MSN on March 01, 2017, 02:36:06 PM
รักยุคนี้ต้องกล้าท้า “เลิก” และ “หาใหม่”

เพิ่งผ่านพ้นเดือนแห่งความรักไปไม่นาน เชื่อว่าหลายคู่คงควงหวานใจไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนพร้อมกุหลาบช่อใหญ่ บางคู่อาจกำลังเตรียมวางแผนสละโสด หรือบางคู่รักที่แต่งงานแล้วอาจเตรียมจัดทริปฮันนีมูนรอบสองเพิ่มความหวานฉลองเดือนแห่งความรักในปีหน้าอยู่ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคู่รักแบบไหน กุญแจสำคัญที่จะทำให้ทั้งคู่บรรลุเป้าหมาย คือ การวางแผนการเงิน ซึ่งก็มีอยู่ด้วยการหลายวิธี เช่น จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย ประหยัด ออมเงินให้มากขึ้น เป็นต้น ลองหยุดแพลนเดิมๆ แล้วลองหาภารกิจใหม่ๆ แบบอินเทรนด์ที่ทำให้แผนการเงินของคุณสนุก ท้าทาย และมีสีสันมากขึ้นกันดีกว่า กับภารกิจง่ายๆ เพียงแค่ชวนท้า “เลิก” และ “หาใหม่”

ภารกิจท้า “เลิก”
เลิก! ที่นี้คือ เลิกค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยที่คุณทั้งคู่มีส่วนร่วม เช่น กินข้าวนอกบ้านแทบทุกวัน ดูหนังในโรงภาพยนตร์เกือบทุกเรื่อง ช็อปปิ้งของที่ไม่จำเป็นจริงๆ เช่น รองเท้าผ้าใบมีอยู่แล้ว แต่จะซื้ออีก 5-6 คู่เพื่อให้ครบทุกสี ท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศทุกวันหยุด เป็นต้น เพียงคุณลองตั้งกฎสำหรับคู่ของคุณขึ้นมา หากใครทำผิดกฎต้องจ่ายเงินเข้าบัญชีกองกลางเป็นการลงโทษ เราแนะนำว่า ถ้าอยากให้ตัวเลขดีดสูงเร็วเท่าไร ลองเพิ่มความสนุกท้าทายผ่านการเล่นเกมส์ “ความซื่อสัตย์” เช่น ถ้าคู่คุณบ้าช้อปปิ้ง ลองตั้งกฎให้ซื้อของฟุ่มเฟือยได้เดือนละไม่เกิน 5,000 บาท หากทำผิดกฎ ต้องนำเงินไปลงกองกลางเท่ากับจำนวนเงินที่ใช้เกินที่กำหนดไว้ หรือ ตั้งกฎว่าเราจะกินข้าวนอกบ้านกันเดือนละครั้งในงบประมาณ 4,000 บาท และถ้าเกินจำนวนที่กำหนดคุณสองคนก็ต้องจ่ายเงินส่วนที่เกินเข้ากองกลาง ถ้าไม่ถึงก็เอาเงินส่วนที่เหลือเก็บเข้าบัญชีส่วนกลาง ลองคิดดูว่าจะลุ้นแค่ไหน

ภารกิจท้า “หาใหม่”
ลองหาอะไรใหม่ๆ เป็นไอเดียทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วตั้งเป้าว่าเราต้องทำมันให้ได้ เช่น ตั้งเป้าว่าจะไปวิ่งอาทิตย์ละ 2 วัน ถ้าทำไม่ได้ จะถูกปรับ 500 บาท หรือชวนกันลดน้ำหนักให้ได้ 2 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน ถ้าทำไม่ได้ ถูกปรับ 1,000 บาท และถ้าน้ำหนักขึ้น ปรับเงินตามจำนวนขีดของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น คูณด้วย 1,000 บาท เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 2 ขีด ก็คูณ 1,000 บาท เท่ากับว่าคุณจะถูกปรับ 2,000 บาทเลยทีเดียว ทริคนี้ก็ช่วยทำให้ภารกิจนี้เพิ่มเงินได้ดีทีเดียว หรือตั้งเป้าหมายว่าเราจะต้องทำมันให้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เช่น แฟนเรามีผีมือทำอาหารระดับขั้นเทพ ลองตั้งเป้าว่า กุมภาพันธ์ปีหน้า เราจะมีธุรกิจเปิดร้านอาหารร่วมกัน นอกจากนี้อาจวางแผนจัดทริปสุดโรแมนติคที่ใครๆ ก็อยากไปสักครั้งเช่น  ไปสวีทนอนจิบไวน์ดูแสงจันทร์รับลมหนาวที่หมู่บ้านริมทะเลสาบกลางหุบเขา Hallstatt (ฮอลล์สแตท) ที่ประเทศออสเตรียในเดือนแห่งความรักในปีหน้า เมื่อตั้งเป้าหมายร่วมกันได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนวางแผนทางการเงิน และหาเครื่องมือที่มาช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
 
