happy on March 22, 2017, 08:04:17 PM
เวียนนา ชูจุดเด่น ลงทุนง่าย คืนทุนเร็ว ด้วยเงินหมื่น
หวัง ดึงคนรุ่นใหม่ สู่ธุรกิจ ชุดชั้นใน - ผลิตภัณฑ์ความงาม 


                       บริษัท วีน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (เครือสหพัฒน์) ผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในเวียนนา ผลิตภัณฑ์ความงาม และจักรเย็บผ้าจาโนเม่ ปล่อยแคมเปญแรง ช่วยลงทุนร้านครึ่งหนึ่ง หวังเสริมความคล่องตัวในการทำธุรกิจสู่คนรุ่นใหม่ และผู้ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจเองได้ง่ายขึ้น เริ่มต้นหลักหมื่นบาท พร้อมตัวเลือก 3 โมเดลเป็นช็อป และคีออส สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจชุดชั้นใน - ผลิตภัณฑ์ความงาม  ตั้งเป้าสยายปีกทั่วประเทศ ครอบคลุม 20 จังหวัดภายใน 3 ปีนี้

                       แบรนด์เวียนนา เปิดศักราชใหม่ บุกหนักการตลาดเชิงรุก ตั้งเป้าจังหวัดละ 1 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ เร่งเดินเกมการตลาดเชิงรุก สนับสนุนนโยบายรัฐเต็มกำลัง ปูพรม 3 โมเดลธุรกิจใหม่ ในแคมเปญ Startup Wienna หาคนรุ่นใหม่ สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจเวียนนา ชวนมา Startup กับเวียนนาง่ายๆ จ่ายสินค้าตอนเปิดร้านทั้งร้านในราคาเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งเวียนนาช่วยจ่าย

                       นางศิริวรรณ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (เครือสหพัฒน์) กล่าวถึงโครงการ Startup Wienna ว่า เป็นโครงการที่เอื้อประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ บัณฑิตจบใหม่ หรือผู้กำลังมองหางานทำ และอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง สามารถมาเป็นเจ้าของธุรกิจชุดชั้นในเวียนนาในเครือสหพัฒน์ได้ง่ายๆ เพียงแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นระดับหลักหมื่นบาท โดยเวียนนาจะช่วยทั้งเป็นพี่เลี้ยง ที่ปรึกษาทางการตลาดและการบริหาร  เพื่อจะสร้างธุรกิจให้เติบโตไปกับเวียนนาจนร่ำรวยได้

                       พร้อมกันนี้ยังช่วยสนับสนุนด้านต่างๆ อุปกรณ์ตกแต่งร้าน การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของผู้เริ่มต้นกิจการ เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการลงทุน โดยให้จ่ายสินค้าเข้าร้านในราคาส่วนลดพิเศษสุด ซึ่งหลักคิดดังกล่าวสอดรับกับนโยบายรัฐ Startup Thailand ที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้ง่ายและคล่องตัวมากขึ้นเช่นเดียวกัน

                       สำหรับแคมเปญ Startup Wienna นั้น มีให้เลือก 3 โมเดลธุรกิจตามงบประมาณการลงทุนและความพร้อมของแต่ละบุคคล ได้แก่






                       1.โมเดลเจ้าสัว ได้รับมูลค่าสินค้า 1,000,000 บาท จ่ายเพียง 500,000 บาท เป็นโมเดลใหญ่สุด โดยมีลักษณะเป็นศูนย์จำหน่ายเวียนนาเต็มรูปแบบ มีสินค้าชุดชั้นในเวียนนาครบทุกรูปแบบ มีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม จักรเย็บผ้าจาโนเม่และเอลน่า

                       2. โมเดลเศรษฐี ได้รับมูลค่าสินค้า 300,000 บาท จ่ายเพียง 180,000 บาท เป็นรูปแบบช็อป มีหน้าร้านอยู่ในทำเลที่ดี การคมนาคมสะดวก ทางบริษัทฯ จะมีติดป้ายหน้าร้าน ในช็อปจะมีขายสินค้าเวียนนาอย่างเดียวหรือจะมีจำหน่ายสินค้าอื่นรวมด้วยก็ได้

                       3.โมเดลตั้งตัว ได้รับมูลค่าสินค้า 50,000 บาท จ่ายเพียงราคา 32,500 บาท ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน  อาจจะเป็นคีออส หรือมีตู้ขายสินค้าในร้านดั้งเดิมของตัวเองก็ได้

                       “ด้านแผนการตลาดในปีนี้ เน้นกลยุทธ์ 4 G  ขับเคลื่อนการสรรหาสมาชิก และลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้มากขึ้น โดยเน้นการสื่อสาร และโปรโมชั่นด้านต่างๆ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์ เป็นหลัก และเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่กับพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มีมากขึ้น ประกอบกับเมื่อปีที่ผ่านมา เว็บไซต์เวียนนาได้รับรางวัลดีเด่นจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการประกวดเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ดีเด่น ด้านความน่าเชื่อถือ (Best e-Commerce Website Award 2016) ซึ่งตรงนี้เองทำให้เราเร่งปูพรมทำการตลาด 4G และออนไลน์เพิ่มมากขึ้น” นางศิริวรรณ กล่าวเพิ่มเติม 

                       ปัจจุบัน บริษัทวีนฯ เป็นบริษัทที่ทำการตลาดผ่านระบบสมาชิก มี 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.กลุ่มธุรกิจชุดชั้นใน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในเวียนนา ,เลอวีด้า พรีเว่ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ เบสซีเล็คชั่น (Best Selection) 2. กลุ่มธุรกิจจักรเย็บผ้าและงานฝีมือ ประกอบด้วย จักรเย็บผ้าจาโนเม่และจักรเย็บผ้าเอลน่ารวมกลุ่มสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯมากกว่า 500 รายการ

                       “เรามีฐานลูกค้ามากกว่า 500,000 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่กลุ่มสมาชิกผู้ใช้สินค้า (Privileged Member) และกลุ่มสมาชิกธุรกิจ (Business Member) มีหน้าร้านซึ่งเป็นสาขาของบริษัทฯ เอง 16 แห่งและผ่านตัวแทนศูนย์จำหน่ายอีก 8 แห่ง รวมทั้งสิ้น 24 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งโอกาสทางการทำธุรกิจของโครงการ Start Up ยังมีอีกมาก จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจร่วมกัน โดยผู้สนใจสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่  02 291 0590” นางศิริวรรณ กล่าวทิ้งท้าย พร้อมกับเพิ่มเติมว่า

                       ซึ่งแนวนโยบายที่ผ่านมาจะเน้นคุณภาพสินค้า นวัตกรรมใหม่ ๆ  การบริการที่ดีเยี่ยม และมีความซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าเป็นหลัก จึงทำให้วันนี้เราได้รับความไว้วางใจ และมีฐานสมาชิกที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง การเดินทางมาสู่ปีที่ 30  เราจึงพูดได้ว่าเติบโตอย่างมีรากฐานที่แข็งแรง โดยปีนี้เราตั้งเป้าการเติบโต 10 % พร้อมกับคาดจะสยายปีกขยายจากโครงการ Start Up ครอบคลุม 20 จังหวัดทั่วประเทศภายใน 3 ปีนี้