happy on May 28, 2017, 07:23:50 PM

พี.เอฟ.พี. ไม่หวั่นเศรษฐกิจซบ รุกขยายตลาดในต่างประเทศและตลาดฮาลาล
พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ตั้งเป้าโต 10%


                    พี.เอฟ.พี. ไม่หวั่นปัญหาเศรษฐกิจโลก พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมพุ่งเป้าในตลาดในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตลาดในประเทศจีน และตลาดฮาลาล เพื่อย้ำความเป็นผู้นำตลาดในด้านอาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง ด้วยจุดเด่นในการรักษามาตรฐานในการผลิตและการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ รวมถึงเครื่องมือในการผลิตที่ทันสมัย


นายทวี ปิยะพัฒนา

                    นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. กล่าวถึงภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปว่า สถานการณ์การส่งออกโดยรวมในปี 2560 ของไทยเรามีแนวโน้มขยายตัวเป็นบวกเมื่อเทียบกับปี 2559 เนื่องด้วยค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอาหารมีแนวโน้มเติบโตขึ้น พร้อมทั้งภาครัฐมีแนวโน้มในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้น

                    ในปี 2560  คาดการณ์กันไว้ว่า อุตสาหกรรมการส่งออกอาหารโดยรวมของประเทศไทยน่าจะอยู่ประมาณ 27.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่าการขยายตัวจากปี 2559 ร้อยละ 4.0 โดยในส่วนของ พี.เอฟ.พี. เราก็เป็นส่วนหนึ่งของตลาดอาหารเช่นกัน คาดว่า ปีนี้น่าจะเติบโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 10-15%

                    ทั้งนี้ การเติบโตของ พี.เอฟ.พี. เนื่องมาจาก พี.เอฟ.พี. เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีเครื่องจักรที่ทันสมัยในการผลิต สำหรับในประเทศไทยและตลาดโลก แบรนด์ของ พี.เอฟ.พี. ก็ติดตลาดมาเป็นเวลานาน ลูกค้าต่างมีความเชื่อมั่น ไว้วางใจในแบรนด์ ซึ่งใน2-3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมต่าง ๆ โดนผลกระทบจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ส และการบริโภคที่เปลี่ยนไปโดยมุ่งสู่ธุรกิจดิจิตอลมากขึ้นทำให้หลายอุตสาหกรรมถึงกับต้องปิดตัวไปหลายเจ้า ดังนั้นทุกบริษัทควรจะตื่นตัวกับสื่อดิจิตอลที่เกิดขึ้น เพื่อพัฒนารูปแบบการสื่อสารกับผู้บริโภคให้สอดคล้องกับความต้องการ

                    สำหรับ พี.เอฟ.พี. มีการปรับตัวมาโดยตลอด กล่าวได้ว่า ณ ปัจจุบันเครื่องจักรที่ พี.เอฟ.พี. ใช้ในการผลิตถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้ ทำให้การป้อนตลาด และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ พี.เอฟ.พี. ไม่มีปัญหา ไม่ว่าตลาดในประเทศหรือต่างประเทศจะเติบโตเพียงใด ก็สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการของตลาด










                    โดยเฉพาะเต้าหู้ปลา ซึ่งถือว่า พี.เอฟ.พี. คือเจ้าแรกของตลาดโลก ได้รับการตอบรับที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และเพื่อให้ตลาดเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง ในสิ้นเดือนนี้ พี.เอฟ.พี. ยังจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ

1. Retort ต้มยำซีฟู้ดส์,คั่วกลิ้งปลา,กะเพราปลา

2. ไส้กรอกปลารมควัน ไส้กรอกปลากระเทียม

3. โบโลน่าการ์ลิคเปปเปอร์ โบโลน่าพริก โบโลน่าชีส

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ จะเปิดตัวเป็นทางการในงาน THAIFEX 2017 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน 2560 ณ อาคารแสดงสินค้าชาแลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี ซึ่งทุกท่านสามารถไปชิมหรือทดสอบรสชาติได้ที่บูธของ พี.เอฟ.พี.


