ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านขนส่งเชื่อม 2 มหาสมุทร

ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านขนส่งเชื่อม 2 มหาสมุทร ล่าสุดเตรียมดึงกลุ่มทัวร์  เที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้าสมุย พร้อมจับมือพันธมิตรอำนวยความสะดวกให้บริการครบวงจรทั้งเส้นทางอันดามันและอ่าวไทย
 
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทว่า มีเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านการเดินทางและขนส่งเพื่อเชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยให้บริการอย่างครบวงจรทั้งการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่และการสัญจรทางบกไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย

“ตอนนี้เรามีบริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากระหว่างเกาะ- ฝั่งทางอ่าวไทยคือจากท่าเรือดอนสัก สุราษฎร์ธานีไปยังเกาะสมุยและพะงันอย่างครบวงจรอยู่แล้ว ด้วยกองเรือเฟอร์รี่ใหญ่ที่สุดคือ 13 ลำ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการจัดซื้อเรือใหม่อีก 1-2 ลำด้วย นอกจากนี้ยังมีแผนขยายกิจการโดยนำเรือเฟอร์รี่ไปให้บริการระหว่างเกาะทางฝั่งทะเลอันดามันรวมทั้งลงทุนท่าเทียบเรือเพิ่มเติม คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ ผมตั้งใจอยากจะให้ RP มีบริการดีที่สุดแก่ผู้โดยสารทุกราย ทะเลสองด้านแตกต่างกัน สวยงามไปคนละแบบ นักท่องเที่ยวเดินทางมาเมืองไทยครั้งหนึ่ง เขาก็ควรเที่ยวได้อย่างคุ้มค่า เมื่อขึ้นจากเรือก็มีรถตู้ร่วมบริการรับส่งไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆให้ครบวงจร”

กรรมการผู้จัดการ RP กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้บริการจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) จากประเทศจีน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้คือ 5-10% ต่อปี 

“ในอนาคตเราอยากนำเสนอให้สุราษฎร์ธานีเป็น Meeting Station เพราะมีความเหมาะสมทั้งด้าน location อยู่ในภาคใต้ตอนบนจะขึ้นเหนือ ล่องใต้สะดวกทุกด้าน สามารถเป็นศูนย์กลางเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในประเทศและสามารถเชื่อมการเดินทางเรือไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคได้ด้วย 
 
เกาะสมุยนั้นมีศักยภาพมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอาหารอร่อยและการเดินทางที่สะดวก ชาวจีนชอบที่นี่มาก นอกจากนี้ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสมุยประมาณ 1.2-1.3 ล้านคน หากเราเปลี่ยนกลยุทธ์เป้าหมาย เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เป็น 2 ล้านคนต่อปี ผมก็เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง”

นายอภิชาติ กล่าวต่อไปว่า เร็วๆนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าโดยนำเทคโนโลยีออนไลน์และนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การจองตั๋วและการใช้จ่ายระหว่างเดินทางให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ลูกค้าสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายและเลือกใช้บริการตามงบประมาณที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า

ปัจจุบัน บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายตั๋วโดยสารที่หลากหลายมาก ทั้งทาง Call Center, Mobile Application, Website หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ทั้งในเกาะสมุย เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ
 
ติดตามรายละเอียดบริการต่างๆ เพิ่มเติมที่ www.rajaferryport..com หรือ Call Center  : 02-276-8211-2 หรือ 092-2473423-5  และที่ท่าดอนสักสากล : 077 372 800-2 ท่าสมุยสากล : 077 423 190, 077 415 230 ท่าเทศบาลท้องศาลา : 077 377 453