แสนสิริเผยแผนเปิด 11 โครงการแนวราบปี’60 มูลค่ารวม 19,300 ลบ.

แสนสิริเผยแผนเปิด 11 โครงการแนวราบปี’60 มูลค่ารวม 19,300 ลบ. ชูไฮไลท์เปิดตัว “บ้านแสนสิริ” แบรนด์บ้านเดี่ยวเซกเมนต์สูงสุด กลับมาพัฒนาอีกครั้ง พร้อมตอกย้ำแบรนด์บ้านเดี่ยว ภายใต้  Brand Identity อย่างชัดเจน รุกกลยุทธ์พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิตัลเต็มตัว ตั้งเป้ายอดขายโครงการแนวราบ 15,000 ล้านบาท







แสนสิริเผยแผนพัฒนาโครงการแนวราบปี 2560 เปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 19,300 ล้านบาท ชูไฮไลท์เตรียมนำแบรนด์บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ระดับบนสุด “บ้านแสนสิริ” กลับมาพัฒนาอีกครั้ง พร้อมตอกย้ำแบรนด์บ้านเดี่ยว ภายใต้  Brand Identity อย่างชัดเจนมากขึ้น สานต่อความสำเร็จแบรนด์ “บุราสิริ” จ่อคิวเปิดตัว 3 โครงการในปีนี้ ลุยกลยุทธ์นวัตกรรมใหม่เพื่อการอยู่อาศัยตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิตัลอย่างเต็มตัว รวมทั้งยกระดับความปลอดภัยอีกขั้น สู่ Security และ Service อย่างครบวงจร ตั้งหน่วยงานมาตรฐานรักษาความปลอดภัย Sansiri Security Inspection (SSI) เพิ่มความมั่นใจให้ลูกบ้านอย่างสูงสุด ตั้งเป้ายอดขายโครงการแนวราบ 15,000 ล้านบาท





นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ โครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 19,300 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 9  โครงการ โครงการทาวน์เฮาส์  1 โครงการ และโครงการอาคารพาณิชย์ 1 โครงการ โดยระดับราคาที่เปิดตัวมากที่สุดคือ ระดับราคา 8-20 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายโครงการแนวราบ 15,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30% จากปีก่อนที่มียอดขายโครงการแนวราบประมาณ 11,000 ล้านบาท

สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการแนวราบในปีนี้ บริษัทจะดำเนินการตามแผน ได้แก่

1. การเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน เซกเมนต์ราคาสูงที่สุดของแสนสิริ ภายใต้แบรนด์ “บ้านแสนสิริ”  ที่จะนำกลับมาพัฒนาอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการ “บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67” ในปี 2549 โดยเตรียมเปิดตัวในไตรมาส 4

2. การตอกย้ำแบรนด์บ้านเดี่ยว ภายใต้ Brand Identity ของแต่ละแบรนด์ที่ชัดเจน เพื่อสื่อสารตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์บ้านเดี่ยวของแสนสิริให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในอันที่จะสร้างความเข้าใจในความโดดเด่นของแบรนด์บ้านเดี่ยวแสนสิริทั้ง 5 แบรนด์ คือ “นาราสิริ-เศรษฐสิริ-บุราสิริ-สราญสิริ-คณาสิริ”  โดยบ้านแต่ละแบรนด์สร้างความรู้สึกที่แตกต่างได้อย่างมีเอกลักษณ์และไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ทั้งความรู้สึก “Luxury in Details งดงามในรายละเอียด” ของแบรนด์นาราสิริ “Portrait of Success ภาพของชีวิตที่ภาคภูมิ” ของแบรนด์เศรษฐสิริ “Find Your Peace of Mind บ้านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง” ของ     แบรนด์บุราสิริ “Built for Love ความสุขเริ่มต้นจากความรัก” ของแบรนด์สราญสิริ และ “Plenty of Happiness ความสุขคณานับ” ของแบรนด์คณาสิริ

3. การต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ “บุราสิริ” โดยในปี 2559 บริษัทได้เปิดตัวแบรนด์บุราสิริ 2 โครงการ และได้รับการตอบรับที่ดีมาก “บุราสิริ ราชพฤกษ์-345” มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท ปิดการขายเฟสแรกทั้ง 48 ยูนิตไปแล้ว และกำลังเปิดขายเฟสที่สอง ขณะที่  “บุราสิริ รังสิต” มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท ขายไปได้แล้วถึง 60% ของการเปิดขายเฟสแรก จำนวน 120 ยูนิต ซึ่งในปีนี้เตรียมเปิดตัวแบรนด์      บุราสิริถึง 3 โครงการ

