"แลนดี้ โฮม" ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในธุรกิจรับสร้างบ้าน อัดงบฯ 40 ล้าน

"แลนดี้ โฮม" ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในธุรกิจรับสร้างบ้าน อัดงบฯ 40 ล้าน ปรับโฉมโชว์รูมใหม่ ผ่านแนวคิด Customization For Life



แลนดี้ โฮม เดินหน้าก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง  ทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ปรับโฉมโชว์รูมใหม่ทั้ง 8 สาขา ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ผ่านแนวคิด Customization For Life พร้อมยกระดับการบริการแบบ One Stop Service ที่เดียวครบ จบทุกเรื่องสร้างบ้าน  คาดว่าจะเพิ่มอัตราการเข้าเยี่ยมชมของลูกค้า Walk in ได้มากกว่า 50 % พร้อมโชว์ยอดขาย 10 เดือน กวาดยอดแล้ว 700 ล้านบาท คาดถึงสิ้นปีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าที่วางไว้

นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม  (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แลนดี้ โฮม เป็นศูนย์รับสร้างบ้านอันดับหนึ่ง ที่เน้นเรื่องมาตรฐานการก่อสร้างที่มีคุณภาพ มีนวัตกรรมที่โดดเด่น และเพื่อคงความเป็นหนึ่งของธุรกิจรับสร้างบ้านในปัจจุบัน บริษัทฯ จำเป็นต้องปรับตัว ด้วยการปรับโฉมโชว์รูมใหม่ เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

 โดยสิ่งแรกคือ ต้องการสร้างการบริการที่เป็นเลิศ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทุกสาขา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน  สิ่งต่อมาก็คือ ต้องการอำนวยความสะดวกลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยเน้นการบริการแบบ One Stop Service ที่เดียวครบ จบทุกเรื่องสร้างบ้าน  พร้อมสร้างบรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่นเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและพร้อมเปิดใจในการอธิบายถึงบ้านในฝัน ที่ต้องการได้อย่างแท้จริง  และสุดท้ายคือการเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ Update Trend Model แบบบ้าน New Design เพิ่มความดึงดูดให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโชว์รูมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้เกิดยอดขาย รวมถึงส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กร

สำหรับการปรับปรุงโชว์รูมในครั้งนี้ใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท โดยมีทั้ง 8 สาขา  ซึ่งถือเป็นการรีโนเวทครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี เพื่อให้ทุกสาขามีมาตรฐานการบริการที่เท่าเทียมกัน ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการคิดจะสร้างบ้าน ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การสร้างบ้าน ในแบบ Landy Experience ที่จะทำให้ลูกค้าได้บ้าน ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง 

“ที่ผ่านมา มีลูกค้า Walk in เยี่ยมชมสาขาประมาณเดือนละ 100 คน/สาขา คาดว่าโชว์รูมและการบริการตามแนวคิดใหม่นี้ จะสามารถเพิ่มอัตราการเข้าเยี่ยมชมของลูกค้า Walk in ได้มากกว่า 50 %  และเราเชื่อมั่นว่า Show Room แลนดี้ โฮม โฉมใหม่ทุกสาขา จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี ทั้งในเรื่อง Model แบบบ้านที่หลากหลาย  และยังสร้างการรับรู้ของลูกค้าให้เห็นได้ถึงความแตกต่างของแลนดี้ โฮม กับบริษัท รับสร้างบ้านทั่วไป ซึ่งการบริการที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้ บริษัท แลนดี้ โฮม ครองความเป็นศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 ของประเทศไทยต่อไปได้อย่างแน่นอน” นางสาวพรรัตน์ กล่าว

ด้าน นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม  (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการรีโนเวทโชว์รูม ตลอดจนการ Rebranding ในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของแลนดี้ โฮม ภายใต้แนวคิด “Customization For Life”  โดยทางบริษัทฯ ได้ทำการวิจัยและสังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม ที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป  ทำให้พบว่าผู้บริโภคต้องการบ้านที่สะท้อนความเป็นตัวตนมากขึ้น   จนนำมาสู่แนวคิดใหม่ Customization for Life “บ้าน ที่ตอบโจทย์ การใช้ชีวิต” ที่สามารถปรับเปลี่ยนการออกแบบ หรือฟังก์ชั่นการใช้งาน ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกท่านได้อย่างลงตัว

