CGH เผยกำไรไตรมาส 3 แตะ 260.28 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จปรับโครงสร้างธุรกิจ

CGH เผยกำไรไตรมาส 3 แตะ 260.28 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จปรับโครงสร้างธุรกิจ





บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (“CGH”) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 แข็งแกร่งด้วยกำไรสุทธิ 260.28ล้านบาท เพิ่มขึ้น 210.28% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 ซึ่งมีกำไร 50.00 ล้านบาท

นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่าบริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นอย่างมากในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 โดยมีรายได้ 511.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.75% เทียบกับ 297.61 ล้านบาทของไตรมาสที่ 3 ของปี 2558

“ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาถือว่าน่าพอใจมาก และสะท้อนให้เห็นว่าเราประสบความสำเร็จในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี ด้วยการใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เปิดกว้างอย่างที่เราเรียกว่า “New Edge of Investment”  หรือการลงทุนแนวใหม่”

การลงทุนแนวใหม่ของ CGH มุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ การมีผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม  การมีทีมสนับสนุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและกระบวนการลงทุนแบบมืออาชีพที่ได้มาตรฐานระดับโลกซึ่งช่วยสร้างผลตอบแทนที่รวดเร็วและน่าพอใจ และการมีสภาพคล่องและศักยภาพสูงในการลงทุน

นายทอมมี่กล่าวเสริมว่า “นอกจากการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุนแล้ว  เรายังเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนด้วยการมีทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน  มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และการเสริมสร้างจุดแข็งทางธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่อง”

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง คือ การขายสินทรัพย์บางส่วนในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์รายย่อยบางส่วนออกไปให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) (UOBKH) หลังจากเห็นแนวโน้มว่าธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะสร้างรายได้จากค่านายหน้าลดลง ทำให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับธุรกิจการลงทุนได้มากขึ้น

ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทในเครือ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ CGH มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ผ่านมา  โดยไตรมาสที่ 3 CGH มีกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 0.0597 บาท เพิ่มขึ้นจาก 0.0115 บาทไทย จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทในเครือของ CGH มีผลประกอบการที่น่าพอใจในไตรมาสที่ 3 ของปี 2559 ได้แก่

•   บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS  มีกำไรสุทธิ 189.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 371.52% หลังจากได้ขายสินทรัพย์บางส่วนในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์รายย่อยบางส่วนออกไปให้แก่ UOBKH  ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลงได้เป็นอย่างดี และมีผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้มากขึ้น

•   บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI  มีกำไรสุทธิ 221.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384.75%  เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2558 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 75.13 ล้านบาท  เนื่องจากการปรับทิศทางธุรกิจสู่พลังงานทางเลือก โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกที่บริษัทก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2559  PDI ได้ลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 3 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 13 เมกะวัตต์ รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,900 ล้านบาท  ส่วนธุรกิจรีไซเคิล บริษัทฯ ได้ก้าวสู่นวัตกรรมขั้นสูง โดยพีดีไอ แมททีเรียลซึ่งเป็นบริษัทย่อยของพีดีไอได้ร่วมทุนกับบริษัท คาร์บอน รีดักชั่น เทคโนโลยี (CRT: Carbon Reduction Technology AS) ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านรีไซเคิลของสแกนดิเนเวีย โดยร่วมกันจัดตั้งบริษัท พีดีไอ-ซีอาร์ที จำกัด ขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจสกัดสังกะสีจากวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากโรงงานอุตสาหกรรมโดยผ่านกระบวนการซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ใช้อุณหภูมิสูงมากเป็นพิเศษ ( UHT: Ultra-high-temperature) บริษัท พีดีไอ-ซีอาร์ที ได้รับสิทธิเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้โดยได้รับสิทธิดังกล่าวจากบริษัท สแกนอาร์ค พลาสมา เทคโนโลยี ประเทศสวีเดน ซึ่งในเอเชียยังไม่มีประเทศใดนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ โดยเป็นเทคโนโลยีที่สามารถรีไซเคิลของเสียอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความคุ้มค่าสูงสุดในเชิงพาณิชย์

