รมว.ท่องเที่ยว ชูเที่ยวคลัสเตอร์ล้านนา ทำรายได้ภาคเหนือโตกว่า5.7%. เร่งเสริมแบรนด์ดิ้ง จ.ลำพูน 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม..พลาด Plus ชูกลยุทธ์ Lanna Experience Campaign
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ติดตามความคืบหน้าและขับเคลื่อนการดำเนินงานของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และพะเยา ให้การดำเนินงานสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในมิติเชิงพื้นที่ (Area Approach) เพื่อการกระจายรายได้ กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค จังหวัด และชุมชนเพิ่มมากขึ้น สำหรับ การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว ณ จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม..พลาด พลัส มีสิ่งที่ต้องเร่งพัฒนาต่อยอดเสริมคุณค่า คือ
1) การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อคัดเลือกเส้นทางต้นแบบ "The Ultimate Lanna Experience Campaign" สร้างความเชื่อมโยงในกลุ่มล้านนา “ศรัทธาธรรมถิ่นล้านนา” วัดประจำปีเกิด เส้นทางเริ่มต้นจาก จ.ลำปาง– อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง– อ.ป่าซาง จ.ลำพูน – อ.เมือง จ.ลำพูน – อ.เมือง จ.เชียงใหม่ – อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
2) การเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติ โดยได้ให้นโยบายย้ำว่าสิ่งที่สำคัญ คือการนำไปปฏิบัติ การพัฒนาคน สร้างเจ้าบ้านที่ดี
3) การเตรียมรายละเอียดโครงการสำหรับปีงบประมาณ 2562 ต้องจัดลำดับความสำคัญ เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติ จังหวัดเข้าด้วยกัน
4) ให้คำนึงถึงมิติสิ่งแวดล้อม การกำจัดน้ำเสีย กำจัดขยะ เพื่อปกป้องให้ชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวยังอยู่ได้อย่างยั่งยืน
"เราเห็นข้อมูลตัวเลขว่าจังหวัดลำพูนมีตัวเลขรายได้การท่องเที่ยวที่เติบโตด้วยกลยุทธ์The Ultimate Lanna Experience Campaign ซึ่งลำพูนจะต้องเร่งชูจุดเด่นเหล่านี้ เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับการท่องเที่ยวล้านนาให้มากขึ้น" นางกอบกาญจน์กล่าว
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 17,500,409 คน ก่อให้เกิดรายได้ 884,939.39 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.27 และ 5.82 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น รายได้จากนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเกาหลี
นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบนโบายสำคัญคือ เร่งสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินเพราะเป็นเหตุผลสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและมักเกิดอุบัติเหตุทางทะเล คือ จีน ยุโรป และอเมริกัน จึงได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ พัฒนาแผน การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตของนักท่องเที่ยว เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีบุคลากรจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวม 200 คน ตำรวจท่องเที่ยว 1,700 นาย และอาสาสมัครทั่วประเทศราว 2,000 คน ประมาณร้อยละ 30 เป็นชาวต่างชาติ ทั้งนี้จึงได้มีการฝึกอบรมอยู่เสมอเพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้