รุกตลาดจีน

                    สำหรับการเปิดตลาดไปที่ประเทศจีนนั้น พี.เอฟ.พี. ได้ทำตลาดมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งก็มีจังหวะและโอกาสขยายไปได้เรื่อย ๆ โดยพื้นที่หลัก ๆ ที่ผ่านมาจะอยู่ทางตอนใต้ในมณฑลกวางโจว เช่น เซี๊ยะเหมิน ซัวเถา รวมไปถึงตลาดฮ่องกงด้วย ซึ่งแนวโน้มน่าจะเติบโตขึ้น โดย พี.เอฟ.พี. จะขยายตัวไปให้มากที่สุด เนื่องจากจีนมีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่ที่เมืองซินเจียง หนิงเซียะ และซีอันอีก รวมแล้วกว่า 40 ล้านคน คาดว่าในปี 2560นี้ ในส่วนตลาดจีน พี.เอฟ.พี. ตั้งเป้าไว้ประมาณ 400 กว่าล้านบาท

บุกตลาดฮาลาล

                    ด้วยตลาดฮาลาลเป็นตลาดที่ใหญ่ ประชากรรวมกว่า 1,600ล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในอาเซียนมีถึง 300 ล้านคน โดยอินโดนีเซียนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด พี.เอฟ.พี. ได้เปรียบจากคู่แข่งเนื่องจากได้รับเครื่องหมายฮาลาลมาตั้งแต่ปี 1998 จึงทำให้สามารถทำตลาดกับกลุ่มบริโภคกลุ่มนี้ได้ง่าย

                    ตลาดหลักฮาลาลของ พี.เอฟ.พี. ได้แก่ มาเลเซีย บรูไน และ อินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางอีกด้วย โดยตัวเลขส่งออกของบริษัทที่ไปประเทศกลุ่มมุสลิมนี้เราคาดการณ์ว่าน่าจะมากกว่า120ล้านบาท ซึ่งตัวเลขบวกลบนั้น ก็ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ต่อไป

คุณภาพของสินค้า

                    ในเรื่องคุณภาพของสินค้านั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญมาก ผลิตภัณฑ์ พี.เอฟ.พี. ใส่ใจในการผลิตและรักษามาตรฐาน ซึ่งการผลิตสินค้าเราใช้เนื้อปลา 98% ขณะที่เจ้าอื่นจะอยู่ในราว 75-80%  พี.เอฟ.พี. อยู่ในตลาดนี้นับปี 2560 นี้ก็เป็นปีที่ 31 แล้ว ลูกค้าหรือคู่ค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพสินค้าเราได้ และไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนวัตถุดิบ รวมถึงกระบวนการผลิตเราเข้มงวดมาก บางเจ้าล้างเพียงน้ำเดียวเพื่อประหยัด แต่ของ พี.เอฟ.พี. ล้าง 2 หรือ 3 น้ำ ฉะนั้น เรื่องสีเรื่องกลิ่นคาวกลิ่นเลือด พวกล้างน้ำเดียวก็จะมีกลิ่นคาว แต่ของ พี.เอฟ.พี.นั้น ให้ไปพิสูจน์ในตู้แช่ได้เลย

กลยุทธ์ความสำเร็จ

                    นายทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า “ที่ พี.เอฟ.พี. มีวันนี้ได้เพราะยึดมั่นใน หนึ่ง คุณภาพของสินค้าและการผลิตต้องได้มาตรฐานโลก, สอง เรามีพันธมิตรหรือลูกค้าที่เหนียวแน่น มั่นคง แล้วก็ยังให้ความไว้วางใจอยู่จนถึงปัจจุบัน, สาม เราส่งเสริมลูกค้า คอยช่วยเหลือเขา ด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์แจกแถมต่าง ๆ และช่วยด้านการตลาดมาอย่างดีและต่อเนื่อง ที่สำคัญ จะไม่ไปเปิดร้านแข่งกับลูกค้าเราเด็ดขาด “ลูกค้าของ พี.เอฟ.พี.ต้องมีกำไร” รวมถึงร้านอาหารมีชื่ออีกหลายแห่งที่ยังเหนี่ยวแน่นใช้ผลิตภัณฑ์ของพี.เอฟ.พี.มาจนวันนี้และต่อ ๆ ไป ซึ่งในนามของกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ก็ต้องขอขอบพระคุณลูกค้าและคู่ค้าทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย อย่างไร ก็ดี อย่าลืมไปพบกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม พี.เอฟ.พี. เชิญร่วมชมบูธ และชิมเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ทำจากผลิตภัณฑ์ของ พี.เอฟ.พี. ได้ที่งาน THAIFEX 2017 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน 2560 ณ อาคารแสดงสินค้าชาแลนเจอร์ 2 นี้ด้วยนะครับ”

