MSN on July 04, 2017, 08:06:08 AM

ภาพรวมผู้บริหาร Breaker Save Rainforest


ภาพรวมผู้บริหาร Breaker Save Rainforest และอาสาสมัคร


ภาพรองเท้า Breaker Hornbill



สกู๊ปข่าวประชาสัมพันธ์ เบรกเกอร์ จับมือ มูลนิธิราชพฤกษ์ นำทีมอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ กว่า 40 ชีวิต ร่วมกิจกรรมปลูกป่า Breaker Save Rainforest ในโครงการฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำม่อนแจ่ม ม่อนล่อง จ.เชียงใหม่

ผ่านพ้นไปด้วยรอยยิ้มกับภารกิจดีต่อใจและดีต่อโลกกับกิจกรรมปลูกป่า Breaker Save Rainforest ที่มีโต้โผใหญ่ อย่าง บริษัท เอส.ซี.เอส.สปอร์ตสแวร์ จำกัด จากแบรนด์รองเท้าชื่อดัง เบรกเกอร์ ที่จับมือร่วมกับ มูลนิธิราชพฤกษ์ เข้าฟื้นฟูป่าต้นน้ำม่อนแจ่ม ม่อนล่อง จ.เชียงใหม่ โดยยกทีม อาสาสมัคร คนรุ่นใหม่กว่า 40 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยมุ่งเน้นการสร้างจิตสำนึกที่ดีของคนเมืองและคนรุ่นใหม่ ให้เห็นถึงความสำคัญของป่าไม้ต่อชีวิต และโลกของเรา ด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าในธรรมชาติที่ถูกต้องพร้อมตอบแทนอาสาสมัคร ด้วยการมอบรองเท้ารุ่นพิเศษ Breaker Hornbill ที่ทำขึ้นเฉพาะกิจเพียง 40 คู่ สำหรับอาสาสมัครที่เข้าร่วมกิจกรรม เท่านั้น โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ประธานมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์, ดร.สตีฟ เอลเลียต ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยฟื้นฟูป่า หรือ FORRU จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคุณภูเบศวร์ เมืองมูล หัวหน้าโครงการหลวงหนองหอย เข้าร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ม่อนแจ่ม-ม่องล่อง จ.เชียงใหม่


คุณวิษณุ วงศ์วีระนนท์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.ซี.เอส สปอร์ตสแวร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัท เอส.ซี.เอส.สปอร์ตสแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์เบรกเกอร์ ซึ่งถือเป็นแบรนด์รองเท้าของคนไทยที่มีอายุกว่า 42 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เพียงแต่ทำธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น แต่เรายังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยมุ่งเน้นการรวมพลัง ของคนรุ่นใหม่ในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องป่าไม้เป็นปัญหาที่ต้องได้ รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและต้องแก้ไขด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง”

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นในโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ม่อนแจ่ม ม่อนล่อง ในเขตอุทยานดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งที่ผ่านมาป่าในบริเวณนี้ถูกไฟป่าเผาไหม้เป็นประจำทุกปี ดังนั้นการฟื้นฟูป่าที่นี่จึงเป็นเรื่องจำเป็นและเร่งด่วนมาก จึงเกิดเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ คืนความหลากหลายทางชีวภาพให้กับพื้นที่ แห่งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการลงมือศึกษาพื้นที่และวิจัยพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ โดยมีการติดตามผล เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยมีชาวบ้านในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการหลักในการตัดหญ้า ใส่ปุ๋ยและเฝ้าระวังไฟ ทั้งนี้ทางเบรกเกอร์จึงได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้นเพื่อเป็นการปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นความสำคัญของการดูแลรักษา และฟื้นฟูป่าอย่างถูกวิธี ไม่ใช่เพียงการปลูกป่าเพียงคนละต้นสองต้น แล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน แต่มองที่การคืนป่าสู่ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน 

ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ประธานมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ กล่าวว่า “กว่า 30 ปีที่ทางมูลนิธิราชพฤกษ์ ทำหน้าที่ปลูกป่าทั้งป่าบกและป่าชายเลน ซึ่งแม้เราจะเป็นหน่วยงานเล็กๆ แต่เรามาพร้อมภารกิจที่ยิ่งใหญ่ด้วยความ ตั้งใจที่จะเห็น พื้นที่ป่าในประเทศไทยกลับมาเขียวชะอุ่มอีกครั้ง จนตอนนี้เราได้ทำการปลูกไปแล้วกว่า 20 ล้านต้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดความร่วมมือ จากหลายภาคส่วน ทั้งบริษัทเอกชนและอาสาสมัคร ทุกคนที่เต็มใจมาทำสิ่งดีๆ เพื่อโลกของเรา”

