การเปิดตัว รถยนต์เฟียตโฉมใหม่ เฟียต 500
การเปิดตัวรถยนต์เฟียตโฉมใหม่ รุ่น เฟียต 500 ซึ่งตอบสนองทุกวัตถุประสงค์และทุกการขับขี่ เป็นรถยนต์ที่ฉีกแนว ด้วยกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์และนำเสนอด้วยวิธีการใหม่ๆ เฟียตได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาและรถยนต์รุ่นนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยานยนต์สายพันธ์อิตาเลียนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เฟียตกำลังขับเคลื่อนสู่โลกแห่งอนาคต
ไม่ว่าใครก็สามารถปรับโฉมรถยนต์รุ่นนี้ได้ เพราะรูปทรงของรถยนต์คันนี้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ ยนตรกรรมบางรุ่นเป็นผลพวงมาจากความคิดสร้างสรรค์ของชาวอิตาเลียนในช่วงหลังสงคราม อาทิ เฟียต 500 หรือ เวสป้า ซึ่งไม่สามารถวัดกันได้ที่ชื่อ หรือสมรรถนะการขับขี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยานยนต์เหล่านี้เปรียบเสมือนยานยนต์อันทรงพลังพร้อมด้วยการออกแบบที่ฉีกแนว ตามแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานด้านยานยนต์ ด้วยแรงบันดาลใจเหล่านี้จึงรังสรรค์เกิดผลงานชิ้นโบว์แดงที่เป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ และ เฟียต 500 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้านี้ด้วย
เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นถึงสองครั้ง เรื่องแรกเป็นเรื่องราวของบรรดาเจ้าของรถยนต์ แฟนคลับและผู้ที่คลั่งไคล้รถยนต์รุ่นนี้เป็นจำนวนมากที่ช่วยกันโจษขานถึงภาพลักษณ์ที่ดี ความน่าเชื่อถือและความประหยัดของรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา เป็นส่วนที่ดีที่สุดที่สื่อถึงอิสระและอารมณ์ เฟียต 500 เชื่อมโยงความทรงจำต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกัน ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนและรักครั้งแรก และยังเป็นภาพในความทรงจำที่ดีที่หลายๆคนอยากจะฟื้นความทรงจำเหล่านั้นให้หวนมาอีกครั้ง
รถยนต์ เฟียต 500 ออกแบบโดยดันเต กีอาโกซา ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และได้ปิดฉากลงในช่วงสงคราม มีผลทำให้การปรับโฉมรถยนต์รุ่นต่างๆของบริษัทสิ้นสุดลงไปด้วย อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอีก 10 ปีถัดมา ช่วงเวลานั้นนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างแบรนด์ของเฟียตในระยะเวลา 100 ปี
การออกแบบ เฟียต 500 ให้มีความละม้ายคล้ายกับรุ่นเดิม เป็นการกลับมาอีกครั้งอย่างไม่ธรรมดา ต้องขอบคุณรูปลักษณ์ที่มีสไตล์โดดเด่นและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปลุกกระแสของความเป็นอมตะ และนี่คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อีกหนึ่งครั้ง
คำกล่าวที่ว่าการเปิดตัวรถยนต์โฉมใหม่ของ เฟียต 500 นั้นเป็นเพียงแค่เรื่องธรรมดาหรือเป็นการนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่นั้นคงจะไม่ถูกต้องนัก เป้าหมายของเฟียตไม่ใช่แค่การออกแบบรถยนต์ที่คล้ายกับ เฟียต 500 รุ่นเก่า แต่ต้องการออกแบบรถยนต์ที่สามารถกลายเป็น เฟียต 500 ได้ เฟียต 500 โฉมใหม่เป็นการนำกระบวนการด้านนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ลูกค้ากำลังให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้ เพื่อมากำหนดทิศทางที่ชัดเจนในการวางตำแหน่งสินค้าของเฟียตในอนาคต รถยนต์เฟียต 500 รุ่นใหม่ยังคงรักษาแนวคิดดั้งเดิมในด้านของรูปทรงและการใช้งาน เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายท่านคาดหวัง