ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ
ผลงานการสร้างของ ไบลดิ้ง เอดจ์ พิคเจอร์ส/ บลูมเฮ้าส์
ภาพยนตร์ของ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน
SPLIT
เจมส์ แม็คอะวอย
อันย่า เทย์เลอร์-จอย
เบ็ตตี้ บั๊คลี่ย์
เฮลี่ย์ ลู ริชาร์ดสัน
เจสสิก้า ซูล่า
ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
สตีเว่น ชไนเดอร์
อัชวิน ราจัน
เควิน เฟรกส์
อำนวยการสร้างโดย
เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน
เจสัน บลูม
มาร์ค บีนสต็อค
เขียนบทและกำกับโดย
เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน
ชื่อภาพยนตร์ SPLIT
ชื่อไทย จิตหลุดโลก
วันที่เข้าฉาย 2 กุมภาพันธ์ 2560
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัดSplit จิตหลุดโลก คือภาพยนตร์ทริลเลอร์สุดระทึก เรื่องราวของเควิน (เจมส์ แม็คอะวอย) ชายโรคจิตที่มี 23 บุคลิกในตัวเอง ซึ่งลักพาตัวกลุ่มเด็กสาว 3 คน นำโดยเคซี่ (อันย่า เทย์เลอร์-จอย จาก The Witch) มาขังไว้
ภายใต้ 23 บุคลิกในตัวเขา คุณหมอเฟลทเชอร์ จิตแพทย์ของเขา เชื่อว่ามีบุคลิกหนึ่งที่ครอบงำบุคลิกอื่น ๆ อยู่... ท่ามกลางบุคลิกที่แตกต่างภายในตัวเขา เควินจะต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ขณะที่ผู้คนรายล้อมรอบตัวเราจะต้องเอาตัวรอดในการเผชิญหน้ากับเขาเช่นเดียวกันSplit จิตหลุดโลก กำหนดฉายในไทย 2 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์เบื้องหลังงานสร้าง
มือเขียนบท/ ผู้กำกับ/ ผู้อำนวยการสร้าง เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน กลับมาเพื่อสร้างอารมณ์ตื่นเต้นจับใจแบบที่เคยสร้างเอาไว้ในภาพยนตร์อย่าง The Sixth Sense, Unbreakable และ Signs ด้วยผลงานเรื่อง Split ภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์ที่ขุดลึกลงสู่ซอกลึกลับในความคิดที่ทั้งมีพรสวรรค์และแตกร้าวของชายคนหนึ่ง นี่คือผลงานใหม่เรื่องต่อมาของชยามาลานหลังจากภาพยนตร์ฮิตเมื่อปีที่แล้วอย่าง The Visit ชยามาลานได้กลับไปร่วมทีมกับผู้อำนวยการสร้าง เจสัน บลูม (The Purge และภาพยนตร์ชุด Insidious, The Gift) เพื่อสร้างภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพยนตร์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของชยามาลานจนถึงปัจจุบัน”
ถึงแม้ เควิน (เจมส์ แม็คอะวอย จากภาพยนตร์ชุด X-Men, Wanted) จะมีถึง 23 บุคลิก โดยแต่ละบุคลิกต่างมีคุณลักษณะทางร่างกายที่มีความโดดเด่น แต่สำหรับ ดร.เฟล็ทเชอร์ (เบ็ตตี้ บั๊คลี่ย์ เจ้าของรางวัลโทนี่, The Happening, ผลงานทางทีวีเรื่อง Oz) จิตแพทย์ที่เขาไว้วางใจ ยังคงมีหนึ่งบุคลิกที่แฝงตัวอยู่ และนับวันยิ่งแสดงตัวเด่นชัดและควบคุมบุคลิกอื่นๆ ไว้
เมื่อถูกบีบให้ต้องลักพาตัวสาววัยรุ่นสามคนที่นำโดย เคซี่ย์ ผู้ช่างสังเกตและมุ่งมั่น (อันยา เทย์เลอร์-จอย จาก The Witch) เควินต้องเผชิญสงครามเพื่อเอาตัวรอดท่ามกลางเหล่าบุคลิกทั้งหมดที่ถูกกักอยู่ภายในตัวเขา รวมถึงทุกคนรอบๆ ตัวเขา เมื่อกำแพงที่กั้นระหว่างบุคลิกต่างๆ ของเขาเริ่มพังทลายลง
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่ง The Guardian เรียกว่าเป็น “ผลงานการผสมผสานระหว่างฮิทช์ค็อกและภาพยนตร์สยองขวัญชิ้นเอก” ชยามาลานและบลูม ได้รวบรวมทีมงานหลักจากภาพยนตร์เรื่อง The Visit ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลของพวกเขาในปี 2015
