MSN on November 16, 2016, 03:59:41 PM
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานเทคโนโลยีปิโตรเลียมนานาชาติ (IPTC) ครั้งที่ 10 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน The 10th Edition of the International Petroleum Technology Conference (IPTC) หรือการประชุมเทคโนโลยีปิโตรเลียมนานาชาติ ครั้งที่ 10 ซึ่งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
ในพิธีพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานกรรมการ ปตท.สผ. นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของคณะกรรมการบริหาร IPTC นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการประชุม IPTC นายเดวิด แบลนชาร์ด ประธานกรรมการ IPTC พร้อมคณะกรรมการจัดงาน IPTC และคณะผู้บริหาร ปตท.สผ. เฝ้ารับเสด็จ จากนั้นได้เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการต่าง ๆ ภายในงานด้วยความสนพระทัย
สำหรับไฮไลท์ของงานในวันนี้ มีการประกาศรางวัลความเป็นเลิศในการบูรณาการโครงการ (IPTC Excellence in Project Integration Award) ซึ่งตัดสินโดยคณะกรรมการ IPTC โดยผู้ชนะเลิศ คือ บริษัท โททาล (Total) ในโครงการพัฒนาแหล่ง Laggan และ Tormore ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะเช็ทแลนด์ ประเทศอังกฤษ ที่ได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนาปิโตรเลียมท่ามกลางสภาะวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึง การใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พลเอกอนันตพร ยังได้กล่าวปาฐกถาถึงความท้าทายด้านพลังงานในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปิโตรเลียม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยประเทศไทยสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้เองเป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้วในแหล่งเอราวัณ และแหล่งปิโตรเลียมอีกหลายแหล่งทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง อาทิ แหล่งบงกช และอาทิตย์ที่ดำเนินการโดย ปตท.สผ. คิดเป็นปริมาณการผลิตมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ แต่ยังเป็นการลดการนำเข้าพลังงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงพลังงานและภาคเอกชนต้องเผชิญความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันต่ำ และเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ซึ่งความชำนาญและความสามารถทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเป็นกุญแจสำคัญ ทั้งนี้ ความมั่นคงทางพลังงานยังคงเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนั้นเป็นหนึ่งในนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยภายใต้โมเดล "ประเทศไทย 4.0" ซึ่งภายใต้นโยบายดังกล่าว นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้ประเทศก้าวเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ (Knowledge-Based Society) และเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) อันเป็นการลดการใช้ทรัพยากรเพื่อให้เกิดคุณค่ามากที่สุด ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 พัฒนาไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยเชื่อว่างานประชุม IPTC ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีที่ทุกภาคส่วนจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ และร่วมมือกันสร้างสรรค์นวัตกรรม อันจะส่งผลดีต่อทั้งอุตสาหกรรมพลังงานและต่อประเทศไทย
ภายในงาน IPTC นอกจากจะมีการประชุมเชิงวิชาการ แล้ว ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่น่าสนใจจากบริษัทน้ำมันและก๊าซทั่วโลกกว่า 30 บริษัท โดยนิทรรศการของ ปตท.สผ. และกลุ่ม ปตท. ที่นำมาจัดแสดง ประกอบด้วยนิทรรศการ "พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย" แสดงพระราชกรณียกิจและพระอัจริยภาพด้านพลังงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และนิทรรศการ "PTT Group Business Value Chain" แสดงภาพรวมการดำเนินงานของ 7 บริษัทในกลุ่ม ปตท. จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดจากบริษัทปิโตรเลียมชั้นนำทั่วโลก อาทิ PETRONAS, Halliburton Energy Services Inc., China National Petroleum Corporation, Qatar Petroleum, Kuwait Oil Company และ Schlumberger เป็นต้น
สำหรับเทคโนโลยีที่ ปตท.สผ. นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ได้แก่ ยานยนต์ใต้น้ำควบคุมด้วยตัวเอง (Autonomous Underwater Vehicle หรือ AUV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คนไทยพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับกิจกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านวิศวกรรมในการซ่อมบำรุง ลดต้นทุน และยังเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลงานของนักเรียนมัธยมปลาย จาก 20 โรงเรียนทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมในกิจกรรมEducation Days and Teachers' Day ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในงาน IPTC โดยนักเรียนได้นำโครงงานทางวิทยาศาสตร์และผลงานแบบจำลอง 3 มิติที่สามารถปฏิบัติได้จริงมาร่วมประกวดในหัวข้อเกี่ยวกับการอนุรักษ์และความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศไทย และชุมชนที่ใช้พลังงานซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศมาจัดแสดง ซึ่งโรงเรียนผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลทุนการศึกษา พร้อมถ้วยรางวัลจาก ปตท.สผ.
งานประชุมเทคโนโลยีปิโตรเลียมนานาชาติครั้งที่ 10 หรือ The 10th edition of the International Petroleum Technology Conference (IPTC) จะจัดถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559 นี้ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ จึงขอเชิญนิสิต นักศึกษาในสาขาธรณีศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ และบุคลากรในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เข้าร่วมชมนิทรรศการและงานประชุมทางวิชาการภายในงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.iptcnet.org/2016/index.php และ www.facebook.com/pttepplc
« Last Edit: November 17, 2016, 08:25:31 AM by MSN »
Logged