และเป็นการย้อนอดีตถึงอารมณ์และความทรงจำที่ไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เฟียตก้าวล้ำขอบเขตอันจำกัดของรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องกล่าวถึงคือนวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถนำมารวมกันอยู่ภายในรถยนต์รุ่นใหม่คันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอันดับแรกคือนำผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆมาร่วมในการพัฒนาและวางแผนการตลาดของรถยนต์รุ่นนี้ โดยเริ่มจากการหากลุ่มเป้าหมายกว่า 3,000,000 คนให้เสนอแนวความคิดของพวกเขาเข้ามาในโครงการผ่านทางเวที “เฟียต 500 ต้องการคุณ” โครงการนี้เป็นวัฒนธรรมใหม่ระหว่างผู้ผลิตและลูกค้า ซึ่งส่งผลให้เฟียตกลายเป็นองค์กรที่เปิดรับความคิดเห็นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ใกล้เคียงที่สุด เฟียต 500 เป็นรถยนต์ของลูกค้า ออกแบบโดยลูกค้า คำกล่าวนี้ได้สรุปปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาของโครงการนี้ ซึ่งนำเสนอสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยังไม่เคยมีบริษัทใดนำเสนอในตลาดรถยนต์กลุ่มนี้มาก่อน เฟียตได้ผ่านมาตรฐานการจำกัดการปล่อยมลพิษของ ยูโร 5 ล่วงหน้าถึง 2 ปีก่อนวันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฟียตเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มากไปกว่านั้น ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ขนาดเล็ก (3.5 เมตร) ที่ได้รับคะแนนระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชนของ EuroNCAP และพร้อมแล้วที่จะเข้าทดสอบระดับ 6 ดาวเมื่อมีการเปิดให้เข้าทดสอบ
รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เพียงแค่โครงสร้างที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น ยังเป็นเพราะชิ้นส่วนที่นำมาประกอบตัวถังและโครงสร้างภายใน อาทิ ถุงลมนิรภัย 7 ลูก (รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นเดียวที่มีถุงลมนิรภัยที่หัวเข่า) และโปรแกรมควบคุมการทรงตัว (ESP) ที่มีในเครื่องยนต์ทุกรุ่น (มาตรฐานในรุ่น 100 แรงม้า 1.4 16v) องค์ประกอบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับกลุ่มรถยนต์กลุ่มนี้
เฟียต 500 เป็นรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นแรกที่มีให้เลือกหลากหลาย เฟียต 500 มี 4 รุ่นพร้อมด้วยเครื่องยนต์ 3 แบบ เฉดสีมีให้เลือกมากถึง 12 เฉดและ 6 เฉดสีจะเป็นสีวินเทจที่ทำให้นึกถึงช่วงปี 2493 และ 2503 รวมถึงการเคลือบสีถึง 3 ชั้นด้วยกระบวนการที่ใช้สำหรับการผลิตรถยนต์หรู เบาะนั่งมีให้เลือกถึง 15 แบบซึ่งรวมถึงเบาะหนังระดับหรูอย่างคอนดูราและฟรัว ขอบล้อมีให้เลือกถึง 9 แบบด้วยกัน นอกจากนั้นเฟียตยังออกแบบ สติกเกอร์มาถึง 19 ลาย ซึ่งทำให้ทั้งหมดสามารถตกแต่งลวดลายได้มากกว่า 500,000 สไตล์ (หรือ 549,936 สไตล์) สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับรถยนต์รุ่นนี้คือเครื่องพ่นน้ำหอมไฟฟ้า ซึ่งมีน้ำหอมให้เลือก 3 กลิ่น มากไปกว่านั้นลูกค้าสามารถเลือกสีกุญแจรถได้ ซึ่งจะคล้ายกับตลาดของโทรศัพท์มือถือ ลูกค้าสามารถเลือกสีของกุญแจให้เหมาะกับสีรถยนต์หรือเลือกแบบอื่นๆที่ตนเองชื่นชอบได้ และยังไม่เคยมีรถยนต์ยี่ห้อใดนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์หลากหลายเช่นนี้มาก่อน
