MSN on December 23, 2016, 09:03:06 AM


บาจา (ประเทศไทย) วางจำหน่ายบาจา เฮอริเทจ “บาจาเทนนิส” และ “บาจา บุลเล็ตส์”ตามคำเรียกร้อง เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า เริ่มวางจำหน่าย 25 ธันวาคม2559 ในร้านบาจาที่ได้รับการเลือกสรร

จากความสำเร็จของการนำรองเท้า “บาจาเทนนิส” (Bata Tennis) รองเท้ารุ่นคลาสสิคของบาจา มาวางจำหน่ายอีกครั้งในการเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งบาจา ครบ120 ปี ในปี พ.ศ. 2557 เพื่อส่งต่อเรื่องราวความภาคภูมิใจที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้บาจาได้มองเห็นโอกาสในการนำรองเท้ารุ่นคลาสสิคของแบรนด์บาจา ที่เคยได้รับความนิยมกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งจึงผุดโปรเจกต์ “บาจาเฮอริเทจ” (Bata Heritage) ขึ้นอย่างเป็นทางการ

สำหรับโปรเจกต์ “บาจา เฮอริเทจ”ทางบาจามีความตั้งใจที่จะส่งต่อเรื่องราวความภาคภูมิใจที่มีมาอย่างยาวนานของบาจา ทั้งในด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือและการตอบรับจากลูกค้าที่ดีเสมอมา โดยเลือกรองเท้าคลาสสิค 3 รุ่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมาร่วมโปรเจกต์นี้ คือ “บาจาเทนนิส” (Bata Tennis)“บาจาบุลเล็ตส์” (Bata Bullets) และ “บาจาซาฟารี” (Bata Safari)

หลังจากกระแสตอบรับที่ดีในการวางจำหน่าย “บาจา เทนนิส ฟีเจอร์ริ่ง พีนัทส์” (Bata Tennis featuring Peanuts) ไปเมื่อปลายเดือนมกราคม 2559 และกระแสเรียกร้องจากคนรักรองเท้าที่ถามเข้ามา บาจา ประเทศไทยจึงนำรองเท้า “บาจาเฮอริเทจ” เข้ามาวางจำหน่าย 2 รุ่นด้วยกัน คือ “บาจาเทนนิส” และ “บาจาบุลเล็ตส์” โดยมี บาจาเทนนิสแบบคลาสสิคและแบบต่างๆ รวม 10 แบบ และ บาจาบุลเล็ตส์ จำนวน 3 แบบ เริ่มวางขายที่ร้านบาจาจำนวน 14 สาขาคือ เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซาพระราม 9, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลมารีนา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี, จังซีลอน ภูเก็ต, แฟชั่นไอส์แลนด์, หัวหินมาเก็ตวิลเลจ, เอ็ม บี เค, และเมกาบางนาในวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป


สำหรับ “บาจาเทนนิส” ผลิตขึ้นครั้งแรกที่เมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย โดยเน้นให้เป็นรองเท้าสวมง่ายใส่สบาย และได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในการผลิตเพื่อตอบโจทย์ของมิสเตอร์โทมัส บาจา ที่จะผลิตรองเท้าเพื่อมนุษยชาติ “บาจาเทนนิส”เป็นหนึ่งในรองเท้าที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของบาจา ทำยอดขายทั่วโลกได้กว่า 500 ล้านคู่ นับตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างมากของรองเท้ารุ่นนี้ ก่อนหยุดวางจำหน่ายไป จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2557 บาจาจึงได้นำสินค้ารุ่นดังกล่าวมาผลิต และวางขายอีกครั้ง ในโอกาสครบรอบ120 ปี บาจา






