คาร์พูล ประกันภัยรถยนต์แนวคิดใหม่ สายอินชัวรันส์ เทค สตาร์ทอัพ เปิดตัวแนะนำ

คาร์พูล ประกันภัยรถยนต์แนวคิดใหม่ สายอินชัวรันส์ เทค สตาร์ทอัพ เปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “Carpool ขับดี มีเงินคืน” สำหรับคนขับดี

•   ประกันภัยรถยนต์แบบ เพียร์-ทู-เพียร์ (Peer-to-Peer) รายแรกในเอเชีย
•   คืนเงินสูงสุด 30% สำหรับผู้ที่ขับรถดี พร้อมรับส่วนลดประวัติดีสูงสุด 50%
•   ย้ำคาร์พูลพลิกโฉมธุรกิจประกันภัยรถยนต์ เพิ่มลูกค้าขับรถดีในพอร์ทและช่วยเพิ่มกำไรให้บริษัทประกัน ในขณะส่งเสริมสังคมผู้ขับรถดี เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนโดยรวม











บริษัท คาร์พูล อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หรือ คาร์พูล (Carpool) ประกันภัยรถยนต์แนวคิดใหม่ล่าสุด สายอินชัวรันส์ เทค สตาร์ทอัพ เปิดตัวบริษัทฯ พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “Carpool ขับดีมีเงินคืน” ซึ่งเป็นประกันภัยแบบเพียร์-ทู-เพียร์ (Peer-to-Peer) สัญชาติไทยรายแรกในภูมิภาคเอเชีย ตอบโจทย์ทั้งผู้เอาประกัน ธุรกิจประกัน และสังคมด้านความปลอดภัยบนท้องถนน จับมือกับบริษัทเมืองไทยประกันภัยเป็นผู้ให้บริการประกันภัยรูปแบบใหม่นี้เป็นรายแรก เชื่อมั่นตลาดประกันภัยรถยนต์ปี 2560 มีแนวโน้มเติบโตตามตลาดรถยนต์รวม ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการครบกำหนด 5 ปีโครงการรถยนต์คันแรก ที่จะส่งผลให้มีความต้องการเปลี่ยนหรือออกรถใหม่ของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ

นายเอศ ศิริวัลลภ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท คาร์พูล อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หรือ คาร์พูล (Carpool) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์แนวคิดใหม่แบบเพียร์-ทู-เพียร์ (Peer-to-Peer) ซึ่งคาร์พูลเป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้ความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาจากการเข้าใจความรู้สึกของผู้เอาประกันที่คิดว่าทำไมต้องจ่ายเบี้ยแพงทุกปี ทั้งที่ก็ขับรถดีไม่ประมาท ไม่มีประวัติการเคลมประกัน ซึ่งจากข้อมูลในธุรกิจประกันภัยรถยนต์พบว่า  90% ของผู้เอาประกันเป็นผู้ขับขี่ปกติที่ใช้รถทั่วไป ในขณะที่มีเพียง 10% เป็นผู้ขับรถประมาทที่บริษัทประกันต้องจ่ายค่าเคลมเกินค่าเบี้ยที่กลุ่มนี้จ่ายไปถึง 3 เท่าตัวทุกปี

หลังจากที่เห็นข้อมูลดังกล่าว ทำให้คาร์พูลพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันรูปแบบใหม่ ที่ช่วยให้คนขับรถดี ไม่มีการเคลมได้รับส่วนลดประวัติดี พร้อมรับเพิ่มเงินคืนไปสูงสุดถึง 30% ด้วยแนวคิดประกันภัยรถยนต์แบบเพียร์-ทู-เพียร์ (Peer-to-Peer) สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ เพราะคาร์พูลให้ผู้เอาประกันภัยช่วยคัดกรอง แยกแยะแต่ผู้ขับรถดี โดยไม่รวมผู้ขับรถประมาทเข้าร่วมกลุ่ม เพื่อร่วมแชร์ความเสี่ยงค่าเคลม ที่อาจจะเกิดขึ้น วิธีการนี้จะช่วยให้บริษัทประกันประหยัดค่าเคลมและสามารถนำเงินส่วนนี้คืนให้กับผู้เอาประกันภัย

และนอกจากจะได้เงินคืนสูงสุด 30% ของค่าเบี้ยประกันทุกปี ลูกค้าคาร์พูลยังได้ความคุ้มครองแบบชั้น 1 ที่รับประกันภัยโดยบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของประเทศ ยังได้รับความคุ้มครองเพิ่มฟรี ค่าชดเชยรักษาพยาบาลผู้ป่วยในสูงสุด 3,000 บาทต่ออุบัติเหตุ และค่าเดินทางระหว่างซ่อมรถ 3,000 บาท รวมทั้งส่วนลดประวัติดี 20- 50% เมื่อต่ออายุประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 กับคาร์พูลในปีถัดไป

นายเอศ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “Carpool ขับดีมีเงินคืน” ว่า “คาร์พูล เป็นบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยที่คิดค้น “ขับดีมีเงินคืนสูงสุด 30%” เป็นการก้าวข้ามสิ่งที่เคยเป็นข้อจำกัดของธุรกิจประกันภัย ช่วยให้บริษัทประกันลดค่าใช้จ่ายจากค่าเคลมและสามารถคืนผลประโยชน์กลับคืนผู้บริโภค อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและช่วยสร้างกลุ่มผู้ขับรถดีให้มีเพิ่มมากขึ้นในสังคม นับเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุ รวมทั้งลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินบนท้องถนนให้น้อยลง ส่งผลช่วยยกระดับคุณภาพการจราจรบนท้องถนน และคุณภาพชีวิตโดยรวมให้ดีขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย”

