ปลัดเผยท่องเที่ยวไทยเติบโตต่อเนื่อง ภูมิภาคอาเซียนพร้อมรับการลงทุน
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเข้าร่วมหารือในการประชุม World Travel Tourism Council (WTTC) ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ โดยจะหารือในเรื่องศักยภาพของภูมิภาคอาเซียนที่เป็นแหล่งการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยได้เร่งพัฒนาด้านการท่องเที่ยวในหลายด้าน อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้อยู่ในมาตรฐานโลก รวมถึงโครงสร้างคมนาคมและความปลอดภัยทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพจากข้อมูล WTTC ภูมิภาคอาเซียนเติบโตขึ้นอีกร้อยละ ๖.๕ ในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า สำหรับประเทศไทย ด้านการท่องเที่ยวมีมูลค่าคิดเป็นร้อยละ ๒๐ของ GDP มีการจ้างงานคิดเป็นร้อยละ ๑๕ ของการจ้างงานทั้งหมดของประเทศ โดยมีการสร้างงาน ๕.๗ ล้านงาน
ด้านการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ประเทศในอาเซียนต่างเร่งยกระดับมาตรฐานเพื่อแข่งขันในระดับภูมิภาคโดยยึดตามเสาหลักสำคัญ ได้แก่ ความปลอดภัยและความมั่นคง การดำเนินนโยบายการท่องเที่ยวเป็นลำดับแรก และการแข่งขันด้านราคา ด้วยความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้นอาจทำให้การคมนาคมทางอากาศและพื้นดินที่มีอยู่เดิมนั้นทรุดโทรมลง
เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมนั้นสร้างความแออัดในการเดินทาง รัฐบาลไทยได้มีแผนการลงทุนสร้างส่วนต่อขยายที่สนามบินในประเทศ เช่น สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และอู่ตะเภา และดำเนินการยกระดับทางรถไฟ รวมถึงพัฒนาท่าเรือทะเลน้ำลึกเพื่อรองรับการล่องเรือระหว่างประเทศรัฐบาลไทยยังมีแผนที่จะสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศตามนโยบายประเทศไทย ๔.๐ ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และยังมีแผนยกระดับท่าอากาศยานอู่ตะเภาและอาณาเขตโดยรอบเป็นศูนย์กลางการบินแห่งทวีปเอเชีย จะมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติทั้ง ๓ แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา อีกทั้งยังขยายท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังต่อด้วย
ในอีก ๕ – ๑๐ ปีข้างหน้า เขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวจะหลอมรวมเอาการคมนาคมและการขนส่งเข้าด้วยกันจนกลายเป็นศูนย์กลางแห่งเอเชีย โดยการจะทำให้แผนนี้สำเร็จได้ รัฐบาลจะมีมาตรการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม มีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน การกู้ยืม และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนต่างๆ รองรับ
นายพงษ์ภาณุ ยังกล่าวถึง เศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomic) และภาพรวมด้านเศรษฐกิจในการหารือครั้งนี้ด้วย