news on June 26, 2017, 03:54:19 PM
อีริคสันเผยรายงาน Mobility Report คาดภายในปี 2565 เทคโนโลยี LTE ในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นถึงสี่เท่า
• จำนวนผู้สมัครใช้งาน LTE ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์เกือบ 30 ล้านรายภายในปี 2560
• คาดว่าจำนวนผู้สมัครใช้งาน LTE ในระหว่างปี 2559-2565 จะเติบโตขึ้นถึงสี่เท่า
• การใช้งาน LTE จะถูกขับเคลื่อนด้วยอุปกรณ์สื่อสารในราคาที่สมเหตุสมผล และแอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาด้วยคนไทยและต่างชาติ รวมถึงความต้องการที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของผู้ใช้งาน และความเร็วของโครงข่าย
• การขยายพื้นที่การให้บริการของ LTE ให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง จะเพิ่มศักยภาพในการทำให้เกิด IoT City จำนวนมาก เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของดิจิทัลประเทศไทยอย่างแท้จริงอีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เผยรายงาน Mobility Report ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่าจำนวนผู้สมัครใช้งาน LTE ในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประสิทธิภาพการใช้งานของโครงข่ายยังคงเป็นส่วนสำคัญของยุคดิจิทัลในประเทศไทย
ภายในปี 2565 LTE จะมีสัดส่วนประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยในปี 2559 มีผู้สมัครใช้งาน LTE ในประเทศไทยสูงถึงเกือบ 20 ล้านราย หรือเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นสามเท่าเมื่อเทียบกับปี 2558 และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้งาน LTE ในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท่าระหว่างปี 2559 และปี 2560
ความต้องการที่จะปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้บริการ รวมถึงอุปกรณ์ที่ดึงดูดความสนใจ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ล้วนมีส่วนผลักดันให้เกิดการใช้งาน LTE โดยประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 ของภูมิภาคที่มีการใช้งานแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการบริการด้านการเงิน การบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ดูถ่ายทอดสด โซเชียล การเดินทาง แอพพลิเคชั่น โปรโมชั่น รวมถึงคอนเท็นท์ใหม่ๆ มีความสำคัญต่อการเติบโตของ Mobile broadband ในประเทศไทย
ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายรายต้องเผชิญกับตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสูง และแรงกดดันด้านเทคนิคที่จะยกระดับการให้บริการของตนเอง ในการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายนั้นต้องทำการพัฒนาระบบซอฟท์แวร์แอพพลิเคชั่นและพัฒนาโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพเพื่อการให้บริการขั้นสูงสุด พร้อมทั้งใช้เทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อช่วยเร่งพัฒนาคุณภาพโครงข่ายและประสบการณ์การใช้งาน โดยการให้ผู้ประกอบใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการยกระดับคุณภาพโครงข่ายให้แก่ผู้บริโภค แต่ยังเป็นการขยายปริมาณความต้องการการใช้ข้อมูลอีกด้วย
คุณนาดีน อัลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การขยายโครงข่ายการให้บริการ LTE ให้ครอบคลุมพื้นที่ จะเป็นการเปิดทางสำหรับการใช้งานโครงข่ายที่กว้างขึ้นอย่าง Cat-M1/NB-IoT ที่จะสามารถทำให้เกิดการพัฒนาไปสู่ IoT City ได้อย่างมากด้วยศักยภาพในการเชื่อมต่อสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ของอุปกรณ์ IoT ที่ใช้โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการเชื่อมต่อ ด้วยการทำงานร่วมกันของกลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกทั้งรัฐบาลไทยจะสามารถยังผลประโยชน์มากมายให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของดิจิทัลประเทศไทยอย่างแท้จริง ในขณะที่ LTE ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย การเริ่มวางแผนแนะนำเทคโนโลยี 5G ก็มีความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคและธุรกิจทั้งหลายในประเทศไทยจะสามารถใช้ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่”
ทั้งนี้รายงาน Mobility Report ยังนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการคาดการณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้านการสื่อสาร ผู้สมัครใช้งานและพฤติกรรมผู้บริโภค รวมไปถึงในตลาดที่มีการพัฒนา พร้อมตัวอย่าง Mobile broadband ที่ดีที่สุดในโลก ตลอดจนความก้าวหน้าที่หลากหลายของการนำ LTE ไปใช้ที่จะทำให้คุณภาพของการบริการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ericsson.com/en/mobility-report
สำหรับบรรณาธิการ
หากต้องการข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน ข้อมูลบริษัท หรือภาพความละเอียดสูง กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.ericsson.com/press
หรือติดตามข่าวสารได้ที่
www.twitter.com/ericssonpress
www.facebook.com/ericsson www.linkedin.com/company/ericsson
www.youtube.com/ericsson สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ดลพร ศรลัมพ์
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร
เบอร์ติดต่อ +662 821 7127
เบอร์มือถือ +66 97 297 5394
อีเมล์ dolaporn.saralamba@ericsson.com
อีริคสันเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและบริการต่างๆ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2419 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญกว่า 111,000 คน ให้บริการลูกค้าใน 180 ประเทศ ด้วยนวัตกรรมโซลูชั่น อีริคสันสร้างอนาคตให้ทุกคน ทุกอุตสาหกรรม สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด ยอดขายสุทธิของอีริคสันในปี พ.ศ. 2559 มีมูลค่า 222.6 พันล้านโครเนอร์สวีเดนหรือประมาณ 24.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ อีริคสันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในกรุงสต็อกโฮล์ม และใน NASDAQ กรุงนิวยอร์ค ติดตามข้อมูลข่าวสารของอีริคสันได้ที่ www.ericsson.com
« Last Edit: June 27, 2017, 09:14:49 AM by news »
Logged