อีสเทอร์น สตาร์ เผยแผนธุรกิจปี 60 ตั้งเป้ายอดรายได้ 2,200 ลบ. ลุยเปิดโครงการใหม่

อีสเทอร์น สตาร์ เผยแผนธุรกิจปี 60 ตั้งเป้ายอดรายได้ 2,200 ลบ. ลุยเปิดโครงการใหม่ ชูแบรนด์ EStar พร้อมปรับทัพเสริมความแข็งแกร่งรับปีระกา













อีสเทอร์น สตาร์  เผยแผนธุรกิจปี 2560 โตต่อเนื่องวางเป้ารายได้ 2,200 ล้านบาท และเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท พร้อมชูแบรนด์ EStar เตรียมพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ให้ครอบคลุมหลากหลายผลิตภัณฑ์และขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เน้นการบริหารจัดการให้ตอบโจทย์ลูกค้า (Customer focus) เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และระยอง และเสริมทัพผู้บริหาร ปรับทีมรวมทั้งกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับการเติบโตของธุรกิจ

ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) (ESTAR) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และในเขตอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยยังคงเน้นลูกค้าระดับกลาง-บน ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการเน้นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเพิ่มความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และราคาขาย รวมไปถึงแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดความผันผวน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรในระยะยาวมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้จะมีการปรับโครงสร้างการบริหารงานทีมงาน และกระบวนการทำงานให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับการเติบโตของธุรกิจ

สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท  ด้านการรับรู้รายได้ตั้งเป้าขั้นต่ำประมาณ 2,200 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการ Star View คอนโดมิเนียม วิวแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่าโครงการ 3,800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 6.7 ล้านบาท ด้วยเอกลักษณ์ของอาคารรวมทั้งความสมบูรณ์แบบของส่วนกลางและทัศนียภาพที่สวยงาม จึงทำให้เหลือยูนิตพร้อมขายเพียง 15% คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2560

2.โครงการนารา 9 คอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางสาทร ทำเลติดสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 9.7 ล้านบาท ขณะนี้เหลือยูนิตพร้อมขายเพียงราว 17% โดยอยู่ระหว่างการทยอยส่งมอบห้องให้ลูกค้า

3.โครงการแอมเบอร์ คอนโดมิเนียม ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีติวานนท์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท  ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท พร้อมเข้าอยู่ราวกลางปี 2561 เป็นต้นไป

สำหรับโครงการในเขตอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ปัจจุบันมี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสินทวี การ์เด้นท์ 2, โครงการวินเทจ โฮมวิลเลท 3 และโครงการแฮมเลท 3  ซึ่งภาพรวมมียอดขายและยอดรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะผลักดันให้มีอัตราการเติบโตทางด้านยอดขายและรายได้ อย่างน้อยราว 20% ในปี 2560 โดยจะมีการปรับภาพลักษณ์และรูปแบบให้ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น และชูจุดขายพื้นที่ใกล้สนามกอล์ฟและศูนย์กีฬา ที่มีบรรยากาศร่มรื่น เป็นสังคมคุณภาพ ซึ่งบริษัทเชื่อว่าพื้นที่บริเวณนี้มีศักยภาพสูง ด้วยการเดินทางที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย และพร้อมรองรับนโยบายการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกให้เป็นเป็นระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) ของรัฐบาลที่จะเริ่มทยอยเห็นผลตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวเสริมว่า  คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ ในปี 2560 ภาพรวมตลาดน่าจะทรงตัว

เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในการใช้จ่ายมากนัก อีกทั้งราคาที่ดินปรับขึ้นสูงอย่างรวดเร็วตามนโยบายการพัฒนาสาธารณูปโภคของรัฐ  ในขณะที่กำลังซื้อผู้บริโภคอาจตามไม่ทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง  สำหรับตลาดคอนโดมิเนียม เชื่อว่ายังมีความต้องการอยู่มาก  โดยความต้องการส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณพื้นที่ ที่มีการคมนาคมที่สะดวกไม่ว่าจะเป็นตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายหลัก/สายรอง หรือตามจุดขึ้นลงทางด่วนต่างๆที่รองรับการใช้ชีวิตในสังคมเมือง

“ คนจะเริ่มหันมาซื้อบ้านหลังที่ 2 เป็นคอนโดฯมากขึ้นเพื่ออยู่อาศัยในช่วงวันทำงาน  และมองว่าโครงการในรูปแบบ Mixed  use  ที่ผสมผสานระหว่างที่พักอาศัยและการใช้ประโยชน์อื่นๆ อาทิ พื้นที่สำหรับการค้า สำนักงาน หรือการใช้ประโยชน์รูปแบบอื่นๆ น่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น  ทั้งนี้มองว่า คอนโดมิเนียมในระดับราคากลาง ถึงกลางบน ( ราคา 5 – 10 ล้านบาทต้นๆ)  จะยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค” ดร.ต่อศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้แล้ว  บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างการบริหารงาน ทีมงาน และกระบวนการทำงานให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับการเติบโตของธุรกิจ เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ กลยุทธ์หลักคือสร้างการจดจำแบรนด์ “ EStar ” ที่มีรากฐานมายาวนานเกือบ 30 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ โดยมีจุดเด่นในด้านการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตอบสนองการใช้ชีวิตและความต้องการที่หลากหลาย ไปพร้อมกับการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าโดยให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการที่ตอบโจทย์ลูกค้า (Customer focus) ผ่านเครื่องมือต่างๆ อาทิ การบริหารความสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้า (CRM) เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer satisfaction)  และเราจะขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้ได้รับรู้และมีโอกาสมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกับอีสเทอร์น สตาร์ มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันบริษัทอีสเทอร์น  สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) (ESTAR) มีทุนจดทะเบียน 5,022,246,185 บาท (ชำระเต็ม) ซึ่งถือเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่มีทุนจดทะเบียนที่สูงในอันดับต้นๆ ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และด้วยรากฐานมายาวนานเกือบ 30 ปี ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินและการลงทุนสูงมาก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯสามารถก้าวเดินต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง แม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศอาจจะยังมีความผันผวนอยู่บ้างก็ตาม  ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวท้ายสุด