ทั้งนี้ นายเอศ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ตลาดประกันภัยรถยนต์ปัจจุบันมีขนาดตลาดมากกว่า 1 แสนล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 1.38%  สำหรับปี 2560 คาดการ์ณว่าจะมีแนวโน้มที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากปัจจัยบวกการครบกำหนด 5 ปีของโครงการรถยนต์คันแรก โดยคาร์พูลจะเติบโตตามตลาดและตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าสมัครใช้ “Carpool ขับดี มีเงินคืน” ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 600-1,000 กลุ่ม คิดเป็นสมาชิกทั้งสิ้น 6,000 คน มูลค่ากรมธรรม์รวม 100 ล้านบาท”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Carpool ขับดีมีเงินคืนสูงสุด 30% www.carpool.co.th

คุณเอศ ศิริวัลลภ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ Carpool บริษัท คาร์พูล อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด







คุณเอศ ศิริวัลลภ มีประสบการณ์การทำงานกว่า 22 ปี ด้านการเงิน และการให้คำปรึกษาด้านการบริหาร ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำ คุณเอศได้ทำงานกับผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งกรรมการบริหารบริษัทไทย และผู้นำในตลาดเอเชีย ด้านธุรกิจประกัน การเงิน การธนาคาร สินค้าอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ภาพรวมทางธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจใหม่
ในช่วงที่ทำงานด้านการบริหารการเงิน คุณเอศเป็นส่วนหนึ่งของทีมหลักที่ Citibank ในการพัฒนาธุรกิจธุรกรรมการเงินเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซี่งธนาคารพาณิชย์เกือบทั้งหมดในประเทศได้นำไปให้บริการในปัจจุบัน จากนั้น คุณเอศได้ดำรงตำแหน่งเป็น Executive Vice President ที่ธนาคารทหารไทย หรือ TMB และได้บริหารงานจนยอดการทำธุรกรรมของธนาคารและบริการบริษัทการเงินและสินเชื่อซัพพลายเชนของธนาคาร ทั้งกลุ่มลูกค้าบรรษัทและลูกค้าเอสเอ็มอีเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ต่อปี
นอกจากความรับผิดชอบในการงานดังกล่าวแล้ว คุณเอศยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการอิสระให้กับ บมจ.ภัทรลีสซิ่ง  อีกด้วย 

ประวัติด้านการทำงาน   

พ.ศ. 2559 – ปัจจุบัน         บริษัท คาร์พูล อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
         ผู้ก่อตั้งและกรรมการ Carpool

พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2558   ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB)
- ดำรงตำแหน่ง Executive Vice President, Head of Domestic Transaction Banking Group
- รับผิดชอบการบริการงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การขาย และช่องทางสำหรับลูกค้าบรรษัทและเอสเอ็มอี โดยสามารถสร้างยอดเงินฝากให้เติบโต 23% ในช่วง พ.ศ.2557-2558 สร้างรายได้ให้สินเชื่อซัพพลายเชนเติบโต 5 ในช่วงระยะเวลา 4 ปี
- ได้รับรางวัล Asian Banker 2015 awards สาขา “Most improved Transaction
  Bank in Asia Pacific” และ “Best Supply Chain Project in Thailand”

พ.ศ. 2547 – พ.ศ. 2554   บริษัท แคลริส จำกัด (Claris)    
- ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารชั้นนำในประเทศไทย
- ทำงานให้กับสถาบันการเงินชั้นนำ ธุรกิจรีเทล บริษัทเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาความได้เปรียบทางกลยุทธ์และมองหาโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ ๆ
- ผลงานสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาวิธีการใหม่ในการอนุมัติสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอี ซี่งช่วยให้หนึ่งในสามธนาคารผู้นำ กลายมาเป็นผู้นำในตลาดดังกล่าว, การพัฒนาธุรกิจใหม่ในวงการประกันผ่านผู้ค้าปลีกและกลุ่มโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และการกำหนดแผนกลยุทธ์ 10 ปี ที่ช่วยให้บริษัทประกันชีวิตรายใหญ่รายหนึ่งในประเทศขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด

พ.ศ. 2543 – พ.ศ. 2546   บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ประเทศไทย) จำกัด) (BCG)
- รับผิดชอบเป็นผู้บริหาร 15 โครงการในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน
- มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านกลยุทธ์ธนาคารเพื่อองค์กรและเพื่อผู้บริโภค (Consumer and Corporate Banking), การบริหาร
   ความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM), และการบริหารความเสี่ยง

พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2542    ธนาคารซิตี้แบงค์ ประเทศไทย (Citi)
- เป็น Assistant Vice President ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ Citibank ด้วยวัยเพียง 23 ปี
- ร่วมงานในส่วนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เริ่มธุรกิจบริหารเงินสดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

ประวัติการศึกษา
- ปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ (BSME) จากมหาวิทยาลัย Tufts ซึ่งติดอันดับที่ 18 ของมหาวิทยาลัยที่นิตยสาร Forbes จัดอันดับรายชื่อ “มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในอเมริกา”
- BCG Business Essential Program หลักสูตรเข้มข้น1 เดือนที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดของ หลักสูตร MBA
- IOD Director Certification Program หลักสูตรสำหรับกรรมการบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)