DEMCO สุดยอด! ถูกดึงเข้าคำนวณดัชนี sSET Index สะท้อนเป็นหุ้นขวัญใจมหาชน สภาพคล่องสูง
DEMCO เป็นปลื้ม! ติดโผ 102 หลักทรัพย์ ที่ถูกถึงเข้าคำนวณในดัชนี "sSET Index" (เอสเซ็ท) เป็นหุ้นขวัญใจนักลงทุน สภาพคล่องในการซื้อขายสูง บิ๊กบอส "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์"ระบุจูงใจให้กองทุน นักลงทุนสถาบันทั้งใน-ต่างชาติ เพิ่มน้ำหนักลงทุน
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) กล่าวถึงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่จะใช้คำนวณดัชนี "sSET Index" (เอสเซ็ท) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 (มกราคม-มิถุนายน 2560) ซึ่งมีจำนวน 102 หลักทรัพย์ โดย DEMCO เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ถูกนำเข้าคำนวณในรอบนี้ว่า สะท้อนให้เห็นว่า DEMCO เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ นักลงทุนจึงให้ความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ
"ผมในฐานะผู้บริหารและทีมงานของบริษัท พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพื่อผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และการที่ DEMCO ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนีsSET Index เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนทั่วไป กองทุน นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นDEMCO"นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
อนึ่ง ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2559 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 40.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.40% เมื่อเทียบกับขาดทุนสุทธิจำนวน 161.28 ล้านบาท ในไตรมาส 3/ 2558 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงฐาน ซึ่งเป็นรายการพิเศษที่ลดลง โดยใน ไตรมาส 3/2559 บริษัทฯได้บันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 24.27 ล้านบาท สำหรับอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 13.03% เป็นกำไร 1.88% ขณะที่รายได้รวมไตรมาส 3/2559 เท่ากับ 2,173.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.63%เมื่อเทียบกับรายได้รวมจำนวน 1,237.43 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นที่ใช้คำนวณในดัชนี sSET พิจารณาจาก 1) ขนาดของหุ้น โดยคัดเลือกเฉพาะหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ในช่วงที่กำหนดคืออยู่ในลำดับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 90-98 เมื่อเรียงลำดับหุ้นทั้งตลาดตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสะสมจากมากไปน้อย (90th-98th percentile ranked by cumulative market capitalization) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เทียบเคียงได้กับแนวทางของต่างประเทศ 2) ต้องมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (free-float) อย่างน้อย 20% และ 3) เป็นหุ้นที่มีการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในแต่ละเดือนต้องมีสัดส่วนอย่างน้อย 0.5% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนของบริษัท เป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 9 เดือนจาก 12 เดือนในช่วงที่พิจารณาโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการทบทวนรายชื่อทุก 6 เดือน
