MSN on March 27, 2017, 08:44:37 AM
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ



มร.แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯในปี 2559 มีการเติบโตในระดับที่ลดลงกว่าปี 2558 เนื่องจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไทย ซัพพลายพื้นที่เขตชานเมือง (Peripheral areas) ในกรุงเทพฯมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด โดยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 76 ของซัพพลายทั้งหมดในปี 2559 ทั้งนี้เป็นผลเนื่องมาจากการขยายเส้นทางขนส่งมวลชนไปสู่ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ นักพัฒนาหลายรายจึงเลือกพัฒนาโครงการตามเส้นทางขนส่งมวลชนสายใหม่ในย่านชานเมือง เนื่องจากมีที่ดินเพียงพอต่อการพัฒนาในราคาที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการพัฒนารถไฟใต้ดิน (MRT) สายสีม่วง (เตาปูน - คลองบางไผ่) จะเป็นกรณีศึกษาแก่นักพัฒนาและผู้ซื้อคอนโดฯในย่านนี้ เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารจริงมีจำนวนน้อยกว่าเกือบสามเท่าของจำนวนผู้โดยสารที่ถูกคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้เนื่องจากเส้นทางสายนี้ยังไม่ได้เชื่อมต่อกับเส้นทางขนส่งมวลชนสายอื่นๆ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดคอนโดฯตามแนวสายสีม่วงที่เปิดดำเนินการไปเมื่อปีที่แล้ว ยังคงมีหน่วยที่เหลือขายอยู่ในตลาด

โดยรวมแล้ว ความต้องการคอนโดฯมีปริมาณลดลงมาก เนื่องจากความต้องการคอนโดฯในพื้นที่เขตชานเมืองกรุงเทพฯที่น้อยลงเพราะผู้ซื้อจำนวนมากไม่สามารถกู้ยืมจากธนาคารได้ ราคาคอนโดฯในพื้นที่เขตชานเมืองกรุงเทพฯจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่คอนโดฯในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe areas) จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากซัพพลายใหม่มีน้อย หน่วยคอนโดฯใหม่ๆในพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจจะต้องแข่งขันกับหน่วยคอนโดฯเก่าในย่านศูนย์กลางธุรกิจที่มีการบำรุงรักษาอาคารอย่างดี เนื่องจากหน่วยคอนโดฯใหม่ในพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจมีราคาสูงกว่าหน่วยคอนโดฯเก่าในย่านศูนย์กลางธุรกิจ



คุณพจมาน วรกิจโภคาทร ผู้อำนวยการด้านการตลาดและงานขาย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาคอนโดฯในเขตชานเมืองกรุงเทพฯคาดว่าจะยังคงมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาจำเป็นต้องทำการสำรวจตลาดก่อนเริ่มพัฒนาโครงการคอนโดฯในบางพื้นที่ของเขตชานเมืองกรุงเทพฯ ด้วยราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นมากของคอนโดฯในย่านศูนย์กลางธุรกิจและพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ ตลาดรีเซล (Resales market) ของคอนโดฯในย่านศูนย์กลางธุรกิจจะต้องแข่งขันกับโครงการคอนโดฯใหม่ๆ เนื่องจากมีช่องว่างด้านราคาขายที่ต่างกันมาก สำหรับคอนโดฯเหล่านี้ ผู้อยู่อาศัย (End-users) อาจให้ความสนใจกับหน่วยคอนโดฯรีเซลในอาคารเก่าที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมากกว่าที่จะซื้อหน่วยคอนโดฯโครงการใหม่ เนื่องจากคอนโดฯเก่ามีราคาที่ถูกกว่าและขนาดหน่วยที่ใหญ่กว่า

แนวโน้มซัพพลาย
จากรายงานผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่า ภายในสิ้นปี 2559 คอนโดฯในกรุงเทพฯมีจำนวนรวมทั้งหมด 435,805 หน่วย โดยจำนวนประมาณ 52,195 หน่วยถูกเปิดตัวไปในปี 2559 แสดงการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 13.6 จากปีก่อน ซัพพลายใหม่ส่วนใหญ่เป็นของบริษัทมหาชน (Listed Developers) ปริมาณซัพพลายที่มีมากไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของความต้องการคอนโดฯแต่อย่างใด โครงการที่เปิดตัวใหม่ๆส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่เขตชานเมืองกรุงเทพฯ โดยสามารถคิดเป็นร้อยละ 76 ของซัพพลายใหม่ปี 2559 ตามมาด้วยพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ โดยอยู่ที่ร้อยละ 14 นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงปริมาณซัพพลายใหม่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจปี 2559 โดยคิดเป็นร้อยละ 10 ดังที่แสดงในกราฟ 2 โดยส่วนใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ 9 แห่ง, โครงการในพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ 12 แห่ง และโครงการในพื้นที่เขตชานเมือง 50 แห่ง โดยโครงการใหม่ที่เปิดตัวในพื้นที่เขตชานเมืองส่วนใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ถูกพัฒนาตามแนวเส้นทางรถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงินสายที่ 2 (หัวลำโพง - ท่าพระ - หลักสี่) และสายที่ 3 (หลักสี่ - พุทธมณฑลสาย 4) และตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า BTS สายใต้ (แบริ่ง - สำโรง - สมุทรปราการ) ที่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จมากกว่าร้อยละ 80 ในขณะนี้

แนวโน้มดีมานด์
มีจำนวนหน่วยคอนโดฯประมาณ 315,393 หน่วยที่ถูกขายออกไปจากทั้งหมด 435,805 หน่วย คิดเป็นอัตราขายที่ร้อยละ 72.4 ซึ่งลดลงไปจากปีก่อนจากร้อยละ 75.3 หน่วยของคอนโดฯที่ถูกขายออกในปี 2559 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 26,595 หน่วย ลดลงไปร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีประมาณ 64,170 หน่วยที่ขายออกไปในปี 2558 ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากกำลังซื้อที่ลดลงของผู้ซื้อและมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นของธนาคาร ดังนั้นนักพัฒนาจำต้องสร้างแคมเปญส่งเสริมการขายพิเศษต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น การลดราคา, ข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ และอื่นๆ

แนวโน้มด้านราคา
ราคาของโครงการคอนโดฯที่เปิดตัวใหม่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วกรุงเทพฯในราคาที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับทำเลพื้นที่ ราคาขายเฉลี่ยของหน่วยคอนโดฯในย่านศูนย์กลางธุรกิจตั้งราคาอยู่ที่ 229,180 บาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ตามมาด้วยราคาขายเฉลี่ยของหน่วยคอนโดฯในพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 หรือคิดเป็น 134,842 บาท/ตร.ม. และราคาขายเฉลี่ยของหน่วยคอนโดฯพื้นที่เขตชานเมืองที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 คิดเป็น 76,002 บาท/ตร.ม.

Notes to Editors
Knight Frank LLP is the leading independent global property consultancy. Headquartered in London, Knight Frank and its New York-based global partner, Newmark Knight Frank, operate from 411 offices, in 59 countries, across six continents. More than 13,000 professionals handle in excess of US$1.4 billion worth of commercial, agricultural and residential real estate annually, advising clients ranging from individual owners and buyers to major developers, investors and corporate tenants. For further information about the Company, please visit www.knightfrank.com.
« Last Edit: March 27, 2017, 03:51:03 PM by MSN »