MSN on May 25, 2017, 08:26:09 AM
“หาเงินมาได้ แต่เก็บไม่เป็นก็เหนื่อยเปล่า”



ในช่วงเศรษฐกิจฝืด ข้าวของราคาถีบตัวขึ้นเรื่อยๆ เงินของเราก็เล็กลงไปเรื่อยๆ แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวข้างถนนก็ราคา 50 บาทแล้ว แต่หนุ่มสาวชาวออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายยังรายได้เท่าเดิม เงินเดือนออกปั๊บก็มีค่าใช้จ่ายต่างๆ รออยู่มากมาย ไหนจะค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าสังสรรค์ ค่าเที่ยว และค่าช็อปปิ้งอีกล่ะ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเหลือให้ออมล่ะ

มีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งอายุ 28 ปี ทำงานมาได้สองปีกว่าๆ ได้เงินเดือนๆ ละ 30,000 บาท เธออยากจะเริ่มเก็บเงินบ้าง แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเก็บเงินแบบไหนดีให้คุ้มค่ากับที่หามา เวลาผ่านไป 2 ปี มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีแค่ 10,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่บ้านก็ไม่ต้องเช่า จ่ายแต่ค่ากิน ค่ารถ ค่าโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เธอบอกว่า ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี   

วันนี้มีเคล็ดลับเก็บเงินแบบสนุกๆ แค่ “หา” ไอเดียก็ช่วยให้คุณเก็บเงินได้แล้ว ยังไม่ต้องไปคิดว่าจะได้ดอกผลจากการออมเท่าไหร่ เอาแค่เริ่มง่ายๆ เก็บเงินให้ได้ทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอก่อน

1.   หา-เป้าหมาย ในการเก็บเงิน เช่น เก็บเงินเพื่อไปเที่ยว ซื้อรองเท้า ซื้อรถ เป็นต้น ที่นี้ก็หาข้อมูล ว่าเป้าหมายของเราต้องใช้เงินเท่าไหร่ เช่น วางแผนเมษายนปีหน้าจะไปงาน ฮานามิ (Hanami) เทศกาลดอกซากุระบานที่ญี่ปุ่น สัก 5 วัน 4 คืน คุณลองหาข้อมูลได้ง่ายๆ ผ่านรีวิวพันธ์ทิพเพื่อช่วยประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมด เมื่อคุณได้งบประมาณมาแล้วก็บวกเผื่อไว้ สัก 10% เช่น 50,000 บาท คุณก็ตั้งไว้เลย 55,000 บาท กว่าจะถึงเมษายนปีหน้าคุณมีเวลา 10 เดือนเพื่อเก็บเงิน สูตรบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆ โดยเอาเป้าหมายเงินเก็บเป็นตัวตั้ง หารด้วยจำนวนเดือน 55,000/10 = 5,500 บาท 

2.   หา-วิธีเก็บเงิน ลองเริ่มจากวิธีง่ายๆ แค่ ใช้บันทึกช่วยจำ จากแอพพลิเคชั่นบัญชีรายรับรายจ่าย ให้คุณใส่รายได้ต่อเดือน หักค่าใช้จ่ายประจำ ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าผ่อนรถ และให้ใส่ยอด 5,500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายประจำด้วย ทีนี้คุณก็จะรู้แล้วว่าค่าใช้จ่ายและเงินคุณจะเหลือต่อเดือนเท่าไหร่

3.   หา-กติกาเก็บเงิน ลองหาไอเดียมันๆ เพื่อให้การเก็บเงินของคุณสนุกขึ้น โดยตั้งกฎกติกาให้กับตัวเอง และยังช่วยสร้างวินัยให้ตัวเองด้วย เช่น “ลด เพื่อ เพิ่ม” โดยลดกินจุกกินจิก เก็บเงินจากค่าขนม หรือค่ากาแฟแบรนด์เนมจากวันละ 150 บาทเป็นซื้อกาแฟสดหน้าออฟฟิศแก้วละ 50 บาท แค่นี้คุณจะมีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 2,000 บาท ทำให้ภายใน 10 เดือนคุณจะได้เงินเพิ่มขึ้นอีก 20,000 บาท หรือ เก็บเงินเพิ่มทุก 100 บาทเมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1 ขีด หรือ เก็บเงินเพิ่มเท่าตัว เมื่อคุณเผลอไปกินมื้อค่ำเกินจำนวนที่กำหนด หรือ “ช็อปมาก ออมมาก” ถ้าคุณเป็นขา ช็อปล่ะก็วิธีนี้น่าจะทำให้ตัวเลขเงินเก็บของคุณพุ่งสูงแน่นอน ถ้าคุณช็อป 500 บาท ต้องแบ่งเงินไปออมเพิ่ม 500 บาทด้วยเช่นกัน รับรองว่านอกจากคุณจะได้เงินเก็บที่มากขึ้นต่อเดือนแล้ว คุณยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นด้วย

4.   หา-ที่เก็บเงิน ที่ทำให้เงินเก็บของคุณงอกเงย ลองหาบัญชีที่ให้ได้ดอกเบี้ยสูง ที่ทำให้เงินเก็บของคุณงอกเงย อย่างเช่น บัญชี ME by TMB ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไปถึง 4.5 เท่า แล้วคุณยังเห็นดอกเบี้ยจากเงินออมของคุณงอกเงยสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน นำเงิน 5,500 บาท ที่คุณหักไว้ฝากทุกเดือนๆ รับรองเป้าหมายเก็บเงินภายใน 10 เดือนของคุณนอกจากคุณจะได้เงินเก็บก้อนโต แล้วคุณยังได้ดอกเบี้ยเป็นค่าซูชิมื้อใหญ่ด้วยนะ
   



เคล็ดลับง่ายๆ ก็คือ ในการเริ่มต้นการออม จะต้องมีวินัย อดทน สม่ำเสมอ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด ที่สำคัญต้องเก็บก่อนใช้ เพราะเป้าหมายในระยะเริ่มต้นคือ เก็บเงินให้ได้ยอดตามที่คุณตั้งเป้าเอาไว้ เมื่อเก็บเงินได้ตามเป้าหมายแล้ว ทีนี้คุณก็ตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อเก็บเงินก้อนต่อไปได้ไม่ยาก หรืออาจขยับขยายใช้เงินเก็บที่ได้ไปทำงานแทนเราบ้าง เช่น เริ่มนำเงินก้อนที่เก็บได้ไปซื้อกองทุนบ้าง หรือออมในรูปแบบของการทำประกันชีวิตบ้าง เพื่อลดหย่อนภาษี หรือนำเงินไปลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ก็ได้ แต่การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ฉะนั้นก่อนตัดสินใจควรศึกษาให้ถี่ถ้วน

จงจำไว้ว่าเงินที่คุณ “หา” มาได้ จะไม่เหนื่อยเปล่าอีกต่อไป ถ้าคุณ “หา” ไอเดียเพื่อออม แล้วลงมือทำจริง
« Last Edit: May 25, 2017, 10:05:30 PM by MSN »