•   บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC มีกำไรสุทธิ 51.23  ล้านบาท โดยมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน  นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลงานที่โดดเด่นและได้รับรางวัลต่างๆ เช่น  กองทุน I-DEVELOP ที่ได้รับรางวัล “กองทุนดีเด่นประจำปี 2559” จากนิตยสารการเงินการธนาคารประจำปี 2559 เป็นต้น

•   บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD มีกำไรสุทธิ 174.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.00% โดยในไตรมาสที่ผ่านมา CGD มีการดำเนินงานที่สำคัญหลายโครงการ อาทิ การลงทุนในโครงการ Chao Phraya Estate (โครงการบนพื้นที่ 36 ไร่ ซึ่งประกอบไปด้วย Four Seasons hotel, Capella hotel และ Four Seasons Private Residences) และศูนย์การศึกษาในประเทศอังกฤษ เป็นต้น

“CGH ยังมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่เป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนให้กับการลงทุนของบริษัทในอัตราไม่ต่ำกว่า 15% และเป็นหนึ่งใน SET50 ภายในปี 2563” นายทอมมี่กล่าว

“สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เราจะยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี นอกจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทลูกและบริษัทในเครือแล้ว CGH ยังสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะบริษัทในธุรกิจพลังงานทดแทน อสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งบริการเกี่ยวกับท่องเที่ยวและที่พัก  พร้อมกับค้นหาโมเดลในการทำธุรกิจที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่การดำเนินงาน การสร้างพลังร่วมหรือ Synergy ระหว่างหน่วยงาน และการธุรกิจที่มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพื่อนำมาปรับปรุงและเพิ่มมูลค่า

“นอกจากนี้ เรามุ่งสร้างความสำเร็จจาก 5 กลยุทธ์หลักได้แก่ พอร์ตฟอลิโอการลงทุนที่กระจายตัวหลากหลาย (Dynamic Portfolio)   เครือข่ายธุรกิจที่มีความเข้มแข็งจากพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จากทั่วโลก (Extensive Network)  ระบบเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานสอดคล้องกัน (Synergistic Infrastructure)  การสร้างมูลค่าที่เหมาะสม (Optimal Value)  และ การลงทุนเชิงรุก (Active Investment Approach) ซึ่งกลยุทธ์สำคัญเหล่านี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านบุคลากรและการเงิน รวมทั้งเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนอีกมาก ซึ่งจะช่วยให้ CGH มีความแข็งแกร่ง แต่ยืดหยุ่น สามารถสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อการเติบโต และประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง” นายทอมมี่กล่าว

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจโฮลดิ้งส์ โดยเน้นการลงทุนในระยะยาวในธุรกิจต่างๆ ด้วยแนวคิดในการลงทุนที่เปิดกว้างเพื่อเปิดรับทุกโอกาสในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบเดิมหรือในแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน บริษัทฯ มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและการเงินที่แข็งแกร่ง และกลยุทธ์หลัก 5 ด้านคือ พอร์ตฟอลิโอการลงทุนที่กระจายตัวหลากหลาย เครือข่ายธุรกิจที่มีความเข้มแข็งจากพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จากทั่วโลก  ระบบเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานสอดคล้องกัน   การสร้างมูลค่าที่เหมาะสม และการลงทุน เชิงรุก  และมีบริษัทในเครือจำนวน 4 แห่งได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)  บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

CGH records 260.28 million baht net profit in Q3/2016 as its business restructure yields good results





Country Group Holdings PCL (CGH) today announced a strong 2016 third-quarter performance with a net profit of 260.28 million baht, an increase of 210.28% from 50.00 million baht in the same quarter last year.

Chief Executive Officer, Tommy Taechaubol, said CGH’s revenue in the third quarter ending September 30, 2016 increased to 511.16 million baht compared to 297.61 million baht in the same quarter last year.

“We are happy about the results, which proved that our decision to offer consistent returns to our investors through open-minded investment initiatives, or what we call the ‘New Edge of Investment’, is on the right track,” said Mr Taechaubol.