เฟียต 500 สร้างจากแนวคิดที่ครอบคลุมไม่ใช่แนวคิดเฉพาะเจาะจง และเฟียตคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบแนวคิดง่ายๆไปจนถึงผู้ที่ชื่นชอบนวัตกรรมใหม่ๆ แนวคิดในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของตัวบุคคลได้แสดงผ่านทางการกระบวนการนำเทคโนโลยีด้านอิเล็กโทรนิคมาใช้ในห้องโดยสาร (แบบเสียบสาย) บลูแอนด์มี (Blue&Me) และ ไอพ็อด (iPod) สามารถนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นนี้ได้ เพราะมีเต้าเสียบรองรับ นอกจากนั้นยังมีเครื่องนำทางแบบพกพาซึ่งคิดค้นมาเพื่อ เฟียต 500 โดยเฉพาะ ออกแบบโดย แมกเนตี มาเรลลี(Magneti Marelli) ซึ่งสามารถวางบนแผงหน้าปัดได้พอดีและเชื่อมต่อกับฟังก์ชั่นอื่นๆภายในรถยนต์ได้
เฟียตมอบข้อเสนอหลากหลายให้กับลูกค้า เพราะเฟียต 500 ต้องเป็นรถยนต์สำหรับทุกคน เป็นรถยนต์ของทุกคน ที่ทุกคนเป็นผู้ออกแบบ เฟียต 500 คือรถยนต์เฟียตโฉมใหม่และเฟียตโฉมใหม่นี้เป็นรถยนต์ของทุกคน
การเปิดตัวเฟียต 500 โฉมใหม่ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ เป็นการประกาศจุดยืนของเฟียตใน อนาคตที่ต้องการให้ตลาดและสังคมรับรู้ รถยนต์รุ่นใหม่นี้ถือเป็นการกระตุ้นการใช้พลังงานอย่างมีจิตสำนึก เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการค้นหาประสบการณ์ในด้านยานยนต์ที่มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพและอารมณ์ เน้นความแตกต่างมากกว่าการผลิตจำนวนมาก ซึ่งการลดทอนบางขั้นตอนไม่ได้หมายถึงการตัดขั้นตอนนั้นออกไป เฟียต 500 เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมของแรงบันดาลใจเหล่านี้ และด้วยรถยนต์รุ่นนี้เอง ทำให้เฟียตสามารถยิ้มต้อนรับกับอนาคตได้
รายละเอียดรถยนต์
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเป็นเวลา 50 ปี พอดี รถยนต์เฟียต 500 โฉมใหม่ได้เปิดตัวที่ ตูริน และจะมีการจัดทำการตลาดทันทีหลังจากการเปิดตัว รถยนต์รุ่นนี้เกิดขึ้นมาด้วยแนวคิด 3+1 ที่ได้มาจากงานมอเตอร์โชว์ ณ กรุงเจนีวา ในปี 2547 เฟียต 500 โฉมใหม่กลายเป็นรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ที่รักอิสระและชอบรถยนต์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังต้องการรถยนต์ที่ให้ความบันเทิงและเหมาะกับทุกการขับขี่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราคาไม่แพง มีเสน่ห์และสนุกสนาน รถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดึงดูดใจ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และกำลังได้รับกระแสความสนใจจากตลาด อย่างไรก็ตาม เฟียตยังคงรักษาประวัติศาสตร์และพันธกิจที่จะผลิตรถยนต์สไตล์ดั้งเดิม ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ช่วยประหยัดพลังงานและช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น รถยนต์เฟียต 500 ได้พัฒนาคุณภาพในด้านของความนุ่มนวลและความปลอดภัยในการขับขี่ นำเสนอเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับตลาดกลุ่มนี้ พร้อมทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่ๆสอดแทรกเข้าไปด้วย
เฟียต มุ่งมั่นในการสรรหาทรัพยากรที่ดีที่สุดและวิธีการที่ดีที่สุด จึงก่อให้เกิดโครงการที่ดีๆขึ้นมา อย่างไรก็ตามโครงการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับโครงการเฟียต 500 เฟียตตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่โดยการนำแนวความคิดของความร่วมมือมาเป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา และโครงการนี้เป็นโครงการแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่นำผู้ที่สนใจจากทั่วโลกมาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับรถยนต์ในอนาคตผ่านเวทีบนอินเตอร์เน็ตชื่อ “เฟียต 500 ต้องการคุณ” นักออกแบบและวิศวกรของเฟียต เป็นผู้เก็บรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆและนำมาตั้งเป็นเป้าหมาย เพื่อพัฒนารถยนต์ที่มีสไตล์และใช้อุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังมากที่สุด เฟียต 500 จึงเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน โดยพัฒนามาจากแนวความคิดของทุกคน