เปิดอกคุยเรื่องเงิน
ขั้นตอนแรกอาจจะน่าเบื่อหน่อย แต่ก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่ข้ามไม่ได้ เพราะถ้าคุณทั้งคู่ไม่เปิดอกคุยเรื่องเงินแบบจริงจัง เป้าหมายที่จะเป็นคู่รักกระเป๋าหนักคงไม่มีวันเป็นไปได้ ดังนั้น ถ้าอยากให้การเงินของคุณทั้งคู่บรรลุเป้าหมายก็จง “เปิดอกคุยเรื่องเงิน” รายได้เท่าไร รายจ่ายเท่าไร มีหนี้สินอะไรบ้าง ปัญหาการเงินในตอนนี้ นิสัยการใช้เงิน แผนการใช้เงินในอนาคต เรียกได้ว่าแบไต๋ทุกเรื่องการเงินให้หมดเปลือก ถ้าคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว อย่าคิดว่ากระเป๋าใครกระเป๋ามันต่างคนต่างจัดการกันเอง เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ กับการใช้ชีวิตร่วมกันอาจสร้างปัญหาเล็กๆ ที่สะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต คุณจำเป็นต้องรู้ว่าคู่ของคุณมีนิสัยการใช้เงินอย่างไร เพื่อช่วยกันวิเคราะห์หาแนวทางป้องกันปัญหาทางการเงิน และวางแผนการออมให้เหมาะกับรายรับและรายจ่ายของทั้งคู่

ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
ขั้นตอนนี้เบสิค แต่เป็นประโยชน์อย่างมาก แน่นอนว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไป การจดบันทึกอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อ คุณลองหาแอพพลิเคชั่นเจ๋งๆ ที่ช่วยทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้จัดการด้านการเงิน ติดตามการใช้จ่ายของคุณ และมีระบบแจ้งเตือนค่าใช้จ่ายประจำเมื่อถึงกำหนดที่ต้องชำระ และสามารถดูภาพรวมรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่รายวัน, รายสัปดาห์และรายเดือนได้ เช่น Mobills : Budget Planner เป็นแอพที่ใช้งานง่าย รวมถึงยังสามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย, AndroMoney สามารถใช้งานร่วมกับแอพฯ ฝากไฟล์อื่น ๆ เช่น Google Docs และ Dropbox ได้ด้วย Mint: Budget, Bills, Finance สามารถชำระบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ผ่านแอพฯ ได้โดยตรง คราวนี้คุณทั้งคู่จะรู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร และหมดไปกับค่าใช้จ่ายเรื่องไหน คุณอาจพบว่าพวกคุณใช้จ่ายไปกับการท่องเที่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ บางคู่อาจจะหมดเงินไปกับการกินอาหารนอกบ้านทุกอาทิตย์ เมื่อมองเห็นภาพรวมพฤติกรรมการเงินของคุณทั้งคู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการวางแผนการเงินในขั้นตอนต่อไป

เปิดบัญชีกลาง
   ตามหลักทั่วไปของการใช้ชีวิตคู่คือ คุณจะต้องมีบัญชีกองกลางสำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน นำค่าใช้จ่ายที่ควรอยู่ในบัญชีกองกลางเช่น ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง รวมถึงค่าท่องเที่ยวที่คุณวางแผนจะไปด้วยกัน ฯลฯ คำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือน แล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 10% ของรายจ่าย เนื่องจากรายจ่ายบางอย่างไม่คงที่ทุกเดือน จากนั้นนำเงินจำนวนนั้นมาหารครึ่งเพื่อลงเงินกองกลางทุกเดือน คราวนี้คุณทั้งคู่ก็จะรู้แล้ว ว่าต้องลงเงินคนละเท่าไหร่ และเหลือเงินสำหรับใช้ และเก็บเท่าไหร่
 
ใช้เงินทำงานให้งอกเงย 
ถ้าคุณสามารถผ่านขั้นตอนวางแผนการเงินร่วมกันมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายได้แล้ว แสดงว่าคุณพร้อมสำหรับการสร้างอนาคตร่วมกันแล้วล่ะ เพราะการออมเงินในขั้นตอนนี้คือบันไดก้าวสำคัญของการทำให้เงินเก็บของคุณงอกเงย เพียงคุณกำหนดสัดส่วนของเงินเก็บ บางคู่อาจเก็บ 10% ของรายได้ทั้งคู่ หรืออาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้เงินและรายรับรายจ่ายของคุณทั้งคู่ ส่วนรูปแบบการลงทุนก็มีให้เลือกมากมาย หากคู่ไหนพร้อมที่เสี่ยง ก็มีการลงทุนหลายอย่างที่มีความเสี่ยงน้อย ไปถึงความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนที่เน้นการลงทุนหุ้นขนาดเล็ก-กลาง เลือกที่มีมีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต กองทุนปันผล ลงทุนในกองทุมรวมตราสารหนี้ก็น่าสนใจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาการลงทุนที่เหมาะสม แต่สำหรับคู่ที่เริ่มต้นการออม และยังไม่อยากเสี่ยงกับการลงทุน เพียงแค่ต้องการฝากเงินให้งอกเงย เห็นดอกเบี้ยสะสมไปเรื่อยๆ ขอแนะนำ ME by TMB ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป 4 เท่า ที่สำคัญ คือ เบิกเงินมาใช้ฉุกเฉินได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ แต่ถ้าคุณวางแผนอนาคตระยะยาว น่าจะทำประกันชีวิตควบคู่ไปกับการลงทุนรูปแบบอื่นๆ ด้วย