By “New Edge of Investment”, CGH means focusing on three pillars – strong and diversified products across diverse industries, proven constant income from its subsidiaries and associates, and world-class support from its team of experts with a professional investment process that yields faster returns and high liquidity and better leverages its capability.

“In addition to consistent returns to investors, we always remain committed to enhancing the trust and confidence of our investors by having a clear business direction, maintaining a strong balance sheet and continuing to build on our core business strengths,” Mr Taechaubol added.

Mr Taechaubol said a major contributing factor to such a strong performance was the partial transfer of its retail business to UOBKH. The restructure has allowed the company to maintain its focus on its strategy to transform its business from securities to investment holdings, spurred by the downward trend of the overall brokerage commissions.

Increased profit sharing from subsidiaries and affiliates also bolstered the company’s performance. In the third quarter, CGH recorded 0.0597 baht earnings per share, equivalent to a 419.13% increase from the same period last year. 

All of its subsidiaries and affiliates posted strong financial performances in Q3/2016 as follows:

•   Country Group Securities PCL (CGS): 189.26 million baht net profit, an increase of 371.52%, after the partial sale of its retail business to UOBKH earlier this year resulted in a greater focus on leaning its SG&A expenses and higher margin products.

•   Padaeng Industry PCL (PDI): 221.45 million baht net profit, an increase of 394.75% from a net loss of 75.13 million baht in the same period last year.  The company’s first solar farm in Japan started its commercial operations on October 3, 2016. It has invested about 1,900 million baht in three Japanese solar farm projects with a total capacity of 13 MW. For its recycling business, PDI goes for a break-through innovation. PDI Materials entered into a joint venture agreement with CRT, Carbon Reduction Technology AS, a leading Scandinavian recycling company. The joint venture PDI-CRT aims to create sustainable business from the recovery of zinc from industrial waste streams using innovative ultra-high-temperature (UHT) processes. PDI-CRT has gained exclusive rights in Thailand to employ such technology, provided by ScanArc Plasma Technologies AB of Sweden. This unique process is not yet available in Asia. The technology to be deployed has the highest performance commercially available and as such contributes to the most efficient, environmentally friendly and effective, hazardous waste recycling.

•   MFC Asset Management PCL  (MFC): 51.23 million baht net profit. New product developments have enabled the company to achieve greater product diversity and cost efficiency. The outstanding performance earned MFC the “Best Mutual Fund of the Year 2016” award for its I-DEVELOP product at the Money & Banking Awards 2016.

•   Country Group Development PCL  (CGD): 174.15 million baht revenue, an increase of 39%. CGD has also made various significant moves including investments in Chao Phraya project (a 36-rai site which include Four Seasons hotel, Capella hotel, and Four Seasons Private Residences) and an education centre in the UK.

“We will continue to pursue our goal of achieving an investment return of more than 15% and to make the SET50 Index by 2020,” said Mr Taechaubol.

“For the final quarter of this year, we will continue to explore new investment opportunities in both local and international markets in order to create impressive returns for our investors.”

In addition to making strategic investments in its subsidiaries, CGH also focuses on acquisitions of companies with high growth potential, especially those in the renewable energy, real estate and hospitality sectors. It will also seek companies with market-leading business models, strong synergies, or distressed assets.

“We seek to build our success from a core foundation of five key strategic strengths: dynamic portfolio, extensive network, synergistic infrastructure, optimal value and an active investment approach,” added Mr Taechaubol.

About Country Group Holdings PCL
CGH is a leading investment holding company that makes long-term investments across multiple sectors. Our mind-opening initiatives, where new investment opportunities beyond the traditional scope are explored, are key to maximising returns to investors. This is backed by the company’s strong human and financial capital and the five key strengths: dynamic portfolio, extensive network, synergistic infrastructure, optimal value and an active investment approach. CGH has four subsidiaries and affiliates: Country Group Securities Pcl (CGS), Padaeng Industry Pcl (PDI), MFC Asset Management Pcl (MFC) and Country Group Development Pcl (CGD).