happy on January 24, 2017, 09:25:12 PM
ลอรีอัล ประเทศไทย เปิดศูนย์กระจายสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาตรฐาน LEED
เดินหน้าพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
• ศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวของลอรีอัลแห่งแรกในเอเชีย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน LEEDระดับ Silver ตอกย้ำพันธสัญญา “Sharing Beauty With All” เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2020
• ลดการใช้พลังงานร้อยละ 43 ลดปริมาณการใช้น้ำร้อยละ 40 ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซ Co2
• รองรับการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เร่งผลักดันอัตราการเติบโตธุรกิจเพื่อคงความเป็นผู้นำตลาดด้านความงาม 
Nathalie Gerschtein Keraudy
นางนาตาลี เกอร์ชไตน์ เคอโรวดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเปิดศูนย์กระจายสินค้า สีเขียวแห่งใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการดำเนินธุรกิจของเราตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกกระบวนการภายใต้ห่วงโซ่คุณค่า และช่วยผลักดันลอรีอัลบรรลุสู่เป้าหมายในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการนำความงามไปสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ตามพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี “Sharing Beauty With All” ในหลักด้าน ‘การผลิตอย่างยั่งยืน’
การผลิตอย่างยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวแห่งใหม่ออกแบบและก่อสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับทีพาร์ค ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าคุณภาพระดับสากลรายใหญ่ของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมเป้าหมายพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนปีของ ลอรีอัลกรุ๊ปภายใต้เสาหลักด้าน ‘การผลิตอย่างยั่งยืน’ ในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมลงร้อยละ 60 จากค่าดัชนีปี 2005 โดยศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าวได้รับรับรองมาตรฐานระดับ Silver จาก LEED® หรือ Leadership in Energy and Environmental Design ผู้นำด้านการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย United States Green Building Council เพื่อประเมินระดับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของอาคาร ซึ่งเป็นที่ยอมรับแพร่หลายที่สุดทั่วโลก
ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกของลอรีอัลกรุ๊ปในเอเชียที่ได้รับมาตรฐาน LEED ระดับ Silver โดยมีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร 21,036 ตารางเมตร ซึ่งสามารถลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเมื่อเปรียบเทียบกับอาคารมาตรฐานทั่วไปดังนี้
• ประหยัดพลังงานต่อปีได้ร้อยละ 43 ด้วยไฟ LED แบบพิเศษด้วยกำลังไฟฟ้าต่ำในระดับเกือบครึ่งของมาตรฐานทั่วไป
• ลดปริมาณการใช้น้ำภายในอาคารลงร้อยละ 40
• ลดปริมาณการใช้น้ำของภูมิทัศน์ลงร้อยละ 60 โดยการปลูกพันธุ์ไม้ที่ต้องการน้ำน้อยและปลูกพืชคลุมดิน
• ออกแบบระบบเพิ่มไหลเวียนอากาศภายนอกสู่ในอาคารสูงกว่าระดับมาตรฐาน
นอกจากนี้ การลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมยังได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ระยะแรกของการก่อสร้างอาคาร โดยกว่าร้อยละ 30 ของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นวัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากภายในประเทศ ทั้งยังมีการนำขยะและสิ่งเหลือใช้ในระหว่างการก่อสร้างอาคารกลับมาผลิตซ้ำและใช้ใหม่ถึงร้อยละ 75
“ทีพาร์คและลอรีอัล ประเทศไทย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนสำคัญให้ ลอรีอัลได้บรรลุถึงเป้าหมายพันธสัญญาเพื่อความยั่งยืน และภูมิใจอย่างมากที่การดำเนินงานของเราร่วมกับลอรีอัลสามารถได้การรับรองมาตรฐาน LEED ถึงระดับ Silver จากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับระดับโลก” นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด (TPARK) กล่าวการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อรองรับการเติบโต นอกเหนือจากการดำเนินตามพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนแล้ว ศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวแห่งใหม่นี้ยังเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของลอรีอัลประเทศไทยในการพัฒนาเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทย
ลอรีอัล ประเทศไทย มีผลการดำเนินงานที่สวยงามในปี 2016 และมีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดกว่าสองเท่า อันเป็นผลมาจากการเป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์สำหรับผิวหน้า และอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในตลาดเมคอัพ โดย
ลอรีอัล ประเทศไทยมียอดขายจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนกว่า 123 ล้านชิ้น จาก 21 แบรนด์ผลิตภัณฑ์ ในปีที่ผ่านมา
“เรามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในแต่ละปีและยังคงเป็นบริษัทความงามที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเป็นผู้นำตลาดสกินแคร์สำหรับผิวหน้า และด้วยแบรนด์นิกซ์ (NYX) ผลิตภัณฑ์เมคอัพคุณภาพสูง มาตรฐานระดับมืออาชีพในราคาที่เข้าถึงได้จากสหรัฐอเมริกาเพิ่มเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของลอรีอัล ประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกที่เข้มแข็งอื่นๆ ของลอรีอัล เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดด้านความงามได้ในอนาคตอันใกล้นี้” นางนาตาลี เคอร์ชไตน์ เคอโรวดีกล่าวเสริม
ศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวใหม่ตั้งอยู่ที่ทีพาร์ค บางนา โดยจะเป็นคลังจัดเก็บสินค้ารวมกว่า10,000 รายการสินค้า (SKUs) สำหรับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของลอรีอัล ประเทศไทย จากทั้ง 4 แผนกได้แก่ แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง * * * * * * * * * *
เกี่ยวกับลอรีอัล กรุ๊ปลอรีอัลทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 105 ปี โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ความงามระดับโลกที่หลากหลายและเกื้อหนุนกัน 32 แบรนด์ ในปี 2015 ลอรีอัลกรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 25.26 พันล้านยูโรและมีพนักงานทั้งสิ้น 82,900 คนทั่วโลก ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงตลาดมวลชน ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าในสนามบิน ร้านค้าปลีก และอี-คอมเมิร์ส ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานวิจัย 3,870 คน มุ่งตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก ลอรีอัลมีพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับปี 2020 “Sharing Beauty with All” หรือ “แบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง” เป็นแนวทางกำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนาในทุกภาคส่วนของลอรีอัลกรุ๊ป www.loreal.comเกี่ยวกับลอรีอัล ประเทศไทยลอรีอัล ประเทศไทย คือบริษัทความงามที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด ปัจจุบันนำเข้าและจัดจำหน่าย 21 แบรนด์ความงามชั้นนำของโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 แผนก ดังนี้
• แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค ได้แก่ ลอรีอัล ปารีส การ์นิเย่ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก และ นิกซ์ โปรเฟสชั่นแนล เมคอัพ
• แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ได้แก่ ลังโคม ไบโอเธิร์ม จิออร์จิโอ อาร์มานี่ ราล์ฟ ลอเรน คาชาเรล กี ลาโรชย์ คีลส์ ชู อูเอมูระ วิคเตอร์ แอนด์ รอล์ฟ ดีเซล อีฟส์ แซงต์ โลร็องต์ คลาริโซนิค และ เออเบิน ดีเคย์
• แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ ได้แก่ ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และ เคเรสตาส
• แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ได้แก่ ลา โรช-โพเซย์ และ วิชี่
« Last Edit: January 24, 2017, 09:38:28 PM by happy »
Logged
