เสริมทักษะการอ่านของเด็กให้แตกฉาน พร้อมสอดแทรกธรรมะเพื่อการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข ด้วยแบบฝึกอ่านชุด “อ่านออก อ่านได้ อ่านเป็น”
ปฎิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆก็คงหนีไม่พ้นเด็กในช่วงเริ่มเรียนรู้ ที่ผู้ใหญ่อาจเผลอปล่อยให้อยู่กับหน้าจอ จนเบียดบังกิจกรรมที่ครอบครัวเคยทำร่วมกันทั้งการปฏิสัมพันธ์ละการอ่านหนังสือ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลกระทบต่อเนื่องตามมาเมื่อถึงวัยที่เข้าสู่ระบบการศึกษา ซึ่งต้องอาศัยการอ่าน ทำความเข้าใจ วิเคราะห์ และสังเคราะห์ ตามที่ปรากฎในการสอบ PISA ซึ่งนักวิชาการหลายท่านวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่คะแนนของเด็กไทยตกต่ำ สาเหตุหลักมาจากการอ่านโจทย์หรือข้อคำถามไม่เข้าใจ ทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ และเมื่อดูสถิติการอ่านออกเขียนได้ของไทยทำให้น่าตกใจ เพราะยังมีเด็กที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้เป็นจำนวนมาก
จากหลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้เราเริ่มมองย้อนกลับมา เพื่อแก้ปัญหาการอ่านตั้งแต่ในช่วงเริ่มเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่ที่ลูกกำลังประสบปัญหาด้านการอ่าน จำเป็นต้องเจาะให้ได้ว่าลูกติดขัดปัญหาตรงไหน เพื่อจะแก้ไขได้ตรงจุด หรือหากต้องการเสริมให้ลูกอ่านออกได้เร็วจะต้องทำอย่างไร สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ จึงได้จัดพิมพ์หนังสือชุด "อ่านออก อ่านได้ อ่านแป็น" ที่เขียนและเรียบเรียงโดย รศ.ดร.มณีรัตน์ สุกโชติรัตน์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการอ่าน และอาจารย์ประจำภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์วิทยาลัย ผู้มีประสบการณ์การเรียนการสอนและสัมผัสกับปัญหาของเด็กวัยเรียนมายาวนาน จึงทราบถึงต้นตอของปัญหาการอ่านของเด็กส่วนใหญ่ และนำปัญหาดังกล่าว มาเป็นแนวคิดในการเขียนหนังสือชุดนี้
รศ.ดร.มณีรัตน์ สุกโชติรัตน์ ผู้เขียน ได้กล่าวว่า "ตนเองมีประสบการณ์การสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตลอดจนระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะการสอนการอ่านและงานวิจัยทางการอ่าน สำหรับนักเรียนโดยเฉพาะระดับประถมศึกษา พบว่ายังขาดประสิทธิภาพทางการอ่าน อาทิ การแยกความแตกต่างของพยัญชนะที่มีลักษณะคล้ายกันไม่ได้ เช่น ก ถ ภ,ข ช ซ, ฎ ฏ เป็นต้น หรือเมื่ออ่านบทอ่านที่มาเนื้อหายาว สลับซับซ้อน และแม้เป็นข้อคำถาม ก็จับใจความไม่ได้วิเคราะห์ไม่เป็น ส่งผลให้ทำข้อสอบไม่ได้ ดิฉันจึงได้วางรูปแบบที่แตกต่างจากการสอนแบบเดิม โดยตั้งปัญหาเป็นหลักแล้วสอนด้วยหลักการแก้ปัญหา วางรูปแบบเนื้อหาให้อ่านง่าย สำหรับเล่มพื้นฐาน 1-3 ได้แบ่งแยกออกเป็นสัดส่วน เพื่อให้ได้รู้จักสังเกต เช่น ให้เด็กดูรูปภาพ สังเกตความแตกต่าง พ่อแม่ ครู ก็ออกเสียงไปด้วย เด็กจะได้ทั้งการมองเห็น ได้ยิน และอ่านตามไปด้วย"
ด้าน คุณปิติกานต์ สังขพันธ์ คุณแม่ ด.ญ. ญดา สังขพันธ์ อายุ 5 ขวบ ที่ได้ใช้หนังสือชุดดังกล่าวแล้ว เปิดเผยว่า "ดิฉันไม่ได้ถนัดหลักวิชาภาษาไทยมากนัก แต่ด้วยต้องสอนลูก จึงหาสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับลูก ในขณะที่ตัวเองก็ได้เรียนรู้ไปด้วย ปกติจะเห็นหนังสือฝึกเขียน ฝึกอ่านคำภาษาไทยทั่วไป ซึ่งไม่ได้ฝึกให้สังเกตโครงสร้างของคำหรือเรียนรู้ลักษณะคำ แต่ที่เลือกซื้อหนังสือชุดอ่านออกอ่านได้นี้ เพราะช่วยฝึกให้น้องญดาได้ฝึกสังเกตโครงการของคำ ว่าคำมีตัวสะกดเป็นอย่างไร คำไม่มีตัวสะกดเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจซื้อมา เพราะตนเองพบว่าเป็นหนังสือที่เหมาะกับเด็กมาก เนื่องจากเริ่มเรียนรู้จากพยัญชนะ 44 ตัว พยัญชนะที่มีรูปและเสียงลักษณะที่คล้ายกัน รู้จักสระ สระตัวไหนเสียงสั้น สระตัวไหนเสียงยาว คำที่ไม่มีตัวสะกดและคำที่มีตัวสะกดเป็นอย่างไรแตกต่างกันอย่างไร เริ่มเรียนรู้จากคำง่ายๆ มีการแจกรูปและอธิบายอย่างเข้าใจ เปรียบเทียบความแตกต่างให้เห็น ซึ่งไม่ยากเลย เหมาะสำหรับเด็กมาก แต่ละหน้ามีสีสันตัวการ์ตูนที่ช่วยดึงความสนใจเด็กได้อย่างดี ซึ่งดิฉันเห็นว่าหนังสือชุดนี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีต่อพัฒนาการด้านการใช้ภาษาไทยในอนาคตของลูกได้"