เมื่อ “บาจาเทนนิส” ได้นำกลับมาผลิตอีกครั้งในปี พศ.2557 โดยทางดีไซน์เนอร์ เลือกที่จะคงรูปแบบดั้งเดิมของรองเท้าให้เหมือนเดิมทุกประการ แต่ใช้วัสดุในการทำรองเท้าที่ดีขึ้น และสีสันที่ดูสนุกสนานมากขึ้นด้วยดีไซน์อันคลาสสิคที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น เหมาะสำหรับคนเมือง ทำให้กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะผู้ที่ชอบรองเท้าสไตล์วินเทจ และ แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ของรองเท้ารุ่นดังกล่าวเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆให้กับ บาจา อีกครั้งด้วย โดยร้านค้าไฮเอนด์ชื่อดังจากทั่วโลกต่างก็ได้นำสินค้ารุ่นดังกล่าวเข้าไปจำหน่าย โดยเริ่มแรกที่ ร้าน โคเล็ตต์ (Colette) ในปารีส, ร้าน โดเวอร์ สตรีท มาร์เก็ต ใน นิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว และ ร้าน เท็น คอร์โซ คอร์โม (10 CorsoCormo) ในมิลาน และ โซล เป็นต้น

ในปีดังกล่าวทำให้บาจาได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่าง กอม เดอร์ การ์ซอง (Comme Des Garçons) สำหรับคอลเล็คชั่น “บาจา เทนนิส ฟีเจอร์ริ่ง กอม เดอร์ การ์ซอง” ออกมาขายเป็นครั้งแรก และในปีต่อมาก็มีรองเท้า “บาจา เทนนิส ฟีเจอร์ริ่ง พีนัทส์” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการกำเนิดตัวการ์ตูนชื่อดัง จัดจำหน่ายเฉพาะในร้านค้าระดับไฮเอนด์ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย


สำหรับ “บาจา บุลเล็ตส์” เป็นรองเท้าที่ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2507 ในโรงงานบาจาที่เมือง เบลแคมป์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นรองเท้ากีฬาหลักที่ใช้ในการแข่งขันสำหรับทีมบาสเกตบอล “The Baltimore Bullets”  ทีมNBA ของรัฐแมรี่แลนด์

รองเท้า “บาจา บุลเล็ตส์” ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และได้มีการผลิตรองเท้ากีฬารุ่นอื่นๆ ขึ้นสำหรับกีฬาชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็น มวยปล้ำ ฟุตบอล และจักรยาน ก่อนที่จะเลิกผลิตไปในปี พ.ศ. 2513

“บาจา บุลเล็ตส์” ได้กลับมาสู่แวดวงรองเท้าอีกครั้งในคอลเลคชั่น Spring/Summer 2016 โดยครั้งนี้ได้มีการผลิตสินค้าในรุ่นคลาสสิคโดยคงรูปแบบให้เหมือนกับรองเท้าที่เคยผลิตในปีพ.ศ. 2507 สำหรับผู้ที่นิยมรองเท้าสไตล์วินเทจ และมีรุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย สำหรับรุ่นที่วางขายที่ประเทศไทยในปีนี้เป็นรุ่น บาจา บุลเล็ตส์หุ้มข้อ คลาสสิค สีขาว และบาจาบุลเล็ตส์ แวกซ์ สีดำ และสีเขียวอาร์มี่

และในปีหน้า“บาจา เฮอริเทจ”ก็ได้มีโปรเจกต์ร่วมกับ การ์ตูนญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก อย่าง “แอสโตรบอย”(Astro Boy)หรือในชื่อไทยว่า “เจ้าหนูปรมาณู” การ์ตูนจากปลายปากกาของนักวาดการ์ตูนชื่อดัง เทะซึกะ โอะซามุ (Tezuka Osamu)มาโลดแล่นอยู่บนรองเท้า “บาจาเทนนิส” จำนวน 3 ลาย ส่วน “บาจาบุลเล็ตส์” ก็ได้ร่วมกับจูเลียน เดวิด (Julien David)ดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศส ออกแบบรองเท้าให้เป็นแนว Street-Smart โดยได้รับแรงบันดาลใจของลายคลื่นมากจากภาพพิมพ์ “The Great Wave of Kanagawa” ของศิลปินชาวญี่ปุ่น ชื่อ คะสึชิกะ โฮะกุไซ (Katsushika Hokusai)ที่ได้มีการเปิดไปตัวรองเท้าไปแล้วพร้อมคอลเลคชั่นเสื้อผ้าของ Julien David ในงานParisFashion Week 2017 ซึ่งทั้ง 2คอลเลคชั่นนี้ จะเข้ามาวางจำหน่ายที่ประเทศไทยปี 2560 อย่างแน่นอน