ดร.สตีฟ เอลเลียต ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่าแห่งนี้ เกิดขึ้นมาได้ด้วยความเชื่อที่ว่าป่าสามารถฟื้นฟูได้ ไม่ใช่ต้องนำต้นไม้เข้าไปปลูก อย่างเดียว ซึ่งในสมัยนั้นคนรอบตัวทุกคนมีความเชื่อที่ว่า ป่าที่นี่ไม่มีทางฟื้นฟูได้ จะทำได้มากที่สุดก็คงเป็นเพียง การนำต้นยูคาลิปตัสหรือต้นสนมาปลูกก็เท่านั้น แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้เราสามารถคืนระบบนิเวศและป่าที่สมบูรณ์ ให้ป่าแห่งนี้ได้แล้ว และในวันนี้เราได้มีการขยายพื้นที่และนำต้นกล้ามาปลูกเพิ่มอีกกว่า 3,000 ต้น รวมกว่า 21 สายพันธุ์ บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ พร้อมด้วยการ ฟื้นฟูป่าในพื้นที่ใกล้กันด้วยการนำเทคนิคการใช้กระดาษคลุมโคน ต้นไม้มาใช้ในการฟื้นฟูป่าในครั้งนี้ ซึ่งเทคนิคนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นเทคนิคที่ช่วยลด วัชพืชรอบๆ โคนต้นที่อาจเป็นอุปสรรคของการเจริญเติบโตของต้นกล้าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยป้องกัน ไม่ให้หญ้าขึ้นสูง ซึ่งการลดจำนวนหญ้าจะช่วยทำให้การเกิดไฟป่าน้อยลงอีกด้วย”

นอกจากนี้ ดร.สตีฟ ได้กล่าวถึงการฟื้นฟูป่า ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของโลกที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนโดยล่าสุด องค์การสหประชาชาติได้ประกาศถึงภาวะวิกฤติของโลกที่ต้องขอความร่วมมือจากประชากรทุกคนในการช่วยฟื้นฟูป่าไม้ โดยจะต้อง ฟื้นฟูป่าอย่างเร่งด่วนด้วยเป้าหมายคือ ขนาด 350,000 ล้านเอเคอร์ หรือ 1,800,000 ล้านไร่ หรือเทียบง่ายๆ คือขนาดของประเทศอินเดียหนึ่งประเทศ ภายในเวลา 13 ปี ซึ่งแน่นอนว่าด้วยภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน








และสำหรับผู้ที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครในครั้งนี้ ได้พูดถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “ผมเป็นหนึ่งในแฟนเพจของเบรกเกอร์และติดตามกิจกรรมดีๆ ของเบรกเกอร์มาโดยตลอด แต่ยังไม่มีโอกาสเข้า ร่วมมาก่อน จนมาถึงตอนนี้ผมได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมปลูกป่าในครั้งนี้ด้วย ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมาก เพราะได้มีโอกาสมารู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับการดูแลและรักษาป่าที่ถูกต้อง ที่สำคัญวันนี้ผมได้ชวนเพื่อนสนิท หลายคนมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย เพราะผมมีความเชื่อที่ว่า ถ้ามาคนเดียว เราก็ได้เห็นภาพพื้นที่ป่าแค่คนเดียว แต่ถ้าเราชวนเพื่อนมาพวกเขาจะได้เห็นภาพแบบเดียวกัน รอบนี้ถ้ากลับบ้านไปจะเอาสิ่งดีๆ เหล่านี้ และเอาความรู้ที่เกี่ยวกับการปลูกป่าที่ถูกวิธีไปบอกเล่าต่อไป” ธนวัฒน์ สุขสิน ตัวแทนอาสาสมัครที่เข้าร่วมกิจกรรมกล่าว

นี่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำใจของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมใจมาร่วมปลูกป่าในครั้งนี้กันอย่างอบอุ่น และเพื่อตอบแทนความตั้งใจดี เบรกเกอร์จึงได้นำรองเท้ารุ่น Breaker Hornbill ที่มาในดีไซน์สุดพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อมอบให้แก่อาสาสมัครทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม สามารถติดตามกิจกรรมดีๆ และรองเท้ารุ่นต่อไปจากเบรกเกอร์ได้เร็วๆ นี้
« Last Edit: July 04, 2017, 02:26:39 PM by MSN »