจะสนุกมากๆ” นักแสดงหญิงกล่าว

อย่างไรก็ดี การถ่ายทำฉากซิปไลน์ก็เป็นเรื่องท้าทายทีเดียว แพ็คเกอร์อธิบายว่า “เราต้องปิดถนนเบอร์เบิน ซึ่งถนนเบอร์เบินไม่เคยถูกปิด มันเปิดตลอด 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 7 วัน ตลอด 365 วันของปี มันจะเต็มไปด้วยผู้คนที่เมาหัวราน้ำ สนุกสนานไปกับการปาร์ตี้ เราต้องติดตั้งกลไกให้สามารถข้ามซิปไลน์ขนาดใหญ่ไปได้ และเราก็มันต้องติดกับอาคารที่ตั้งอยู่แล้ว และทำให้แน่ใจว่านักแสดงสตันท์ของเราจะข้ามไปเพื่อทดสอบน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว พอทุกอย่างเข้าที่ เราก็ทดสอบมัน ทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัย แล้วเราก็ปล่อยให้มันขาดครับ!”


###

หลังจากปิดกล้องแล้ว ผู้กำกับลีก็เล่าว่าสิ่งที่ทีมงานของเขาทำได้สำเร็จคือการสร้างความขบขันให้กับตัวละครที่ซับซ้อนและตลกอย่างเหลือเชื่อบางตัว เขากล่าวสรุปว่า “มันมีความใกล้ชิดระหว่างสาวๆ ที่คุณจะสังเกตเห็น แม้ว่าพวกเธอจะไม่พูดอะไรซักคำ ในหนังเรื่องนี้ เราบันทึกภาพพวกเธอเต้นด้วยกัน นอนบนเตียงด้วยกัน กินข้าวและหัวเราะด้วยกัน ผู้หญิงทุกคนจะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ แต่ผู้หญิงผิวสีจะได้ครองหนังเรื่องนี้จริงๆ ครับ พวกเธอจะบอกว่า ‘นั่นคือฉัน และนั่นคือเพื่อนสาวของฉัน’ ไม่เคยมีใครสร้างหนังที่ยกย่องพวกเธอในแบบนี้มาก่อนเลยครับ”

###

ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ร่วมกับเพอร์เฟ็กต์ เวิลด์ พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยวิล แพ็คเกอร์ โปรดักชันส์ ภาพยนตร์โดยมัลคอล์ม ดี. ลี Girls Trip นำแสดงโดยเรจินา ฮอล, ทิฟฟานี แฮดดิช, ลาเรนซ์ เทท, ไมค์ โคลเตอร์, เคท วอลช์ ร่วมด้วย จาดา พิงค์เก็ตต์ สมิธและควีน ลาติฟาห์ ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์คือเดวิด นิวแมนและผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือแดเนียล ฮอลโลเวล มือลำดับภาพคือพอล มิลส์พัฟ และผู้ออกแบบงานสร้างคือคีธ ไบรอัน เบิร์นส์ ผู้กำกับภาพคือเกร็ก การ์ดิเนอร์ และผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่เพรสตัน โฮล์มส์, เจมส์ โลเปซ คอมมิดี้เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยวิล แพ็คเกอร์, พี.จี.เอ., มัลคอล์ม ดี. ลี, พี.จี.เอ., จากเรื่องราวโดยเอริกา ริวิโนจาและเคนยา แบร์ริส ร่วมด้วยเทรซี โอลิเวอร์ บทภาพยนตร์โดยเคนยา แบร์ริสและเทรซี โอลิเวอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยมัลคอล์ม ดี. ลี © 2017 Universal Studios.  www.girlstripmovie.com