4. การรุกกลยุทธ์พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อการอยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิตัลอย่างเต็มตัว โดยในปีนี้ได้นำพลังงานแสงอาทิตย์มาพัฒนาใช้ในส่วนต่างๆ ของโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น เริ่มด้วยติดตั้ง        “ไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์” (Solar Lights) ในสวนส่วนกลางของโครงการ เพื่อความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางในโครงการ ซึ่งนำร่องใช้ 4 โครงการ ได้แก่ คณาสิริ รังสิต คลอง 2, เศรษฐสิริ วงแหวน – ลำลูกกา, เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า – กาญจนาภิเษก และเศรษฐสิริ พัฒนาการ และวางแผนติดตั้งทุกโครงการครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งยังเตรียมพัฒนา “บ้านระบายความร้อน” เพื่อลดอุณหภูมิในบ้าน โดยจะเริ่มนำมาใช้ในโครงการในไตรมาส 3 นี้ และ Home Service โมบายแอพพลิเคชั่นสำหรับลูกบ้านแสนสิริ บริการดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกในทุกมิติของการใช้ชีวิตประจำวันอย่างสมบูรณ์  ซึ่งปัจจุบัน  Home Service ได้นำมาใช้ในโครงการแนวราบแล้ว 75 โครงการ

และ 5. การยกระดับความปลอดภัยอีกขั้น สู่ “Security + Service” ครบวงจร ด้วยการเปิดตัว Sansiri Security Inspection (SSI) โดยเป็นหน่วยงานทีมครูฝีกพนักงานรักษาความปลอดภัยหรือรปภ. ที่ได้รับการฝึกฝนในด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยมาเป็นอย่างดี มีความเข้มแข็ง น่าเชื่อถือ ที่จะมาฝึกอบรมรปภ.ในทุกโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริให้รักษาความปลอดภัยในโครงการอย่างรอบด้าน รวมถึงปรับปรุงเครื่องแบบรปภ.ให้สง่า แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ ซึ่งเครื่องแบบจะแตกต่างกันไปตามแต่ละ     แบรนด์ของแสนสิริเพื่อให้เข้าและเหมาะสมกับแบรนด์อีกด้วย

“บริษัทตั้งเป้ายอดขายโครงการแนวราบในปี 2560 ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ยอดขายตามเป้า เนื่องจากประสบความสำเร็จตั้งแต่โครงการแรกที่เปิดขาย โดยเป็นอาคารพาณิชย์ดีไซน์โมเดิร์น สไตล์ นิวยอร์ค ลอฟต์ใหม่ ใจกลางสายไหม ชื่อ “สิริ อเวนิว สายไหม” จำนวน 16 ยูนิต มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท ปิดการขายทันทีตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกในวันเปิดขายอย่างเป็นทางการ รวมถึงโครงการทาวน์เฮาส์ การ์เด้นท์ สแควร์ สุขุมวิท 77 ที่ได้เปิดบ้านตัวอย่างใหม่ ดีไซน์พิเศษพร้อมให้สัมผัสกลิ่นอายแห่งลอนดอน ราคาเริ่มต้น 13.59 ล้านบาท ก็ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายไปแล้วกว่า 70% ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว 2 โครงการ ได้แก่ บุราสิริ วัชรพล และ คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา

สำหรับแนวโน้มของตลาดบ้านเดี่ยวในปีนี้ จากปัจจัยบวกที่รัฐบาลมีความชัดเจนในการลงทุนโครงการเมกะโปรเจค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้า ที่เริ่มเป็นรูปธรรมและมีความคืบหน้าในการก่อสร้างมากขึ้น เช่น สายสีเขียว (หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต) รวมไปถึงสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) สายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี) และสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2562 ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกำลังซื้อมีทิศทางที่ดี รวมไปถึงผู้ประกอบการเริ่มทยอยที่จะเปิดโครงการใหม่ออกสู่ตลาดและให้ความสำคัญกับการตลาดอย่างเข้มข้น ทำให้คาดการณ์ว่าตลาดบ้านเดี่ยวจะมีแนวโน้มทิศทางที่ดี โดยบ้านเดี่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวในปีนี้น่าจะอยู่ในระดับราคา 5 – 9.99 ล้านบาท สอดคล้องกับระดับราคาที่แสนสิริจะเปิดตัวมากที่สุดในปีนี้ เพื่อรองรับกับความต้องการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า” นายเมธา กล่าว