ทีมงานเบื้องหลังของพวกเขา ได้แก่ ผู้อำนวยการสร้าง มาร์ค บีนสต็อค (The Visit, Quarantine 2: Terminal) และผู้อำนวยการสร้างบริหาร อัชวิน ราจัน (The Visit, Devil), สตีเว่น สไนเดอร์ (The Visit, ภาพยนตร์ชุด Insidious) และเควิน เฟรกส์ (John Wick, The November Man)
ทีมงานหลังกล้องที่ประสบความสำเร็จของ Split ล้วนแต่เป็นผู้ที่เคยร่วมงานกับชยามาลานเป็นประจำ และยังมีทีมงานหน้าใหม่อีกหลายคน นำทีมโดยผู้กำกับภาพ ไมเคิล จีอูลาคิส (It Follows, John Dies at the End), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ มาร่า เลอเพียร์-ชลูป (Django Unchained, ผลงานทางทีวีเรื่อง True Detective), ผู้ลำดับภาพ ลุค เซียร์ร็อคชี่ (The Visit, The Happening), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ปาโค่ เดลกาโด (The Danish Girl, Les Misérables), ผู้แต่งดนตรีประกอบ เวสต์ ดิแลน ธอร์ดสัน (Joy, Dixieland) และมิวสิค ซูเปอร์ไวเซอร์ ซูซาน เจค็อบส์ (Unbreakable, The Visit)รากเหง้าแห่งความสยอง:
Split เริ่มต้น
ผู้ชมภาพยนตร์ได้รู้จักกับโลกอันลึกลับซับซ้อนของ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ในปี 1999 จากภาพยนตร์ที่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลกอย่างเรื่อง The Sixth Sense ซึ่งติดตามมาด้วยภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์อย่าง Unbreakable และ Signs
ชยามาลานเริ่มต้นผลงานบทใหม่ในปี 2015 ด้วยผลงานอันน่าสะพรึง เรี่อง The Visit ซึ่งทำรายได้จากทั่วโลกไปเกือบ $100 ล้านดอลลาร์ การใช้โมเดลเดียวกันในการสร้าง และเพื่อให้ได้อิสระในการคิดสร้างสรรค์เต็มที่ ชยามาลานตัดสินใจที่จะหันไปสู่รากเหง้าที่เป็นอิสระของเขาด้วยการออกทุนสร้างภาพยนตร์เรื่อง Split ด้วยตัวเอง
“ผมอยากสร้างงานใหม่ๆ กับภาพยนตร์ทุกเรื่องด้วยการทำสิ่งที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน” ชยามาลานบอก “นั่นคือเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผม และมันก็มีอันตรายและมีปัญหาเยอะด้วย โดยเฉพาะเมื่อต้องขายมันให้กับโลกนี้”
หลังจากความสำเร็จของ The Visit ชยามาลานได้ร่วมทีมกับ บลูม และบริษัท บลูมเฮ้าส์ โปรดักชั่นส์ของเขาอีกครั้งเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่อง Split
บลูม ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อช่วยดูแลงานสร้างของภาพยนตร์ทุนน้อย จนถึงภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ระดับโลก ได้พูดถึงการร่วมงานของเขากับชยามาลานว่า “ไนท์สามารถเล่าเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครที่มีความพิเศษมากเหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางฉากหลังที่พูดถึงประเด็นปัญหาใหญ่ Split ไม่ใช่ภาพยนตร์ทุนสร้างน้อยตามแบบทั่วๆ ไป มันคืองานที่มีวิสัยทัศน์ยิ่งใหญ่ที่ใช้ทุนสร้างจำกัด มันไม่ใช่งานซีจีไอหรือทุนสร้างหลายร้อยล้านที่ทำให้ Split ให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์เอพิค แต่มันคือเรื่องราวที่แสนเร้าใจของไนท์ต่างหากครับ”