Eastern Star reveals 2017 business plan targeting 2,200 MB revenue Plan to launch new projects by promoting “EStar” Brand and strengthen its business for the Rooster year













Eastern Star reveals 2017 business plan to grow continuously. The goals are set at 2,200 MB of revenue and 1,000 MB of Sales volume in this year while promoting the almost 30 years of trust “EStar” brand and plan to diversify its products and customer segments to new target customers by proactively managing customer needs (Customer focus). The 2-3 new projects are planned to launch this year in both Bangkok and Rayong area with overall value over 3,000 MB. It will also adjust management team and align working processes to be more robust in order to grow capability and to support business growth.       

Dr. Torsak Lertsrisakulrut, Managing Director of Eastern Star Real Estate Public Company Limited (ESTAR), has revealed about 2017 business plan that ESTAR is planned to launch 2-3 new projects in the second half of this year in both Bangkok and Ban Chang, Rayong. It will focus on mid-tier to high-end customers with the strategy that is focusing on unique design identity and adding more variety in both products and sales price including to looking for opportunities in other business to reduce risks in case there might be fluctuation in real estate business. This is to build up business security in long term. Moreover, there will be a structure adjustment on management, working team and working processes to strengthen the firm and enhance capability to support business growth.       

In year 2017, we set growth target of overall sale at around 1,000 MB. For overall revenue, we set the minimum target at 2,200 MB.

Currently, we have existing active 3 projects sale in Bangkok which includes 1) Star View Project, the condominium with Chao Praya river view. It has project value of 3,800 MB, the sale price is starting from 6.7 MB. With the unique design, the perfection of facilities in common area and aesthetic view, these made us having only less than 15% of total units left and expect to close selling within year 2017. 2) Nara 9 Project, the luxury condominium in the midst of Sathorn located close to Chong Nonsri BTS station. It has project value of 2,400 MB with the starting sale price of 9.7 MB. We have now only 17% of total units left and it is during transferring to customers. 3) The Amber condominium Project, it is located at Tiwanon station of the purple line BTS. The project value is 2,000 MB with starting sale price of 2.59 MB and will be ready to move in from midyear 2018 onward.   
 
For the project in Rayong, (Ban Chang), we currently have 3 projects which are The Sinthawee Garden 2, The Vintage Home Village 3 and The Hamlet 3. The overall sale volume and income are about 100 MB per year. We plan to push forward sale volume and income of at least 20% increase in year 2017 by developing image and style to respond to target customers and promoting selling point that is close to golf club and sport center with our excellence natural surroundings and social community. We believe that this area has a very high potential for future because of the location and government project  on Eastern Economic Corridor (EEC) development in which its impact will be seen from the mid of 2017 onward.           

In addition, Dr. Torsak said that the real estate business in 2017 will most likely be maintained as previous year because of the economic situation uncertainty which impact customer feeling to spend and also the high land price which is the consequence of the major infrastructure development policy of the government. While the purchasing power of consumer is not increased like the land cost, we will carefully develop our new project to answer the real consumer needs. However, for condominium market we believe there is still in high demand especially in the prime and connecting area that is convenient for daily travel such as along BTS or MRT lines or express way gateway which supports the current urban lifestyle.     

“People will start to seek for condominium as a second home to live during working days. Moreover, the Mixed use project concept with the combination of residential, commercial, offices or other businesses will also be growing. In addition, the condominium price in middle to middle-high segment (price 5 to more than 10 MB) will be still in consumer demand.” Dr. Torsak said.     

Moreover our firm has adjusted the management structure, team and working processes to be more robust to support business growth and bring us to target goals. The main strategy is to build up “EStar” brand to be recognized as a brand of trust and reliability with almost 30 years of experience. We will emphasize our strength in design uniqueness and attention to every detail to respond to consumer lifestyle with various requirements as well as focusing customer needs by bringing in various tools such as Customer Relationship Management (CRM) program in order to gain more customer satisfaction. We will also expand to new target group to let them experience and becoming a part of our Eastern Star family.   

In present, Eastern Star Real Estate Public Company (ESTAR) has authorized capital at 5,022,246,185 Baht (Paid-up stock) which is the one of upper real estate firms in SET Thailand. And with almost 30 years foundation, together with the strong financial status this can be ensured that our business will grow sustainably even though the economic situation is still fluctuated. Dr. Torsak said eventually.