รายละเอียดข้อมูลโครงการ “บุราสิริ รังสิต”
สำหรับ “บุราสิริ รังสิต” ที่ได้รับการตอบรับที่ดี มีพื้นที่โครงการ 68 ไร่ ตั้งอยู่บนซอยวัดเสด็จ ถ.รังสิต-ปทุมธานี ต.สวนพริกไทย ออกแบบจากบริบทเด่นของที่ตั้งโครงการ ที่อยู่ในพื้นที่ตำบลสวนพริกไทย และวิถีชีวิตของการใช้เครื่องเทศในการปรุงอาหารให้มีรสชาติ เสมือนการเติมสีสันให้กับสิ่งรอบๆ ตัว สร้างความโดดเด่นให้แก่โครงการ ขณะที่แบบบ้านดีไซน์สไตล์ Modern Resort เลือกใช้วัสดุที่ทันสมัย เน้นการเปิดโล่งเพื่อรับลม และแสงจากธรรมชาติ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยระแนงบังตาเพื่อเสริมสร้างตัวบ้านให้ดูโมเดิร์นเหมาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความแตกต่าง แต่มีพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวเหมือนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศรีสอร์ท มีจำนวนทั้งสิ้น 268 ยูนิต ขนาดที่ดิน 51 – 130 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 136 - 257  ตารางเมตร ประกอบด้วยแบบบ้าน 5 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 5.79 ล้านบาท

Sansiri plans 11 low-rise projects worth 19,300 MB in 2017 Highlighting reprised “Baan Sansiri” – most prestigious single-house segment brand Stressing clearer brand identity for single-house brands Aggressive development strategy for innovative new digital living Targeting 15,000 MB sales for low-rise projects







Sansiri Public Company Limited unveils its development plan for 11 low-rise projects worth a total of 19,300 million baht in 2017. The year’s highlight will be the reintroduction of the most prestigious single-house segment brand, “Baan Sansiri”, while stressing clearer brand identity for single-house brands in the portfolio. And in order to reinforce the continued success of Burasiri brand, another three Burasiri projects are scheduled for launch this year.

More emphasis will be put on innovative new technologies to fulfill the needs of modern digital living while fully upgrading the security towards the integrated “Security + Services” with the organisation of Sansiri Security Inspection (SSI) to provide enhanced peace of mind for all residents. The sales target for Sansiri’s low-rise projects this year is set at 15,000 million baht.





Mr. Metha Angwatanapanich, Senior Executive Vice President of Business Development & Project Development Division - Low Rise of Sansiri Public Company Limited (SIRI), revealed that in 2017, the Company planned to launch 11 new low-rise projects worth a total of 19,300 million baht, divided into nine single-house projects, one townhouse project and one commercial building project. Most of the projects will be in the 8-to-20-million-baht price range. This year’s sales target for low-rise projects is set at 15,000 million baht – a 30-percent growth over last year’s figure of 11,000 million baht.

This year’s project development strategy includes:

1. The launch of the high-end single-house project in the Company’s highest-priced segment under the “Baan Sansiri” brand that will be revived reenacting the great success in 2006 of “Baan Sansiri Sukhumvit 67”, with the launch of the new project planned for the fourth quarter this year.

2. To stress clearer brand identity for each of the single-house brands in the portfolio to distinctly differentiate the attributes of each of the five Sansiri single-house brands, namely, Narasiri, Setthasiri, Burasiri, Saransiri and Kanasiri. The houses represented in each brand must exude clear distinct feelings through their separate and distinguishing identities. The Narasiri brand must showcase “Luxury in Details”, while Setthasiri should exhibit “Portrait of Success”. The Burasiri brand is designed to be exclusively known for “Find Your Peace of Mind” as the Saransiri brand is specifically “Built for Love”. Last but not least, the Kanasiri brand should be most comforting with its “Plenty of Happiness” attributes.