แบบฝึกอ่านชุด "อ่านออก อ่านได้ อ่านเป็น" นี้ ประกอบด้วย 5 เล่ม โดยเรียงตามลำดับ เริ่มจากเล่มที่ 1 คำไม่มีตัวสะกดเริ่มต้นให้เด็กรู้จักพยัญชนะทั้ง 44 ตัว และกลุ่มพยัญชนะที่คล้ายกัน สระเสียงสั้นเสียงยาว 32 เสียง และการอ่านคำที่ไม่มีตัวสะกดในบทอ่านสั้นๆ จนสามารถอ่านคำที่ไม่มีตัวสะกดได้คล่อง เล่มที่สอง คำมีตัวสะกด ทบทวน พยัญชนะที่คล้ายกัน สระ วรรณยุกต์และเครื่องหมายอื่นๆ จากนั้นเริ่มฝึกอ่านคำมีตัวสะกดทั้งแบบพยัญชนะต้น 1 ตัวและ 2 ตัว ฝึกสังเกตรูปคำและวิธีเขียน ฝึกอ่านคำแบบแจกลูก คำตรงข้าม ทบทวนซ้ำด้วยการอ่านเรื่องและตอบคำถาม จากนั้นพัฒนาไปสู่การอ่านที่ซับซ้อนขึ้นในเล่มที่สาม เข้าใจคำศัพท์ คำที่มีอักษรควบ ตัวสะกด เรียนรู้อักษรสูง กลาง ต่ำ การใช้พจนานุกรม เล่มที่ 4 ฝึกจับใจความ เป็นการเรียนรู้ผ่านนิทาน 3 เรื่อง พร้อมคำถามชวนคิดและแนวคำตอบ ที่ฝึกให้เด็กได้ฝึกจับใจความ วิเคราะห์ และคิดต่อยอด เล่มที่ 5 ร้อยกรองสอนคิด เรียนรู้ผ่านการอ่านบทร้อยกรอง มาตราตัวสะกด 9 แม่ พร้อมฝึกจับใจความและวิเคราะห์
นอกจากนี้ เนื้อหารวมทั้งคำถามคำตอบภายในเล่มที่ 4 และ 5 ผู้เขียนได้สอดแทรกหลักธรรมะโดยเน้นเรื่องอริยสัจ 4และคุณธรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันซึ่งจะช่วยปลูกฝังให้เด็กรู้จักวิธีการแก้ปัญหา เพื่อดับทุกข์ในอันที่จะสามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอีกด้วย
ผู้เขียนยังได้แนะนำเพิ่มเติมอีกว่า "ประการสำคัญที่ขาดไม่ได้คือการจัดบรรยากาศในการเรียนรู้ ไม่ว่าผู้สอนจะเป็นพ่อแม่หรือครูควรคำนึงถึงการสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน เนื่องจากแบบฝึกอ่านชุด "อ่านออก อ่านได้ อ่านเป็น" นี้ เป็นแบบฝึกที่บูรณาการทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน รวมทั้งการคิดอย่างหลากหลาย ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดประสิทธิผลถึงความฉลาดทางสติปัญญา(IQ) ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) และความฉลาดทางคุณธรรม (MQ) ไปพร้อมๆ กันอันจะนำไปสู่ความสำเร็จในการนำความรู้ไปใช้ ตลอดจนการแก้ปัญหาในชีวิต ทำให้สามารถดำรงอยู่ในสังคมได้โดยปราศจากความทุกข์ใจนั่นเอง"
อย่างไรก็ตาม นอกจากคุณพ่อคุณแม่ รวมไปถึงคุณครูที่ใช้แบบฝึกอ่านชุดนี้แล้ว ควรใช้หนังสืออื่นๆประกอบการอ่านเสริมควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น เด็กเล็กที่กำลังฝึกอ่าน เลือกเป็นหนังสือนิทานที่เน้นภาพ มีตัวหนังสือไม่มาก เช่น ชุดมะลิกับไมโล ชุดถ้วยฟู เด็กที่โตขึ้นมาหน่อยเริ่มอ่านได้แล้วอยู่ในระดับประถมต้นถึงปลาย ให้เสริมด้วยการอ่านหนังสือที่มีตัวหนังสือมากขึ้นแต่ยังเน้นภาพประกอบ เช่น หนังสือการ์ตูนความรู้ หรือเด็กในระดับประถมปลายจนถึงมัธยม ก็สามาถรถเริ่มอ่านนวนิยายเยาวชนที่ไม่หนาจนเกินไป เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน เช่น นวนิยายรางวัลแว่นแก้ว หรือเพิ่มความท้าทายด้วยการอ่านนวนิยายชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึงแม้จะเล่มหนา แต่เชื่อว่าเมื่อเด็กอ่านจะวางไม่ลง นับว่าเป็นหนังสือที่ช่วยส่งเสริมและปลูกฝังให้เด็กรักการอ่านได้อย่างดี
สำหรับผู้ที่สนใจแบบฝึกอ่านชุด "อ่านออก อ่านได้ อ่านเป็น" มีจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านทาง
www.nanmeebooks.com โทร 0-2662-3000 กด 1