หมายเหตุ IUU  ย่อมาจาก Illegal Unreported and Unregulated Fishing หมายถึง การประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม โดย EU หรือสหภาพยุโรป ได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำประมงเพื่อให้ปลาที่นำไปขายในสหภาพยุโรปต้องถูกจับโดยกระบวนการที่ถูกต้องอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูป

####

ข้อมูลบริษัท

                    กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี เป็นกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็งจากปลาทะเลครบวงจร ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงที่ทำจากเนื้อปลาบดแช่แข็งในหลากหลายรูปแบบ โดยบริษัทฯได้ก่อตั้ง บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด เมื่อปี พ.ศ.2527 ซึ่งในระยะเริ่มต้นบริษัทฯ ผลิต เนื้อปลาบดแช่แข็ง หรือซูริมิ (Surimi) เพื่อการส่งออกเท่านั้น ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2531 บริษัทฯ ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตปลาป่นขึ้น ภายใต้ชื่อ บริษัท อุตสาหกรรมปลาป่นแปซิฟิค จำกัด เพื่อรองรับเศษวัตถุดิบจากโรงงาน ซูริมิ นำมาผลิตเป็นปลาป่นสำหรับป้อนโรงงานอาหารสัตว์

                    ผลจากการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดต่างประเทศ ในปี พ.ศ.2535 บริษัทฯได้เพิ่มการลงทุนในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ที่ใช้เนื้อปลาบดหรือซูริมิเป็นวัตถุดิบหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง ประเภทคามาโบโกะ (Kamaboka) หรือเนื้อปลาบด อาทิ ปูอัด ซึ่งเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า (Value Added Products) รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เต้าหู้ปลา ก้ามปูเทียม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญ และตระหนักถึงคุณค่า และคุณโยชน์จากเนื้อปลาทะเล โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้ตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว ส่งผลให้ในปี พ.ศ.2543 บริษัทฯ ได้ก่อตั้ง บริษัท พี.เอฟ.พี. เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดภายในประเทศได้อย่างทั่วถึง และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศได้อย่างเต็มที่

                    ปัจจุบันถือว่า กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งของประเทศ โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้ตราสินค้า พีเอฟพี : PFP และสโลแกน อร่อยง่ายๆ...ทำจากปลาทะเล” ผลิตภัณฑ์ของ PFP ทุกชิ้นผลิตด้วยเครื่องจักรทันสมัย ได้มาตรฐานระดับโลก ควบคุมโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งมีประสบการณ์สูงด้านโภชนศาตร์ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพประจำอยู่ทุกหน่วยการผลิต และคณะทำงานด้านการค้นคว้า วิจัย เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาตรวจสอบในกระบวนการทางวิชาการ รวมถึงการบรรจุหีบห่อที่ทันสมัย โดยได้รับการรองรับมาตรฐานระดับโลก อาทิ Codex, HACCP, GMP, MS-QWL, ISO9001:2000, ISO14001, ISO22000, ISO/IEC17025 รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัย มอก.18001 ผลิตภัณฑ์ “พีเอฟพี” นอกจากได้รับการจดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามขั้นตอนของศาสนาอิสลาม โดยได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมาย “ฮาลาล” (Halal) รวมถึงเครื่องหมาย Halal-Q จากศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมาย Thailand’s Brand และเครื่องหมาย Thailand Trust Mark จากกระทรวงพาณิชย์

บริษัทในเครือ กลุ่มบริษัม พี.เอฟ.พี.

1.   บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด
2.   บริษัท อุตสาหกรรมปลาป่นแปซิฟิค จำกัด
3.   บริษัท พี.เอฟ.พี. เทรดดิ้ง จำกัด
4.   บริษัท ที.พี.แปซิฟิค จำกัด
5.   บริษัท พี.เอฟ.พี. อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด


ผู้บริหาร

นายทวี  ปิยะพัฒนา   ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี
นายธวัชชัย รัตนะพิสิฐ     กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี
นางสาวปิยกาญจน์  ปิยะพัฒนา      กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี



« Last Edit: May 28, 2017, 07:33:32 PM by happy »