happy on February 02, 2017, 07:21:50 PM
ฟู้ดบล็อกเกอร์แห่งโซเชียลชวนชาวไทยเลิกบริโภคหูฉลาม


องค์กร ไวลด์เอด ช่วยสัตว์ป่า (WildAid) ได้เชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมรณรงค์เลิกบริโภคหูฉลาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อลดปริมาณการบริโภคหูฉลามตลอดการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน เทศกาลตรุษจีนถือได้ว่าเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งของไทย และยังเป็นเทศกาลที่มีการบริโภคหูฉลามมากที่สุด ส่งผลให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในวิกฤตการณ์หูฉลามในตลาดโลก

การรณรงค์ครั้งนี้องค์กรไวลด์เอดประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากเพจฟู้ดบล็อกเกอร์ดังแห่งโซเชียลมีเดียของประไทศไทยในการเผยแพร่ข้อความรณรงค์ ​#ตรุษจีนนี้งดหูฉลาม #SayNoToSharkFin ให้กับแฟนเพจรวมแล้วกว่า 1.3ล้าน คน เพจฟู้ดบล็อกเกอร์ที่ได้สนับสนุนโครงการครั้งนี้ได้แก่ เฟสบุ๊คเพจ/อินสตาแกรม Aroii, Bkk.Food, DeliveryBkk, กินกับพีท (EatWithPete), Gingunther (กินกันเถอะ), กินหนม,  Kinlag และ Paidonnnn (ไปโดนนนน)

แต่ละปี มีฉลามกว่า 100 ล้านตัว ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายเพื่อเอาครีบของมัน โดยกว่าร้อยละ 73 ถูกนำมาทำเป็น “ซุปหูฉลาม” ซึ่งประเทศไทยถูกจัดได้ว่าเป็นตลาดค้าครีบฉลามรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลกโดยเกิดจากการที่ผู้บริโภคไม่ตระหนักถึงการกระทำอันโหดร้านเบื้องหลังซุปหูฉลามแสนอร่อยเหล่านั้น ที่เหล่าฉลามต่างถูกลากขึ้นมาเพื่อเฉือนครีบของมันออกทั้งหมดก่อนจะถูกโยนทิ้งกลับลงสู่ ท้องทะเล ซึ่งทำให้ฉลามเหล่านั้นต้องจมน้ำตายทั้งเป็น เนื่องจากสูญเสียครีบอันเป็นอวัยวะสำคัญในการดำรงชีวิต

“หูฉลามแต่ละหูนั้นแลกมาด้วยหนึ่งชีวิตของฉลามหนึ่งตัวที่อาจจะถูกฆ่าตายอย่างทรมาณ ด้วยการตัดครีบและปล่อยลงทะเลให้จมน้ำตายอย่างช้าๆ แค่ข้อความข้างต้นก็สามารถบอกได้เเล้วว่าหูฉลามนั้นเหมาะสมแก่การเป็นยาอายุวัฒนะหรือไม่ ผมเชื่อว่าอาหารที่มีจากการพรากชีวิตหนึ่งชีวิตคงไม่สามารถช่วยให้อีกชีวิตดำรงต่อไปได้อย่างมีความสุขสักเท่าไรครับ” กล่าวโดยแอดมินหล่อ แอดมินเฟสบุ๊คเพจ กินหนม
 
ประชากรฉลามลดลงถึงร้อยละ 98 ภายในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดย 1 ใน 3 ของชนิดพันธุ์ฉลามที่อาศัยบริเวณผิวน้ำถูกระบุว่าเป็นชนิดพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์โดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดก็หนีไม่พ้นอุปสงค์และการซื้อขายครีบฉลามดังกล่าว

“ในปี 2560 นี้ องค์กร ไวลด์เอด (WildAid) ตั้งปณิธานที่จะดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับร้านอาหาร ภัตตาคาร และธุรกิจการโรงแรมให้ดียิ่งกว่าเดิม รวมถึงสรรหาทูตตัวแทนจากเหล่าศิลปิน นักแสดง บล็อกเกอร์ และผู้มีชื่อเสียง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสื่อและการรับรู้ของประชาชนให้ทั่วถึงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเราเชื่อว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคน เราจะสามารถยับยั้งความต้องการในผลิตภัณฑ์จากครีบฉลามในประเทศไทยได้ในที่สุด” นายปีเตอร์ ไนท์ ผู้อำนวยการองค์กร ไวลด์เอด (WildAid) กล่าว


เกี่ยวกับ  WildAid

WildAid (www.wildaid.org) คือ องค์กรไม่แสวงผลกำไร  มีเป้าหมายหลักเพื่อยุติการค้าสัตว์ป่า  และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า ผิดกฎหมาย WildAid เน้นรณรงค์เพื่อลดความต้องการบริโภค และความต้องการ ซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่า โดยเราหวังว่า ผู้บริโภคจะไม่กินหูฉลาม ไม่ซื้องาช้าง นอแรด และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอื่นๆ อีกต่อไป

WildAidได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 100 คน ร่วมเผยแพร่ข้อความรณรงค์ ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหา การฆ่าและค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ผ่านสโลแกนหลักขององค์กร “When the Buying Stops, the Killing Can Too หยุดซื้อ คือ หยุดฆ่า

เราทำงานรณรงค์ที่เอเชียเป็นหลัก ในประเทศที่ยังมีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าสูง และได้ทำโครงการรณรงค์ Ivory Free หยุดซื้องาช้างในประเทศจีน ฮ่องกง และล่าสุดในไทย

www.wildaidthai.org   www.facebook.com/wildaidthailand  IG: @wildaidthailand