KTAM เปิดขายกองทุนคู่แฝดทิ้งทวนปี 59 KTSELTF–KTSET 50 RMFไอพีโอ 13-21 ธ.ค.นี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย ซีเล็คทีฟ หุ้นระยะยาว ( KTSE-LTF) และกองทุนเปิดกรุงไทย SET 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTSET50RMF) เสนอขาย IPO ในวันที่ 13 -21 ธันวาคม 2559 โดยทั้ง2 กองทุน บริษัทได้คัดสรรตราสารที่ลงทุนในกองทุนให้เหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคตของผู้ลงทุน
กองทุน KTSE -LTF เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะเน้นการบริหารแบบเชิงรุก เน้นลงทุนในหุ้นเป็นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง และเล็ก ผู้จัดการกองทุนจะเฟ้นหาหลักทรัพย์ที่มีศักยภาพ ในกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ การฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจในประเทศ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐที่ยังคงออกมาอย่างต่อเนื่องทางด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเช่าซื้อ เป็นต้น
ส่วนกองทุน KTSET 50 RMF เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET 50 โดยเฉลี่ย ในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการออมเงินแบบต่อเนื่องระยะยาวเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุ โดยผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีราคา SET 50 โดยผู้ลงทุนสามารถนำเงินลงทุนไปใช้สิทธิประโยชน์ในการหัดลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากผู้ลงทุนปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้ง 2 กองทุน กำหนด เงินลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังได้รับโปรโมชั่น โดยยอดเงินลงทุนทุกๆ 50,000 บาท รับเงินคืนเข้ากองทุน KTPLUS 100 บาท และผู้ลงทุนที่สนใจนอกจากจะซื้อผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศแล้ว ยังไปพบกันได้ที่บูธธนาคารกรุงไทย ในวันที่ 16-18 ธันวาคม 2559 ภายในงาน Thailand Smart Money ณ ศูนย์การค้าเซ็นต์ทรัล ลาดพร้าว ชั้น 3 และบูธบลจ.กรุงไทย ในงานวางแผนภาษีกับ LTF & RMFในวันที่ 17-18 ธันวาคม 2559 ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ถนนรัชดา)โดยบริษัทได้คาดการณ์ว่า เป้าหมายดัชนีในปี 2560 อยู่ที่ ประมาณ 1,670 จุด