MSN on February 23, 2017, 10:16:32 PM
TPCH โชว์ฟอร์มสวย! ปี59 ฟันกำไร 201.17 ลบ. พุ่งกระฉูด 335% ไฟเขียวจ่ายเงินปันผล 0.03 บ./หุ้น เดินเครื่องจ่ายไฟโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 โครงการ กำลังการผลิตขนาด 18.4 MW



   TPCH โชว์ฟอร์มสวย!! ปี 59 ฟันกำไร 201.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 335% จากช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 46.19 ล้านบาท  ด้านผู้บริหาร “เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล” เผยเตรียมเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 59 หุ้นละ 0.03 บาท พร้อมเดินเครื่องจ่ายไฟโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 2 โครงการ  “พัทลุง กรีน เพาเวอร์-สตูล กรีน เพาเวอร์” ขนาดกำลังการผลิต 18.4    เมกะวัตต์ หนุนผลประกอบการสวย เดินหน้าศึกษาโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น

   นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายไฟฟ้ารวม 672.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 367.5 ล้านบาท หรือ 120.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 304.9 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิ 201.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 335% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.19 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้า 4 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE),โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) และโรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG ) ที่เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้า (COD) ได้เรียบร้อยแล้ว รวมกำลังการผลิต 34.4 เมกะวัตต์

   “รายได้หลักของบริษัทฯมาจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการ พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) ขนาดกำลังการผลิต 9.2 เมกะวัตต์ และโครงการ สตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) ขนาดกำลังการผลิต 9.2 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งตามแผนโครงการดังกล่าวจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ และไตรมาส 2 ปีนี้ ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตที่พร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบจำนวน 52.8 เมกะวัตต์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้”นายเชิดศักดิ์ กล่าว

   นอกจากนี้ TPCH ยังมีโครงการไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาทั้งสิ้น 82 เมกะวัตต์ รวมถึง โครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลขนาด 46 เมกะวัตต์ ของ PTG ที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ มีมติให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าจากโครงการต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงในชุมชนอย่างยั่งยืนและกำลังอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช) ได้เห็นชอบการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT)  โดยมีเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด 568 เมกะวัตต์  เป็นการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP Hybrid-Firm  และ VSPP Semi-Firm 

   ในส่วนของต่างประเทศ บริษัทฯ มีโครงการต่างประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 52.10 เมกะวัตต์ ต่อเนื่องจากเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการในกลุ่มประเทศอาเซียนจำนวน 50-80  เมกะวัตต์ภายในปี พ.ศ.2563 เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากบริษัทต่างชาติ และเพิ่มช่องทางสร้างรายได้และความแข็งแกร่งให้แก่องค์กร สร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคตอีกด้วย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดการดำเนินงานปี 2559 (1 ม.ค.-31 ธ.ค.59) ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม เพื่อขออนุมัติในลำดับถัดไป
« Last Edit: February 24, 2017, 08:10:32 AM by MSN »