MSN on March 16, 2017, 11:07:32 PM
หุ้น D โชว์ศักยภาพเบอร์หนึ่งด้านทันตกรรมของไทย เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ก่อนเข้าเทรดใน mai ภายในไตรมาส 2 นี้ ชูจุดเด่นมาตรฐานระดับโลก ลูกค้ากระเป๋าหนักตบเท้าเข้าใช้บริการต่อเนื่อง



บมจ.เดนทัล คอร์ปอเรชั่น (D) โชว์ศักยภาพเบอร์หนึ่งด้านทันตกรรมของไทย ต่อสายตานักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย เรียกความเชื่อมั่น ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในไตรมาส 2 นี้ "พรศักดิ์ ตันตาปกุล " ชูจุดเด่นสุดยอดบริการด้านทันตกรรมมาตรฐานระดับโลก จนลูกค้ากระเป๋าหนักทั้งไทยและต่างชาติมั่นใจ ตบเท้าเข้าใช้บริการต่อเนื่อง ดันผลประกอบการโตต่อเนื่องทุกปี

นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (D) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการรักษาในระดับสากล ปัจจุบันเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย  กล่าวนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเพื่อให้รับทราบและมีความมั่นใจในศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น ว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการทางทันตกรรม ในรูปแบบศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรม  ภายใต้แบรนด์ "BIDC", "Dental Signature" และ "Smile Signature" มีจุดเด่นสำคัญที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับเกรดเอที่มีรายได้สูงโดยสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าคนไทย และที่เหลือเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวออสเตรเลียถึง 30 - 40%

"ลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่มีความตั้งใจเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อใช้บริการจากเราเป็นอันดับแรก รองลงมาคือกลุ่มที่มาท่องเที่ยวแล้วจึงมาเข้าใช้บริการ เพราะลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพประกอบกับ ค่าบริการถูกกว่าประเทศอื่นในระดับมาตรฐานเดียวกัน" นายพรศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ ศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรมของกลุ่มบริษัท ยังประกอบไปด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา มีทีมงานที่ได้รับการอบรมให้มีมาตรฐานในการให้บริการเป็นอย่างดี เน้นการให้บริการที่สุภาพเป็นกันเอง พร้อมด้วยเทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ที่ปลอดภัยและทันสมัย กลุ่มบริษัทให้บริการทางทันต กรรมแบบทั่วไป ทันตกรรมเพื่อความงาม ทันตกรรมรากฟันเทียม ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตกรรมจัดฟัน อีกทั้งยังมีส่วนศัลยกรรมช่องปาก รักษารากฟัน และรักษาโรคเหงือก โดยสาขาที่มีชาวต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ได้แก่ BIDC และสาขาที่ภูเก็ต โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนรายได้ของชาวต่างชาติของสาขาดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 67% และ 98%  ของรายได้ของสาขานั้น

"บริษัทฯ มีศักยภาพ และมีความเชี่ยวชาญสูงทางด้านทันตกรรมรากฟันเทียมและการจัดฟัน ซึ่งเป็นด้านที่สร้างรายได้อย่างสูงมาก นอกจากนี้วัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย จึงทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีทั้งหมด 12 สาขา เป็นศูนย์ทันตกรรมจำนวน 2 สาขา และคลินิกทันตกรรมจำนวน 10 สาขา" นายพรศักดิ์กล่าวในที่สุด

 สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนขยายสาขา โดยจะเลือกในทำเลที่มีศักยภาพที่โดดเด่นและมีกำลังซื้อจริงเท่านั้น อีกส่วนจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน

นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส  บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (D) เปิดเผยว่า "เดนทัล คอร์ปอเรชั่น" เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะกลุ่มบริษัทมีศูนย์ทันตกรรมที่เป็นรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานคุณภาพจาก Joint Commission International (JCI)  ของสหรัฐอเมริกา  (แต่เป็นรายที่สองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรายแรกคือ โรงพยาบาลรัฐของประเทศสิงคโปร์) โดยปัจจุบันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีเพียง 3 สถานประกอบการเท่านั้นที่ได้มาตรฐาน JCI  ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวนี้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก จึงทำให้ชื่อเสียงของ "เดนทัล คอร์ปอเรชั่น"  เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มชาวต่างชาติและได้รับความเชื่อมั่นสูง

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ของหุ้น D มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2557 – 2559 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 408.26 ล้านบาท 418.56 ล้านบาท และ 446.52 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในปี 2557 – 2559 เท่ากับ 25.59 ล้านบาท 12.31 ล้านบาท และ 42.52 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตรากำไรสุทธิในปี 2558 ลดลงเมื่อเทียบจากปี 2557 เนื่องจากในปีดังกล่าวมีการเพิ่มจำนวนพนักงานรวมถึงมีการปรับเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงาน และมีการทำโฆษณาผ่านการตลาดออนไลน์ที่มากขึ้น