ด้วยจุดเริ่มต้นที่ใกล้ตัวมากขึ้น ทำให้ชยามาลานสามารถมุ่งเน้นพลังของเขาไปที่เรื่องและการพัฒนาตัวละครด้วยการกำจัดเสียงคัดค้านและตัวแปรอื่นๆ ที่มักมาพร้อมกับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่กว่านี้ “มันง่ายมากครับที่จะกระแทกผมออกจากโซนปลอดภัย ซึ่งคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงชอบสร้างภาพยนตร์ฟอร์มเล็กลงมา” ชยามาลานบอก “แบบนั้นผมสามารถที่จะปฏิเสธปัจจัยบางอย่าง ผมสามารถได้ยินเสียงจากแง่มุมสร้างสรรค์ที่จะคอยบอกผมถ้าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันหลุดไปจากแนวทาง”
ชยามาลานเสนอไอเดียของ Split ระหว่างดินเนอร์กับราจัน ผู้ร่วมงานกับเขามานาน และยังเป็นประธานบริษัท ไบลดิ้ง เอดจ์ พิคเจอร์ส ของชยามาลานด้วย “ผมประทับใจในทันทีครับ ผมคิดว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับไนท์มาก มันคือการหลอมรวมเรื่องราวทุกแบบที่เขาบอกเล่า” ราจันกล่าว “เขาจดไอเดีย พร้อมกับสองฉากเอาไว้บนกระดาษชิ้นหนึ่ง และมันก็ตราตรึงใจมาก”
บลูมตอบรับต่อเรื่องราวดราม่าและความซับซ้อนของผลงานชิ้นใหม่ของชยามาลานทันที รวมถึงรูปแบบที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เดินตามขนบของภาพยนตร์ทริลเลอร์ทั่วๆ ไป “คนดูจะเพลิดเพลินไปกับ Split ทั้งในระดับความเป็น ‘ภาพยนตร์ตลาดดูเพลิน’ ในขณะเดียวกัน มันก็บีบให้พวกเขาสะท้อนถึงธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งเป็นธีมที่แฝงอยู่ และเป็นเรื่องที่ถูกนำเสนอมาตลอดในงานของไนท์”
สไตล์การสร้างภาพยนตร์ของชยามาลานนั้นมากเกินกว่าการเป็นภาพยนตร์แนวใดแนวหนึ่ง “ภาพยนตร์แต่ละเรื่องจะมีเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาเอง” ผู้อำนวยการสร้างบริหารชไนเดอร์ กล่าว “เขาผสมรวมทั้งเรื่องเล่าขาน ตำนาน และเรื่องเล่าอื่นๆ และผสมรวมเข้ากับแบ็คกราวน์และประสบการณ์ของเขาเอง ภาพยนตร์ของเขาทุกเรื่องครอบคลุมธีมและตัวละครที่มีความซับซ้อน และผมก็รู้สึกทึ่งกับความลึกของ Split มากครับ”
ชไนเดอร์เชื่อว่าคนดูไม่เพียงแต่จะได้รับความบันเทิงจากภาพยนตร์เรื่อง Split เท่านั้น แต่พวกเขายังจะได้รับความท้าทายด้วย “ความหวังของผมนั้นมีความทะเยอทะยานไม่ต่างจากไนท์หรอกครับในเรื่องที่ว่าจุดแข็งของภาพยนตร์เรื่องนี้ในการเล่าเรื่อง มันจะจุดประกายการโต้แย้งเกี่ยวกับความซับซ้อนของตัวตนมนุษย์”
ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่มีต่อการมีพลังจิตพิเศษใน The Sixth Sense, ความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ใน Unbreakable หรือการแสดงอาการป่วยในช่วงเวลากลางคืนใน The Visit ชยามาลานเริ่มต้นเรื่องราวของเขาด้วยไอเดียที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นเท่านั้น จากนั้น ชยามาลานก็จะนำพาการเดินทางของตัวละครของเขาไปสู่โลกพิเศษที่เรื่องราวเกิดขึ้นจากความพยายามดิ้นรนของตัวละครเอง
ในฐานะคนเล่าเรื่อง ชยามาลานจับคู่การค้นคว้าเข้ากับจินตนาการอันบริสุทธิ์ ผลงานภาพยนตร์ของเขาในแนวเขย่าขวัญและเหนือธรรมชาติ นำเขาไปสู่การนำไอเดียมาจากเรื่องราวลึกลับชวนติดตาม และใช้เรื่องราวเหล่านั้นมาเป็นฐานในการสร้างจินตนาการและถามคำถามง่ายๆ ว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้า...”