สำหรับข่าวสารความเคลื่อนไหวของ “บาจาเฮอริเทจ” ว่าจะมีรุ่นใหม่เข้ามาวางขายที่ไหน เมื่อไหร่ และจะมีการร่วมงานกับดีไซน์เนอร์คนไหนอีกบ้าง สามารถติดตามได้ที่ www.facebook.com/batathailand หรือ อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ BataThailand

เกี่ยวกับ บาจา
กว่า 123 ปี ที่ บาจา  เป็น ผู้นำในการออกแบบ ผลิต และ จัดจำหน่าย รองเท้า มาโดยตลอด วันนี้บาจามีธุรกิจการค้าครอบคลุมทั่วโลก กว่าประเทศ 70 ใน 5 ทวีป คือ ยุโรป เอเชีย-แปซิฟิกแอฟริกา  อเมริกาเหนือ และ อเมริกาใต้  โดยจัดจำหน่ายในรองเท้าให้กับลูกค้าของบาจาในหลักล้านคู่ต่อวันทั่วโลก
บาจา ก่อตั้งโดย มิสเตอร์ โทมัส บาจา และ พี่น้อง ในปี พ.ศ. 2437 หรือ เมื่อกว่า 120 ที่แล้ว ในเมือง ซลีน สาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย หรือ สาธารณรัฐเช็กในปัจจุบัน โดย รองเท้าบาจาเป็นแบรนด์ที่ได้รับความสำเร็จอย่างสูงจนสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยทุกวันนี้ บาจา ยังคงเป็นธุรกิจที่บริหารโดยสมาชิกของครอบครัวบาจาอยู่เช่นเดิม และ มีแบรนด์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์อีกมากมายทั้ง บาจา (Bata),บาจา คอมฟิต (Bata Comfit),แมรี่ แคลร์ (Marie Claire), นอร์ท สตาร์ (North Star),ปาตาปาต้า (PataPata), พาวเวอร์ (Power), ไวน์เบรนเนอร์ (Weinbrenner), แอมบาสซาดอร์(Ambassador), บับเบิ้ล กัมเมอรส์ (Bubblegummers), บาจา อินดัสเตรียล (Bata Industrial), ทอมมี่ แทกกี้ (TomyTakkies), บาจา แอคเซสเซอร์รี่ (Bata Accessories), บาจา ชูส์แคร์ (Bata Shoes Care)  และ ฟุตอิน (Footin)
รองเท้าบาจาวางจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2472 หรือเมื่อเกือบๆ 90 ปีที่แล้ว โดยจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก กว่า 280 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งนั่นทำให้ บาจา กลายเป็น เครือข่ายค้าปลีกสินค้าแฟชั่นที่บริหารด้วยตัวเองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมตัวแทนจำหน่ายอีกกว่า 1,000 ราย ของบาจาอีกด้วย ในประเทศไทยนอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ของตนเองแล้วยังเป็นผู้จัดจำหน่ายรองเท้าอย่างเป็นทางการของสินค้าแบรนด์อื่นๆด้วย เช่น สกอลล์ (Scholl), โปโล ราฟลอเรน (Polo Ralph Lauren) ลีวายส์ (Levi’s) และ สเก็ตเชอร์ส (Skechers) เข้ามาจัดจำหน่ายในร้านของบาจา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นด้วย

เว็บไซต์ :www.bata.com , www.bata.co.th
เฟสบุ๊ค  : www.facebook.com/BataThailand
อินสตาแกรม :BataThailand, ทวิตเตอร์: BataThailand
« Last Edit: December 24, 2016, 01:23:34 PM by MSN »