ท้ายที่สุด รถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ยืนยันความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ของเฟียต ออโตโมบิลได้อย่างชัดเจน เป็นสัญชาตญานของเฟียตที่ย้อนอดีตไปไกลและสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของตลาดกลุ่มนี้ เฟียต 500 เกิดขึ้นมาด้วยเทคนิคพิเศษและการออกแบบสไตล์ดั้งเดิมที่ได้รับการคิดค้นมาหลายทศวรรษ และได้มาจากความชำนาญที่มีเพียงบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดยุโรปมาโดยตลอดเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเฟียตไม่เพียงแต่เอาชนะตลาดรถยนต์ขนาดเล็กด้วยยอดขายแล้วแต่เหนือสิ่งอื่นใดยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าด้วย ลูกค้าไว้วางใจในแบรนด์และประสบการณ์ของนักออกแบบ
รูปทรงเย้ายวนใจบวกสไตล์อันทันสมัย
เฟียต 500 แบบ 3 ประตูโฉมใหม่ รูปทรงกะทัดรัดออกแบบโดยศูนย์การออกแบบเฟียต ความยาว 355 เซนติเมตร ความกว้าง 163 เซนติเมตร ความสูง 149 เซนติเมตรและฐานล้อกว้าง 230 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กที่ดูนุ่มนวลและสง่างาม สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ขับขี่ได้แม้ในขณะที่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดทุกวัน เพราะเป็นรถยนต์ที่ไม่กินพื้นที่มากและเหมาะสมกับวิถีชีวิตแบบเร่งรีบ
ด้วยรูปทรงที่มีเสน่ห์ รถยนต์รุ่นนี้จึงเป็นรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อมองจากด้านข้าง รูปทรงเพรียวกะทัดรัด ส่วนหน้าของรถยนต์เป็นการผสมผสานกันระหว่างเฟียตรุ่นใหม่และรุ่นเก่าเข้าด้วยกัน เอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถยนต์รุ่นแรกคือการผสมผสานกันของไฟหน้าทรงกลม ไฟล่างที่ให้แสงสว่างอย่างเต็มที่ กระจังหน้าและส่วนที่เป็นโลโก้ด้วย
นอกจากนั้น ส่วนหน้าของตัวถังจะลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อเน้นย้ำความแข็งแรง ในขณะที่ด้านหลังจะมีรูปทรงที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย มือจับโครเมี่ยมที่ชวนให้นึกถึง เฟียต 500 รุ่นแรก รูปลักษณ์ภายนอกสื่อถึงสไตล์อันโดนเด่น ที่มาพร้อมด้วยเฉดสีถึง 12 สี (สีเมทาลิก สีธรรมดาและสีมุก) และยังตกแต่งวัสดุภายในได้หลากสไตล์ด้วยวัสดุผ้าและหนัง
เฟียต 500 เป็นรถยนต์เฟียตรุ่นแรกที่ใช้ชื่อเป็นโลโก้ติดไว้ที่ล้อแมกซ์และวงล้อ รถยนต์รุ่นนี้มีเสน่ห์และคงความดั้งเดิมไว้ ซึ่งมาพร้อมกับวัสดุตกแต่งที่สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่แรกเห็น เบาะโดยสารที่กระชับเพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เฟียตใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบความสมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า มากไปกว่านั้นเฟียตรุ่นใหม่ยังคงได้รับกลิ่นอายจากรุ่นแรกแต่นำมาปรับแต่งใหม่ด้วยวัสดุที่ดีเยี่ยม เช่น วัสดุหนังแบบฟรัวที่นำเสนอเป็นรายแรกในตลาดกลุ่มนี้ อุปกรณ์โครเมี่ยม เบาะที่นั่งแบบ 2 เฉดสี แผงหน้าปัดที่เข้ากับสีรถยนต์ รวมถึงที่เก็บของภายในรถยนต์ และเบาะนั่งโดยสารที่นั่งได้ 4 คนแบบสบายๆ
เครื่องยนต์สีเขียว
รถยนต์รุ่นนี้ ยังยืนยันถึงสมรรถนะอันทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เฟียตนำเสนอเกียร์ 5 จังหวะด้วยการเปลี่ยนเกียร์แบบ Dualogic เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญด้วย เครื่องยนต์ทั้งหมดที่ติดตั้งภายในเฟียต 500 ได้รับการพัฒนาและผลิตมาแล้วกว่า 10 ล้านเครื่อง ผ่านมาตรฐาน ยูโร 5 และยังผ่านการควบคุมการปล่อยมลพิษที่มีผลบังคับใช้ในปี 2552 1.3 มัลติเจ็ท ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ลดควันดำ (PDF) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์รุ่นนี้
ความปลอดภัยเหนือระดับ
เฟียต 500 เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ปลอดภัยมากที่สุดในบรรดารถยนต์ในรุ่นเดียวกันและได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานการควบคุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพรวมเข้ากับอัตราเร่งของเครื่องยนต์และสามารถควบคุมการขับขี่ได้ตลอดเวลา รถยนต์รุ่นใหม่นี้จะช่วยนำพาคุณออกจากสถานการณ์คับขันได้โดยง่าย เฟียต 500 สามารถรองรับถุงลมนิรภัยได้มากถึง 7 แห่งซึ่งถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (2 ลูกใส่ไว้ด้านหน้า 2 ลูกใส่ไว้ด้านหลัง 2 ลูกอยู่ด้านข้างและอีก 1 ลูกใส่ไว้เพื่อปกป้องหัวเข่า) ซึ่งยังไม่เคยมีรถยนต์ในรุ่นเดียวกันทำมาก่อน นอกจากนี้ยังได้มีการนำเทคนิคพิเศษเข้ามาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้ตลอดเวลา (การป้องกันก่อนเกิดเหตุ) จากระบบเบรกแบบ ABS ที่มาพร้อมกับระบบกระจายแรงเบรก (EDB) กลายมาเป็นการใช้ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันล้อลื่นไถล (ASR) รวมถึงระบบควบคุมเกียร์บนทางลาด เพื่อช่วยผู้ขับขี่ขณะขับบนทางลาดและระบบเสริมแรงเบรก (HBA) ที่เข้ามาช่วยเมื่อต้องหยุดรถยนต์กะทันหัน
เฟียต 500 มีองค์ประกอบที่หลากหลายและความนุ่มนวลพร้อมที่จะไปกับคุณทุกเส้นทางด้วยความปลอดภัย นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบกันสะเทือนอิสระแมคเฟอร์สันอยู่ด้านหน้า และระบบกันสะเทือนแบบกึ่งอิสระยึดกับล้อทั้ง 4 พร้อมด้วยคานแบบบิดติดตั้งที่ด้านหลัง แบบทั้ง 2 นี้ได้รับการพัฒนามาจากการออกแบบของ แมกเนติ มาเรลลี (Magneti Marelli) ที่ใช้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆของเฟียต อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งใหม่เพื่อให้เข้ากับรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อการควบคุมอันดีเยี่ยมและเพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่สูงสุด
500,000 รูปแบบในการสัมผัสกับเฟียต 500 โฉมใหม่
รถยนต์รุ่นนี้จะมีให้เลือกถึง 4 แบบสำหรับตลาดหลักๆในประเทศแถบยุโรป อาทิ เนคด์ ป็อบ สปอร์ต และเลาจน์ เครื่องยนต์ 1.4 - 100 แรงม้า สำหรับตัวถังรถนั้นมีเฉดสีให้เลือกมากถึง 12 เฉด ลูกค้าสามารถเลือกวงล้อได้ถึง 9 แบบ ซึ่ง 7 ใน 9 แบบนั้นจะเป็นวงล้อแบบอัลลอยด์ พร้อมกับขนาดของขอบยาง 15” และ 16” เมื่อนำอุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องเล่นต่างๆที่เฟียตนำเสนอมาทั้งหมดมารวมกัน จะถือได้ว่าเฟียตสามารถผลิตรถยนต์ที่โดนใจและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เพราะลูกค้าสามารถผสมผสานอุปกรณ์ตกแต่งได้มากถึง 500,000 แบบ เช่น ลูกค้าสามารถออกแบบรถยนต์ให้ดูแตกต่างด้วยการเพิ่มลายของสติ๊กเกอร์เข้าไปด้านข้าง บนหลังคาหรือฝาครอบและสามารถเลือกลวดลายได้ 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายธงตารางหมากรุกไปจนถึงธงชาติอิตาลี ลายบาร์โค้ดหรือรถแข่ง และอุปกรณ์ที่เป็นโครเมี่ยม เช่น กระจกมองข้าง ฝาครอบล้อหรือตัวกันกระแทกที่ติดอยู่ตรงกันชนหน้า
ภายในรถยนต์นั้นมีการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการขับขี่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เครื่องพ่นน้ำหอมแบบใหม่ ที่มีกลิ่นน้ำหอมให้เลือก 3 กลิ่น นอกจากนั้นยังมีที่สำหรับแขวนเสื้อแจ๊คเกตด้วย ภายในรถยนต์ยังมีที่สำหรับวางโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องเล่น ไอพ็อด (iPod) ยูเอสบี และที่ชารจ์ไฟ 12 โวลต์ อีกทั้งคันเร่งอลูมีเนียม และตรงมือเปิดประตู ยังคงเอกลักษณ์ของเฟียต 500 รุ่นดั้งเดิมไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีที่ว่างสำหรับใส่ของ เช่น ที่สำหรับใส่กระเป๋าเดินทางอยู่ตรงประตูหลังเหมาะสำหรับใส่กระเป๋าเดินทางทุกขนาด
รายการอุปกรณ์ตกแต่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเฟียต 500 ในยุค 2503 ไว้ด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ทุกคนจดจำรถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ ด้วยความทุ่มเทในโปรแกรมพัฒนารถยนต์เพื่อลูกค้า รถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ตอกย้ำความเป็นรถยนต์อิตาเลียนได้อย่างดี เป็นรถยนต์ที่คุ้มค่า กุญแจรถยนต์รุ่นใหม่มีให้เลือกถึง 9 แบบเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสีที่เข้ากับสติ๊กเกอร์ของตัวรถได้
เครื่องมือพิเศษไม่เหมือนใครเพื่อความนุ่มนวลที่เหนือกว่า
Fiat 500 นำเสนอความแปลกใหม่หลายประการสำหรับตลาดกลุ่มนี้ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำคุณลักษณะเฉพาะซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขายในตลาดระดับบนเท่านั้นมาใช้ในรถยนต์รุ่นนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ลูกค้าสามารถเลือก Blue& Me ระดับพื้นฐาน (ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นแบบแฮนด์ฟรี พร้อมด้วยบลูทูธ อินเตอร์เฟส พร้อมด้วยการใช้คำสั่งด้วยเสียงที่นำสมัย, พอร์ท USB, เครื่องเล่น MP3 และตัวแปลข้อความตัวอักษร) หรือ เวอร์ชั่นล่าสุด (หลังจากเปิดตัวแล้ว): Blue & Me
Fiat 500 เป็นรุ่นแรกในรถยนต์กลุ่มเดียวกันที่ใช้ ระบบไฮไฟชั้นยอด ซึ่งรู้จักกันในนาม ระบบเสียงอินเตอร์สโคป หรือ Interscope Sound System ระบบเสริมนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับ Fiat 500 และนำมารวมเข้ากับวิทยุพร้อมซีดีและเครื่องเล่น MP3 ความแปลกใหม่ของระบบเสียงอินเตอร์สโคป คือ การใช้วิธีการที่แตกต่างกันสามแบบในเวลาเดียวกันเพื่อประมวลผลสัญญาณ ซึ่งทำขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินจากคุณภาพเสียงที่ไม่เหมือนใครเมื่อขับขี่รถยนต์
นอกจากระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่เป็นมาตรฐานทั่วไปแล้ว Fiat 500 ยังมีระบบควบคุมสภาพอากาศอันชาญฉลาดซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยควบคุมกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำการควบคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนของอากาศ การจ่ายอากาศ การควบคุมแรงกดอากาศและการทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศโดยอัตโนมัติ อุปกรณ์หลายๆ อย่างในรถยนต์รุ่นใหม่นี้เป็นระบบไฟฟ้าพร้อมด้วยฟังก์ชั่นไฟส่องสว่างกลางวัน (Day Time Running Light), กระจกซันรูฟขนาดใหญ่ (มีทั้งในแบบติดตั้งถาวรหรือแบบเปิดโดยใช้ไฟฟ้า) ซึ่งเน้นความสว่างภายในและเป็นคงความนิยมของหลังคาแบบแคนวาส รูฟ ซึ่งเป็นที่นิยมของรุ่น 500 ในช่วงปี ค.ศ. 1950 และ 1960 และท้ายที่สุด กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic Mirror) ซึ่งช่วยขจัดแสงสะท้อนที่น่ารำคาญใจจากรถยนต์คันหลังได้อีกด้วย