KTAMขาย2กองทุนตราสารหนี้ตปท.ชูยิลด์1.40 – 1.75%ต่อปี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 134 ( KTFF134 ) และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 135 ( KTFF 135 ) ตั้งแต่วันที่ 8-14 มีนาคม 2560 อายุโครงการ 3 เดือน และ 1 ปี ตามลำดับ มูลค่าโครงการกองทุนละ 10,000 ล้านบาท
โดยกองทุน KTFF 134 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Bank of China , Macau Branch อัตราผลตอบแทน 1.76 % ต่อปี , China Construction Bank (Asia) Corporation Limited อัตราผลตอบแทน 1.74% ต่อปี , Agricultural Bank of China (Hong Kong Branch ) อัตราผลตอบแทน 1.72% ต่อปี , AI Khalij Commercial Bank อัตราผลตอบแทน 1.70% ต่อปี , Union National Bank อัตราผลตอบแทน 1.60% ต่อปี และ Abu Dhabi Commercial Bank อัตราผลตอบแทน 1.68% ต่อปี โดยกองทุนจะลงทุนในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18 % ยกเว้น เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank ลงทุน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.30% ต่อปี ดังนั้น ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี
ส่วนกองทุน KTFF 135 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ China Construction Bank (Asia) Corporation Limited อัตราผลตอบแทน 1.94 % ต่อปี , AI Khalij Commercial Bank อัตราผลตอบแทน 2.03% ต่อปี , Agricultural Bank of China (Hong Kong Branch ) อัตราผลตอบแทน 1.91% ต่อปี , Union National Bank อัตราผลตอบแทน 2.04 % ต่อปี , Emirates NBD PJSC อัตราผลตอบแทน 2.05% ต่อปี และ Mashreq Bank อัตราผลตอบแทน 2.15% ต่อปี โดยเงินฝากประจำ China Construction Bank (Asia) Corporation Limited , AI Khalij Commercial Bank และ Union National Bank กองทุนจะลงทุนในสัดส่วน สถาบันการเงินละ 19 % ส่วน Emirates NBD PJSC และ Mashreq Bank ลงทุนในสัดส่วนสถาบันละ 14 % และ Agricultural Bank of China (Hong Kong Branch ) ลงทุนในสัดส่วน 15 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.28 % ต่อปี ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.75 % ต่อปี ทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ทั้งนี้ การเปิดจำหน่าย2 กองทุน เพื่อต้องการให้ผู้ลงทุนเลือกลงทุน ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามความกังวลต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง (เฟด) ที่มีสัญญาณว่าน่าจะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งหน้าขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูความชัดเจน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิจำนวน 11,680 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุ เช่นกัน หลังกรรมการเฟด หลายคนรวมทั้งประธานเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า น่าจะมีความเหมาะสมหากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเฟด ถึงแม้ว่ายังไม่มีความแน่นอนด้านผลกระทบจากนโยบายการคลังของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาก็ตาม โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.32% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 2.02% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.49% ต่อปี
" ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต " นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ โทร 0-2686-6100