ชยามาลานอธิบายว่า “ผมกำลังพูดถึงสิ่งที่คุณเชื่อและผลักดันเข้าสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ ผมสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้า... ในโรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder) แต่ละบุคลิกภาพต่างเชื่อว่าพวกเขาเป็นอย่างที่เป็นอยู่ร้อยเปอร์เซนต์ ถ้าบุคลิกหนึ่งเชื่อว่าพวกเขาเป็นโรคเบาหวานหรือมีคอเลสเตอรอลสูง ร่างกายของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปตามระบบความเชื่อหรือไม่ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าบุคลิกหนึ่งเชื่อว่าเขามีพลังเหนือธรรมชาติล่ะ มันจะเป็นยังไงนะ”
ระหว่างเรียนอยู่ที่ NYU ชยามาลานได้เข้าคอร์สเรียนหลายคอร์สที่มีการพูดถึงเรื่องโรคหลายบุคลิก (DID) และตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ยังรู้สึกทึ่งกับทฤษฎีที่เกี่ยวกับอาการของโรคเหล่านี้
เมื่อชยามาลานเริ่มต้นเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Split เขาได้อ่านเจอเรื่องที่ดีมากเกี่ยวกับหลายเคสที่มีการบันทึกเอกสารเอาไว้ และเรื่องราวของคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อ
จินตนาการของเขา เพื่อเล่าเรื่องราวเหนือธรรมชาติของเขา ชยามาลานได้พูดคุยกับจิตแพทย์หลายคนในแขนงนี้ และได้ความรู้ว่านักบำบัดจะใช้วิธีอย่างไรในการจัดการตัวเองในกระบวนการบำบัดคนป่วยในกลุ่มนี้ ความอยากรู้อยากเห็นนี้สะท้อนให้เห็นในตัวละครที่กลายมาเป็น เควินและดร.เฟล็ทเชอร์
“ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการผสมผสานเข้าด้วยกันของเรื่องทักษะและการเล่าเรื่องที่ไนท์นำมาสู่สื่อนี้ และมีการผจญภัยสุดมหัศจรรย์เป็นแกนหลัก” ราจันบอก “การแสดงนั้นน่าตื่นตะลึงมาก ผมคิดว่ามันจะก้องกังวานในใจของคนดูครับ”
ในฐานะผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องว่าสร้างภาพยนตร์ในสายเดียวกับฮิทช์ค็อก ชยามาลานทุ่มเทให้กับทุกฉาก “ไนท์เป็นพวกนิยมในความสมบูรณ์แบบ เขาทำภาพสตอรี่บอร์ดของแต่ละชอตเพื่อให้แน่ใจว่าเขากำลังเดินตามจินตนาการต้นแบบของเขา” ผู้อำนวยการสร้างบีนสต็อคกล่าว “เขาต้องการให้ทุกชอต ทุกวินาทีออกมาดีที่สุด และนั่นก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจอย่างมากครับ”
เช่นเดียวกับทุกงานที่ชยามาลานทำ ภาพลักษณ์ของ Split มีลักษณะจำเพาะมาก “มันเป็นภาพยนตร์สายหดหู่ แต่กลับมีภาพที่น่าตื่นตะลึงที่มาพร้อมโทนสีที่สวยงาม และใช้แสงเงา” บลูมอธิบาย “ไนท์มีความสามารถที่หาใครเปรียบไม่ได้ในเรื่องของการสร้างความกลัวและความหวาดกลัวในเรื่องทางโลกและเรื่องธรรมดาทั่วไป ซึ่งกลับทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูน่าหวั่นเกรง แทนที่จะทำให้มันเป็นเรื่องที่ดูเกินจริง”