"ปลัดฯท่องเที่ยวฯทัวร์ภูเก็ต หลังสิ้นยุคทัวร์ศูนย์เหรียญ"

"ปลัดฯท่องเที่ยวฯทัวร์ภูเก็ต หลังสิ้นยุคทัวร์ศูนย์เหรียญ"













นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อตรวจเช็คสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวภายหลังรัฐบาลและกระทรวงฯออกมาตรการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

ปลัดฯท่องเที่ยวกล่าวว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญและสร้างรายได้ให้กับประเทศโดยปี 59 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากว่า 9.6 ล้านคนและสร้างรายได้รวมกว่า340,000 ล้านบาท

สถานการณ์ในภูเก็ตเริ่มตั้งแต่ปัญหาความแออัดในท่าอากาศยานก็สามารถบริหารจัดการและแก้ไขได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาและความอดทนบ้างแต่เมื่อดูจากความตั้งใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วก็เชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
     
ด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดต่างๆเช่น ป่าตอง วันนี้ตนได้มาดูการจัดโซนนิ่งของการลงเล่นน้ำและตรวจการทำงานของทีมรักษาความปลอดภัยริมชายหาดแก่นักท่องเที่ยวหรือไลฟ์การ์ดซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

ปลัดฯพงษ์ภาณุ เผยว่าสำหรับสถานการณ์ด้านการผูกขาดทางการค้านั้นวันนี้ตนได้ลงตรวจร้านขายสินค้าประเภทอัญมณี 2 ร้านซึ่งวันนี้ได้เห็นแล้วว่าเกิดการแข่งขันอย่างเสรีไม่มีการกีดกันทางการค้าใดๆและที่สำคัญคือร้านค้าต่างตื่นตัวกับการออกนโยบายห้ามขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ภายในสถานที่ของตน

อีกมุมหนึ่งของทุกทัวร์ที่จำเป็นอย่างยิ่งคือร้านอาหารและวันนี้ตนได้เข้าร้านที่มีทัวร์ลงซึ่งปรากฎว่าทั้งรสชาติและราคาเป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งจากการพูดคุยกับนักท่องเที่ยวนั้นต่างชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารไทยอร่อยที่สุดในโลก

สำหรับประเด็นการจัดโซนนิ่งด้านสถานบริการที่บริเวณป่าตอง และ กะรนจากการประชุมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดในวันนี้กำลังทำเรื่องเพื่อขอแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยเพื่อขยายเวลาเปิดปิดจาก ตี 1 เป็น ตี 4โดยตนเห็นด้วยในหลักการและแนวคิดแต่ก็ได้ย้ำไปว่าต้องควบคุมให้ดีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย

"ตนมาภูเก็ตในวันนี้เพื่อมาดูให้เห็นกับตาว่าบัดนี้ทัวร์ศูนย์เหรียญได้หมดลงแล้ว  รัฐบาล และกระทรวงฯมีความตั้งใจจริงที่จะยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ขจัดการผูกขาดและเกิดการแข่งขันอย่างเสรีเพื่อให้รายได้เหล่านั้นกระจายสู่ทุกคนในสังคมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม"