MSN on November 21, 2016, 09:59:08 PM
แสนสิริจุดพลุความสำเร็จ เดอะ ไลน์ 2 โครงการใหม่ เปิดพรีเซลล์ 2 วัน กวาดยอดขายรวมกว่า 4,000 ล้านบาท







          "เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์" กลุ่มลูกค้าคนไทยสนใจซื้อเพื่ออยู่เอง ส่วน "เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101" คว้ายอดขายจากลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และสนใจซื้อเพื่อลงทุน โดยสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท หลังเปิด Global Launch พร้อมกัน 6 ประเทศเอเชีย ฮ่องกง-สิงคโปร์-ไต้หวัน-จีน-มาเลเซีย-ไทย เผยทั้ง 2 โครงการมีดีมานด์สูงตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดโครงการ เพราะอยู่ทำเลใจกลางเมืองและใกล้รถไฟฟ้า และชูความสำเร็จจากแนวคิดการอยู่อาศัยแบบ "Co-Living Space" ครั้งแรกในไทยกับคอนโดมิเนียมทำเลใจกลางเมืองที่จัดเต็มพื้นที่ให้สามารถแบ่งปันความสุขร่วมกันในทุกพื้นที่ใช้สอยซึ่งประกอบด้วย Co-Lifestyle ครั้งแรกกับ Co-Kitchen พื้นที่สำหรับทำอาหารร่วมกันและเปิดรับอากาศธรรมชาติได้ Co-Working ครั้งแรกกับพื้นที่ทำงานที่เชื่อมต่อสวนสีเขียวและ Co-Recreation ครั้งแรกใน Southeast Asia ที่สนามกีฬาปรับเปลี่ยนได้ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด LED Multi-Sports Court ที่เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก

          นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดขายคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือระหว่าง แสนสิริ และ บีทีเอส กรุ๊ป แบรนด์ เดอะ ไลน์ 2 โครงการใหม่ล่าสุดที่นับว่ามีดีมานด์สูงทั้งจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดโครงการเพราะอยู่ในทำเลเมืองและใกล้รถไฟฟ้า คือ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีเพียง 250 เมตรและทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้น 1) เปิดการขายแบบ Global Launch ใน 6 ประเทศเอเชียได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน มาเลเซีย ไทยและสามารถสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติได้ถึง1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และสนใจซื้อเพื่อลงทุน ด้วยศักยภาพของทำเลที่เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวจากพื้นที่สุขุมวิทตอนต้น มีการคมนาคมที่มีรถไฟฟ้าผ่านมีการเติบโตของภาคอสังหาฯ อย่างรวดเร็วและยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยราคาคอนโดมิเนียมที่นำกลับมาขายใหม่เพิ่มขึ้น 34-38% และความต้องการเช่าในย่านนี้ที่มีกระแสตอบรับที่ดีจากดีมานต์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้รถไฟฟ้าโดยมีราคาเช่าตั้งแต่ 13,000 – 28,000 บาทต่อเดือน

          ขณะที่โครงการเดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ ระหว่างประดิพัทธ์ซอย 19 –21 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย 550 เมตร ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยสาเหตุที่ได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากคอนโดมิเนียมย่านสนามเป้‡า-อารีย์- สะพานควาย ยังคง ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก ทั้งนี้โครงการเดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์อยู่ใกล้แยกประดิพัทธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางสำคัญที่เชื่อมระหว่‹างย่านพระราม 6 - พหลโยธิน - วิภาวดี - รัชดาภิเษก - ลาดพร้าว รายล้อมไปด้วยระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า,สถานีอินเตอร์เชนจ์บางซื่อและทางพิเศษ นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญ เช่น โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, ตลาดนัดจตุจักร, ศูนย์การค้Œา, โรงแรม, สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ล้วนรองรับการใช้Œชีวิตทุกช่วงวัย ตั้งแต่‹วัยเด็ก หนุ่‹มสาวไปจนถึงวัยทำงาน จึงตอบสนองความสะดวกสบายให้กับทุกคนในครอบครัว

          ขณะที่ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ที่มีการพัฒนาใหม่ค่อนข้างน้อยเนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเป็šนอาคาร พาณิชย์ตลอดสองฝั่งถนนการรวมแปลงที่ดินให้มีขนาดเหมาะสมต่อการสร้างคอนโดมิเนียมโครงการใหม่จึงเกิดขึ้นได้ยาก อีกทั้ง ในย่านนี้ยังเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีผู้อาศัยเดิมอยู่เป็นจำนวนมาก

          เมื่อเกิดการพัฒนาโครงการใหม่‹จึงเป็นเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่นิยมซื้อเก็บไว้เป็šนทรัพยสินที่สร้Œางมูลค่‹าเพิ่มในอนาคตดังนั้นโครงการระดับพรีเมี่ยมในทำเลนี้จึงมักจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

          "อีกปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองโครงการประสบความสำเร็จยังมาจากการกลุ่มลูกค้าชื่นชอบแนวคิดการอยู่อาศัย "Co-Living Space" ที่นับเป็นครั้งแรกในไทยกับคอนโดมิเนียม ที่จัดเต็มพื้นที่ให้สามารถแบ่งปันความสุขร่วมกันในทุกพื้นที่ใช้สอยซึ่งประกอบด้วย Co-Lifestyleครั้งแรกกับ Co-Kitchen พื้นที่สำหรับทำอาหารร่วมกัน และเปิดรับอากาศธรรมชาติได้ Co-Working ครั้งแรกกับพื้นที่ทำงานที่เชื่อมต่อสวน สีเขียวและCo-Recreation ครั้งแรกใน Southeast Asia ที่สนามกีฬาปรับเปลี่ยนได้ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด LED Multi-Sports Court ที่เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 จนสามารถสร้างยอดขาย จากทั้ง 2 โครงการได้ถึง 4,000 ล้านบาท" นายอุทัย กล่าว