wmt on April 07, 2017, 08:15:09 AM
ปลัดท่องเที่ยวฯ เน้นย้ำ นทท.เช็คให้ชัวร์ หลังสั่งเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว 874 ราย

นายพงษ์ภาณุเศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า นายอักษร แสนใหม่รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง เพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว 874 ราย ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2559 โดยแยกประเด็นความผิดได้เป็น 4 กลุ่มประเด็นหลัก ดังนี้

กลุ่มที่ 1 คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 18 ราย เนื่องจาก ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 16 และ มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551กล่าวคือขาดคุณสมบัติของผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ในเรื่อง การถือสัญชาติไทย หรือผู้ถือหุ้นของนิติบุคคล ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ทุนของบริษัทไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบต้องเป็นของบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย และกรรมการของบริษัทเกินกึ่งหนึ่งต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นต้น

กลุ่มที่ 2 คำสั่งเพิกถอนประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 35 ราย เนื่องจาก ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551เป็นกรณีที่บริษัทเคยถูกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวมาแล้ว แต่ถูกนายทะเบียนมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตซ้ำอีกเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มีคำสั่งพักใช้ครั้งแรก

กลุ่มที่ 3 คำสั่งเพิกถอนประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 6 รายเนื่องจาก ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมีการประพฤติหรือปฏิบัติการอันเป็นการฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวหรือธุรกิจนำเที่ยวอย่างร้ายแรง โดยนายทะเบียนได้ตักเตือนและสั่งระงับหรือให้แก้ไขแล้ว แต่ไม่ดำเนินการ

ความผิด ทั้ง 3 กลุ่มนี้ ส่งผลให้ผู้ที่ขาดคุณสมบัติไม่สามารถประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้อีกเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งเพิกถอน

กลุ่มที่ 4 คำสั่งเพิกถอนประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 815 รายเนื่องจาก ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 46 (2) และมาตรา 35 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551เพราะการไม่ชำระค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจนำเที่ยว จนพ้นกำหนดระยะเวลาหกเดือน นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวแล้ว

ความผิดกรณีนี้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวสามารถมายื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้ใหม่ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559ที่กรมการท่องเที่ยวและสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา

“ดังนั้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักท่องเที่ยว ก่อนการเลือกใช้บริการนำเที่ยวจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ให้ตรวจสอบว่าท่านได้เลือกใช้บริการจากบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นโดยนักท่องเที่ยวจะได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยว ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้ด้วยตนเอง ที่ www.tourism.go.th หรือ Call Center 0 2401 1111” ปลัดฯ พงษ์ภาณุ กล่าวย้ำ
« Last Edit: April 08, 2017, 12:29:55 PM by wmt »

wmt on April 08, 2017, 12:32:29 PM
รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนว 874 ราย ประกอบด้วย

1. ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ตามมาตรา 46 (1) (3) และ (4)  แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ซึ่งทำให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 59 ราย เป็นผู้ขาดคุณสมบัติและประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่ได้เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งเพิกถอน

2. ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ตามมาตรา 46 (2) คือ ไม่ชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์           พ.ศ. 2551 เมื่อมีพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 815 ราย ไม่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติการประกอบธุรกิจนำเที่ยว  และหลุดพ้นจากการถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยอัตโนมัติ ดังนั้น หากผู้ที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต ตามมาตรา 46 (2) ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวอีก ให้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายใหม่ ที่กรมการท่องเที่ยวและสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา

สรุป ฐานความผิดประกอบด้วย
(๑) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๖ (๑) หรือมาตรา ๑๗ (๑) หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๖ (๒) (ก) (ข) (ง) (จ) หรือ (ฉ) หรือมาตรา ๑๗ (๒)จำนวน 18 รายมีรายละเอียด ดังนี้
ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 18 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 5 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน 2 ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน - ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 11 ราย

(๒) ไม่ชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวและเงินเพิ่มจนพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา ๓๕ วรรคสามจำนวน 815 รายมีรายละเอียด ดังนี้
ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 378 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 71 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน 45 ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน 47 ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 215 ราย
ภาคเหนือ จำนวน 100 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 7 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน - ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน 6 ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 87 ราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 7 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 2 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน - ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน 2 ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 3 ราย
ภาคใต้ จำนวน 331 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 1 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน 23 ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน 21 ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 286 ราย

(๓) เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา ๔๕ มาแล้ว และภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนั้น มีกรณีที่อาจถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวอีก ไม่ว่าจะเป็นเหตุเดียวกันหรือไม่ก็ตามจำนวน 35ราย     มีรายละเอียด ดังนี้
ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 34 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 10 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน 10 ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน 13 ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 1 ราย
ภาคใต้ จำนวน 1 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน - ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน 1 ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน - ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน - ราย

(๔) ประพฤติหรือปฏิบัติการใดอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวหรือธุรกิจนำเที่ยวอย่างร้ายแรง และนายทะเบียนได้ตักเตือนและสั่งระงับหรือให้แก้ไขแล้ว แต่ไม่ดำเนินการ จำนวน 6 รายมีรายละเอียด ดังนี้
ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 1 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 1 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน - ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน - ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน - ราย
ภาคเหนือ จำนวน 2 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน 2 ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน - ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน - ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน - ราย
ภาคใต้ จำนวน 3 ราย แบ่งเป็นประเภท ดังนี้
   -ประเภททั่วไป (Outbound) จำนวน - ราย
   -ประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) จำนวน 1 ราย
   -ประเภทในประเทศ จำนวน - ราย
   -ประเภทเฉพาะพื้นที่ จำนวน 2 ราย