3. To reinforce the persistent success of the Burasiri brand. In 2016, the Company launched two Burasiri-brand projects that were highly received. The 2,400-million-baht “Burasiri Ratchapruek-345” has closed sales of its 48-unit Phase 1, as Phase 2 will soon start sales. Meanwhile, the 1,900-million-baht “Burasiri Rangsit” has sold over 60 percent of its 120-unit Phase 1. This year, the Company is set to launch three new Burasiri projects in response to the excellent demand from customers.

4. To emphasise innovative new technologies to fulfill the needs of modern digital living. This year, solar power will be developed for use in different areas of housing projects. The starting point will be the installation of solar lighting in common garden areas of the projects for security, energy efficiency and the reduction of central management costs. The pilot phase will begin with the installations at four projects, namely, Kanasiri Rangsit Klong 2, Setthasiri Wongkwaen-Lamlukka, Setthasiri Pinklao-Kanchanapisek and Setthasiri Pattanakarn. The installation of solar lighting in common gardens will eventually cover all single-house and condominium projects in Bangkok and the provinces.

In addition, the Company is developing the “Ventilating House” in the bid to reduce the ambient temperature in the interior of the house. This innovation is expected to be applied in houses beginning in the up-coming third quarter. Another service innovation is the Home Service mobile application, which is a service for all Sansiri project residents that will provide convenience in every dimension of daily living. At present, Home Service application is already available at 75 low-rise projects.

5. To upgrade the security towards “Security + Service” integration through the inauguration of Sansiri Security Inspection (SSI) which is an organisational unit comprising of a team of security expert instructors that will provide intensive training in security and peace-keeping for Sansiri security guards. The highly-trained strict and reliable security guards will be assigned to all Sansiri housing projects to provide encompassing security services. Furthermore, the uniforms of the security guards have been redesigned to project refinement, strength and reliability. The new uniforms will be applied differently depending on the Sansiri brands for differentiation.

“The Company has set the sales target for low-rise projects in 2017 at 15,000 million baht and we are confident that the target will be met due to the initial success of the year’s first project, 16-unit “Siri Avenue Saimai” – a 100-million-baht commercial development in the centre of Saimai designed in New York loft style. The sales of this project immediately closed within the first two hours of official launch. Also impressive was the sales of the “Garden Square Sukhumvit 77” townhouse project with the design that exudes the atmosphere of the UK capital of London. At prices starting from 13.59 million baht, 70 percent of the project has already been answered for. The Company is also set to launch two new projects in the second quarter – “Burasiri Watcharaphon” and “Kanasiri Pinklao-Kanchana”.

“Concerning the trend of the single-house market this year, the confidence is arising from the government’s positive action in regards to the investment in mega-projects, particularly the electric commuter train lines that have become more concrete and advanced, such as the Green Line (Mochit-Sapanmai-Kookot), the Yellow Line (Ladprao-Samrong), the Pink Line (Kaerai-Minburi), and the Orange Line (Cultural Centre-Minburi) whose construction is expected to commence in 2019. All these projects have boosted the consumers’ confidence while developers have begun to launch new projects onto the market while stimulating more intense marketing activities.

“Therefore, it is expected that the single-house market is presently riding on a positive trend. The forecast for significant expansion for this year is in the 5-to-9.99-million-baht segment – coinciding with the price range of the projects that Sansiri will be concentrating on this year to fulfill the demand. We are confident of the enthusiastic response from the customers,” Mr. Metha said.

“Burasiri Rangsit” project details
The well-received “Burasiri Rangsit” is situated on 68 rai of land on Soi Wat Sadet, Rangsit-Pathumthani Road, Suanprikthai Sub-district. The design of the project took the cue from its location in Suanprikthai (Pepper Plantation) Sub-district and the way of life of local residents that relies significantly on spices to flavour their food – akin to the infusion of colours to one’s surroundings and to create uniqueness for the project.

The house design is in the style of “modern resort” with the use of modern materials, open to natural breeze and lights, while the incorporation of battens into the design enhances the modernity of the houses to suit the new generation of house owners that demands individuality and private leisure area in the resort atmosphere. The project consists of 268 units with land plots ranging in size from 51 to 130 square wah and the usable area of from 136 to 257 square metres. The houses, available in five designs, have prices starting from 5.79 million baht.