“เรามีทีมสถาปนิกนักออกแบบที่มีฝีมืออันดับต้นๆ มาจัดตั้งเป็นหน่วยงานภายในบริษัทฯ  คิดค้นพัฒนาแบบบ้านให้มีความทันสมัยมากขึ้น มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตรงตามความต้องการ อีกทั้งยังมีโปรแกรมการออกแบบและปรับแบบ 3D Design ที่จะทำให้ลูกค้าได้เห็นภาพบ้านในฝันก่อนสร้างจริง รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ  สวยงาม  เหมาะกับบ้านแต่ละแบบ  พร้อมเดินหน้าพัฒนาแบบบ้านให้มีความหลากหลาย ด้วยการบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการก่อสร้างอย่างครบวงจร” นางสาวภัทรา กล่าว

สำหรับแนวคิด Customization For Life  บริษัทฯ ได้สร้างการรับรู้ผ่านแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน

1. ออกแบบบ้าน New Design แลนดี้ โฮม ยังคงความเป็น  Trendsetter  ในธุรกิจรับสร้างบ้านเสมอมา  ด้วยการนำเสนอแบบบ้านใหม่ทุกๆ ปี  ซึ่งเราได้ทำการวิจัยและสังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม  ที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป  ทำให้พบว่าผู้บริโภคอยากได้บ้านที่สะท้อนความเป็นตัวตนมากขึ้น  จนนำมาสู่แรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ล่าสุด “The Noble Series” บ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เปิดตัวในงาน Home Builder Expo 2016 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

2. ปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ทาง บริษัทฯ ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่เพื่อรอบรับกับความต้องการของลูกค้าในยุค Digital ทั้งในเรื่องของหน้าตาของเว็บไซต์ที่มีความสวยงามทันสมัย และความสะดวกต่อการเข้าใช้งาน มีการรองรับการทำงานทั้งระบบ Apple iOs และ Android รองรับได้ในทุกหน้าจอการแสดงผล คือสามารถรองรับการทำงานไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือมือถือสมาร์ทโฟนในแบบ Responsive Design  พร้อมอัพเดตแบบบ้านซีรี่ย์ใหม่ก่อนใคร ด้วยเมนูการค้นหาแบบบ้านที่ใช่ ตอบสนองได้ในทุกความต้องการ รวมถึงโมเดลบ้านแบบ 360 องศา  โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ 30,000 คนต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 50% ภายในสิ้นปี 2559 นี้ จากปัจจุบันที่มีสถิติผู้เข้าชมประมาณ 15,000 ต่อเดือน

3. ผลิตและเผยแพร่ VDO Presentation เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้าน ผ่านแนวคิด Customization For Life ที่เน้นสื่อสารไปยังผู้บริโภค ให้รับรู้ถึงความแตกต่างของบริษัทฯ ที่ไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่มีมาตรฐานการบริการที่ครบวงจร และมีนวัตกรรมด้านการก่อสร้างที่เหนือบริษัทรับสร้างบ้านอื่นๆ

4. Renovate Showroom พร้อมพัฒนาการบริการให้มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ที่อำนวยความสะดวกลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยเน้นการบริการแบบ One Stop Service
           
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ จากปัจจัยในเรื่องของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ส่งผลให้ลูกค้าที่มีที่ดินเปล่ารอการปลูกสร้างบ้าน ตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น เพราะหากปล่อยให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าก็จะต้องเสียภาษีตามข้อกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2560 โดยผลการดำเนินงาน 10 เดือน ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวมแล้ว 700 ล้านบาท  โดยคาดว่าจากแผนกลยุทธ์การสื่อสาร ที่ทางบริษัทฯ ได้ทำการ Rebranding เพื่อตอกย้ำและนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของแลนดี้ โฮม ภายใต้แนวคิด “Customization For Life” จะทำให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าเดิมที่วางไว้อย่างแน่นอน 

ส่วนภาพรวมในปีหน้าคิดว่าเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมน่าจะดีขึ้น เพราะมีปัจจัยบวกที่สหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณยกเลิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย การค้าขายระหว่างไทยและสหรัฐฯ จะเป็นรูปแบบทวิภาคีมากขึ้น เพราะปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิก TPP ขณะที่ในอาเซียนมี 4 ประเทศที่เป็นสมาชิก ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ บูรไน แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงต้องรอความชัดเจนหลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการก่อน ว่าจะมีการยกเลิกนโยบาย TPP ทั้งหมด หรือเป็นเพียงบางส่วน